จากกรณี คุณแม่ชาวจ.สมุทนสาคร ร้องขอให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือลูกสาว วัย 2 ขวบ ถูกสุนัขเพื่อนบ้านกัดไหล่ข้างซ้าย แผลเหวอะหวะ เย็บกว่า 20 กว่าเข็ม ความยาวแผลกว่า 10 เซ็น ซ้ำเจ้าของสุนัขอ้างว่าใช่หมาตัวเอง ไม่รับผิดชอบ ไม่มาเยียวยาใดๆ ไล่ให้แม่น้องไปฟ้องศาล ซ้ำยังขู่แจ้งความดำเนินคดีกับพลเมืองดีที่เอาคลิปหลักฐานให้แม่น้อง พร้อมกล้องวงจรปิด
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุที่ 21 ก.ค.66 เวลาประมาณ 10.21 น. บริเวณหน้าบ้าน หมู่3 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จะเห็นได้ว่า น้องนิว (นามสมมติ) เดินเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน หน้าร้านค้ารถเข็นส้มตำ ก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ใกล้ผู้เป็นแม่ ที่กำลังยืนซื้อของอยู่ แต่ระหว่างนั้นสุนัขตัวดังกล่าว ได้วิ่งเข้ากระโจนใส่น้องนิวจนล้มลงแล้วสะบาดอย่างรุนแรง ผู้เป็นแม่ตกใจพยายามไล่สุนัข สุนัขจึงวิ่งหนีไป หลังจากนั้นผู้เป็นแม่รีบอุ้มลูกและวิ่งเข้าบ้าน
กัน จอมพลัง และแม่เด็ก ติดตามคดีที่สภ.บ้านแพ้ว
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กัน จอมพลังเดินทางไปที่ สภ.บ้านแพ้ว ต.สามหลัก อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เข้าพบ พ.ต.อ.พรชัย อริยานนท์ ผกก.สภ.บ้านแพ้ว พร้อม คุณแม่ นางสาว นันทกานต์ หัสมิ อายุ 19 ปี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี
ทีมข่าวได้สอบถาม นางสาวนันทกานต์ หัสมิ อายุ 19 ปี คุณแม่ของน้องนิว เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 ในขณะที่ตนเองพาลูกสาววัย 2 ขวบ ไปบ้านคุณย่า ขณะที่ตนเองเดินไปซื้อส้มตำอยู่ภายในบ้าน ซึ่งร้านรถเข็น ระหว่างที่ลูกสาวของตน เดินมาหาตนเอง อยู่ข้างๆ จู่ๆ สุนัขของเพื่อนบ้าน สีเทาวิ่งออกมาจากที่ดินข้างๆ วิ่งเข้ากระโจนใส่เข้าหาลูกสาวตน และกัดที่บริเวณไหล่ข้างซ้าย สะบัดอยู่หลายครั้ง
หลังจากนั้นน้องสาวที่ยืนข้างๆตั้งสติได้จึงถีบหมาออกไป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากนั้นตนเองอุ้มลูกสาววิ่งเข้าบ้านก่อนจะพาไปโรงพยาบาล ซึ่งลูกสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนข้างซ้าย ไหล่ข้างซ้ายมีบอดแผลเหวอะหวะ ความยาวกว่า 10 เซนติเมตร บาดแผลลึกถึงกระดูก เย็บ มากกว่า 20 เข็ม หลังจากที่ตนนำลูกสาวส่งโรงพยาบาล ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน
ซึ่งกลับถูกปฏิเสธว่าไม่ใช่สุนัขของตนเองเป็นเพียงสุนัขที่หลงเข้ามาในบ้านเท่านั้น แค่คอยให้ข้างให้น้ำกิน เจ้าของบ้านอ้างว่าผูกไว้แล้ว แต่มันออกไปเอง ตนเองไม่ได้เรียกร้อง อะไรเลยแค่ขอให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของน้องที่ไปรักษาจำนวน 15,000 บาท ซึ่งเจ้าของบ้านได้ปฏิเสธอ้างว่าจะจ่ายแค่ 10,000 บาทแต่ขอผ่อนชำระและถ้าอยากได้มากกว่านี้ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าของสุนัขถอดปลอกคอของสุนัขออก หลักจากนั้นเพียง 10 วัน สุนัขเสียชีวิตอย่างปริศนา เจ้าของบ้านได้มีการประสานงานกับเทศบาลให้มาเก็บศพสุนัขตัวดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ทางเทศบาลเกิดความสงสัยจึงได้มีการนำสุนัขไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ
ตนเองเชื่อว่าสุนัขตัวดังกล่าวเป็นของเพื่อนบ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้หลานของเจ้าของบ้านก็ถูกสุนัขตัวดังกล่าวกัดจนได้รับบาดเจ็บ สองครั้ง จนต้องทำประตูกันสุนัขกับหลานให้อยู่แยกกัน ก่อนที่จะมาเกิดเหตุกับลูกสาวของตนเอง
จากที่ลูกสาวของตนเป็นเด็กร่าเริงปัจจุบันลูกสาวของตนมีอาการหวาดระแวง กลัว อยู่ๆน้องก็กรี๊ดขึ้นมา เวลาไปไหนไม่ยอมเดิน เพราะกลัว เวลาเห็นสุขักก็จะกลัวอยู่ตลอดเวลา อยากให้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกสาว อยากให้มาเบียวยารับผิดชอบน้อง
คู่กรณีแม่เด็ก เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 อีกมุม
