จากกรณีที่โลกออนไลน์ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอว่า นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ หรือ ต้นกล้า ส.ส.ยานนาวา-บางคอแหลม กทม. พรรคก้าวไกล ได้มีเหตุวิวาทในร้านอาหาร โดยคลิปวิดีโอ มีภาพของชายรายหนึ่ง ที่เข้ามาประชิดตัวกับผู้หญิงด้านข้างของนายจรยุทธ และมีการถึงเนื้อถึงตัวหลายครั้ง และจับที่คอผู้หญิงรายดังกล่าว จากนั้นได้นายจรยุทธ จึงได้เข้าห้าม ก่อนที่ชายเสื้อดำได้ใช้มือตบศีรษะนายจรยุทธ ก่อนล้มลงไป และมีการวิวาทก่อนที่การ์ดและเจ้าหน้าที่ร้านจะได้เข้าห้ามปราม

สส.ก้าวไกล โพสต์แจงเหตุทะเลาะวิวาท ยอมรับทำไม่ถูกต้อง นำเป็นบทเรียน

นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในร้านอาหาร พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 11 สิงหาคม ระบุว่า

ตนได้ไปดื่มกินที่ร้านอาหารที่ซอยเอกมัยซึ่งเป็นร้านที่ไปเป็นประจำ โดยในคืนนั้นมีเพื่อนๆหลายคนไปร่วมด้วย หลังจากร้านปิดระหว่างรอทุกคนออกจากร้าน มีชายคนนึงได้เข้ามานั่งคุยที่โต๊ะพวกเรา หลังจากนั้นได้ลุกขึ้นและถีบเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ หลังจากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวได้เดินกลับมาที่โต๊ะและเริ่มมีท่าทีคุกคามใส่น้องผู้หญิง จนตนที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยกมือขึ้นเพื่อตักเตือนแต่ถูกสวนกลับด้วยการตบที่หน้าอย่างแรง พอผมลุกขึ้นยืนชายคนดังกล่าวได้ต่อยเข้าที่หน้าตนอีกทีหนึ่ง หลังจากนั้นตนจึงได้ตอบโต้ตามสัญชาตญาณของวิญญูชนคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องราวทั้งหมดจบลงกันในคืนนั้น ไม่มีการดำเนินคดีจากทั้งสองฝ่าย

“ผมยอมรับว่าการกระทำของตนไม่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะตอบโต้กลับไป ไม่ควรใช้ความรุนแรง ในกรณีนี้ผมยอมรับผิดครับ ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจและเลือกผมเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร บทเรียนครั้งนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญมากครับ”

นายจรยุทธ ยังกล่าวถึงกรณี กรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่ลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยที่ไม่ได้ติดต่อมาสอบถามตนเลย จึงส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดไปมาก จึงขอให้ทางสำนักข่าวเผยแพร่ข้อเท็จจริงที่ตนชี้แจงใหม่นี้ด้วย

พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่ติดต่อเข้ามา ตนขอชี้แจงครั้งเดียวในโพสนี้และจะไม่ขอให้สัมภาษณ์เพื่อขยายความอีก เรื่องนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อประชาชน ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจจุดประสงค์และนำเสนองานของตนที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอนาคต

ในช่วงท้ายนายจรยุทธได้ขอโทษทุกท่านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนี้ไปตนจะดำรงตนให้เหมาะสมต่อการเป็นผู้แทนราษฎร

รุ้ง สาวเสื้อฟ้า เผยเรื่องจริงก่อนดราม่า

รุ้ง สาวเสื้อฟ้าในคลิปเหตุการณ์ โพสต์เฟซบุ๊กเผยว่า เราได้ไปกินข้าวตามปกติที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทุกอย่างปกติดี จนถึงร้านปิดและกำลังจะกลับ มีชายคนหนึ่งมีอาการเมามาก ก่อนหน้านั้นเดินมาที่โต๊ะ มาป่วนตลอดทางเราก็หลบเลี่ยง เราไม่ได้รู้จักกัน และช่วงเวลาที่อยู่ที่ร้านเราไม่เคยสนทนากับชายคนดังกล่าวเลย

ช่วงแรกเขายืนชนที่โต๊ะก่อนจนโต๊ะเซเราก็ว่าเขาคงเมาแล้วเดินไปเตะเก้าอี้ เหมือนมาหาเรื่องก่อน จากนั้นก็เดินออกไปแล้วกลับเดินเข้ามาหลังชนเรา บีบและกดคอเราอีก 2-3 ครั้ง จนเริ่มผิดสังเกต และเริ่มรู้สึกไม่ดีว่าเขาอาจจะทั้งคุกคามทางเพศและทำร้ายร่างกายเราด้วยหรือไม่ จึงหันไปหาคุณต้นกล้าที่มาด้วยกัน

แล้วคุณต้นกล้าก็หันมาถามเราว่า เรารู้จักชายเสื้อดำไหม เราตอบว่าไม่ได้รู้จักเลย คุณต้นกล้าพยายามสะกิดเขาเพื่อให้เอามือออกจาคอเรา เสี้ยววินาทีเขาก็ลงมือทำร้ายร่างกายคุณต้นกล้า จนเกิดการชลมุนในร้านและการ์ดของทางร้านเข้ามาห้ามและดึงเขาออกจากร้าน

ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ชัดว่าทางเราไม่ได้ไปหาเรื่องเขาก่อนเลย

สุดท้ายก็ออกไปเคลียร์กันจบข้างนอก ชายเสื้อดำขอโทษ จนตำรวจมา และไม่เอาความ

“รองโฆษกก้าวไกล” ยันไม่ได้ให้ร้านเปิดเกินเวลา เตรียมเรียกคนในเหตุการณ์ชี้แจงกรรมการวินัยของพรรค

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีเหตุทะเลาะวิวาทที่มีสส.พรรคก้าวไกล เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยระบุว่า นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกลได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับทีมงานพรรคและทีมงานตัวเองเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไป ซึ่งในโต๊ะดังกล่าวมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

ยืนยันไม่ได้มีการข่มขู่ให้ร้านเปิดเกินเวลาระหว่างรอพนักงานเข้ามาเก็บโต๊ะ มีชายคู่กรณี เดินเข้ามาในกลุ่มเพื่อขอถ่ายรูปกับกลุ่มของ สส. ด้วยเช่นเดียวกับแฟนคลับปกติ แต่เมื่อเดินออกไปได้ถีบเก้าอี้จนล้มคว่ำ เหมือนคนเมาขาดสติ นายจรยุทธ เดินมาเห็นเหตุการจึงจับเก้าอี้ตั้งขึ้น และได้เข้ามานั่งข้าง น้องรุ้ง ทีมงานของพรรค จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้เดินกลับมา ยืนด้านหลังน้องรุ้ง และตั้งใจเอาเข่ากระแทกด้านหลังน้องรุ้งอย่างแรงจนเกือบตกเก้าอี้จากนั้นเอามือมาบีบคอน้องรุ้งจากด้านหลัง จนนายจรยุทธ ต้องหันไปถามน้องรุ้งว่ารู้จักกันหรือไม่ แต่น้องรุ้งปฏิเสธ

นายจรยุทธจึงเอามือไปจับที่แขนของชายคนดังกล่าวขอให้ปล่อยมือจากคอของน้องรุ้ง