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านหลังหนึ่งที่ผู้เสียหายระบุว่า เป็นเจ้าของสุนัขนั้นซึ่งเป็นบ้านหลังที่อยู่ติดกันกับบริเวณจุดเกิดเหตุ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวพิมพ์ญาดา คู่กรณีที่ถูกกล่าวอ้าง อายุ 47 ปี ยืนยันว่า หมาที่กัดเด็กไม่ใช่หมาของตนเอง แต่หมาจรจัดในพื้นที่ ซึ่งตนเองคอยให้ข้าวให้อาหารมานานถึง 1 ปี เนื่องจากตนเองเป็นคนรักสัตว์ เลี้ยงทั้งสุนัขและเลี้ยงแมวไว้ในบ้านหลายตัว เวลาที่ให้อาหารหมาจรจัดตัวดังกล่าวก็จะมากินด้วยซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้นที่เป็นคนให้อาหารหมาตัวดังกล่าว แต่คนในพื้นที่ก็ให้ด้วยเช่นกัน
นางสาวพิมพ์ญาดา ยอมรับว่า หมาตัวดังกล่าวมีลักษณะที่ดุเพราะเคยกัดหลานตนเองมา 2 ครั้ง ที่บริเวณใบหน้า เย็บเกือบ 50 เข็ม และเคยไล่ไปแล้วหลายครั้งหมาตัวดังกล่าวก็ไม่ไปเพราะคุ้นชินกับสถานที่ จนกระทั่งถึงขั้นล่ามโซ่ ที่คอ ป้องกันไม่ให้หมาตัวดังกล่าวไปกัดชาวบ้านในพื้นที่เวลาที่จะต้อง ใช้ทางเข้าออก ไปเก็บมะพร้าวในสวน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ตนเองก็อนุญาตให้ผ่านทางเข้าออก เพราะมองว่าทุกคนเป็นเครือญาติกันและมีสวนใกล้กัน
นอกจากนี้ ผู้เสียหาย ยังยืนว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนเองก็ได้ไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาล โดยแม่ของเด็ก ได้เรียกค่าเสียหาย เป็นค่าทำขวัญ 100,000 บาท ไม่รวมกับค่ารักษาพยาบาลอีก 15,000 บาท รวมไปถึงค่าเย็บแผล ที่แม่ ของเด็กบอกว่าเย็บไป 40 เข็มต้องจ่ายมาเข็มละ 1,000 บาทตนเองมองว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายที่เยอะเกินไป มีจ่ายให้แค่ 10,000 บาทเท่านั้นตามค่ารักษาพยายามตามจริง แต่จะขอผ่อนจ่ายเนื่องจากตนเองไม่ได้ทำงาน อาศัยอยู่ในบ้านดูแลสวนเท่านั้น หากเรียกเกินกว่านี้ก็ยืนยันว่าให้ไปฟ้องร้องเอาที่ศาล
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าตนเองจะฟ้องร้องในกรณีที่ฝั่งผู้เสียหายนำคลิปวงจรปิดไปเผยแพร่นั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่ที่ตนเองจะไป แจ้งความคือเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากฝั่งคู่กรณีใช้คำพูดในลักษณะข่มขู่ว่า พ่อของเด็กเป็นนักเลง อาจจะเกิดขึ้นเหตุ ไม่ปลอดภัยหากตนเองไม่แสดงความรับผิดชอบ ย้ำว่าไม่เกี่ยวกับภาพคลิปวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหา ยังยืนยันว่า ผู้เสียหาย กับตนเองเป็นเครือญาติกัน มีอะไรน่าจะพูดคุยกัน ทำความเข้าใจกัน ไม่น่าจะไปคุยที่โรงพักหรือทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในลักษณะแบบนี้ ยอมรับว่า หมาตัวดังกล่าวมีลักษณะที่ดุเพราะเคยกัดหลานตนเองมา 2 ครั้ง ที่บริเวณใบหน้า เย็บเกือบ 50 เข็ม และเคยไล่ไปแล้วหลายครั้งหมาตัวดังกล่าวก็ไม่ไปเพราะคุ้นชินกับสถานที่ จนกระทั่งถึงขั้นล่ามโซ่ ที่คอ ป้องกันไม่ให้หมาตัวดังกล่าวไปกัดชาวบ้านในพื้นที่เวลาที่จะต้อง ใช้ทางเข้าออก ไปเก็บมะพร้าวในสวน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ตนเองก็อนุญาตให้ผ่านทางเข้าออก เพราะมองว่าทุกคนเป็นเครือญาติกันและมีสวนใกล้กัน
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าตนเองจะฟ้องร้องในกรณีที่ฝั่งผู้เสียหายนำคลิปวงจรปิดไปเผยแพร่นั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่ที่ตนเองจะไป แจ้งความคือเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากฝั่งคู่กรณีใช้คำพูดในลักษณะข่มขู่ว่า พ่อของเด็กเป็นนักเลง อาจจะเกิดขึ้นเหตุ ไม่ปลอดภัยหากตนเองไม่แสดงความรับผิดชอบ ย้ำว่าไม่เกี่ยวกับภาพคลิปวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหา ยังยืนยันว่า ผู้เสียหาย กับตนเองเป็นเครือญาติกัน มีอะไรน่าจะพูดคุยกัน ทำความเข้าใจกัน ไม่น่าจะไปคุยที่โรงพักหรือทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในลักษณะแบบนี้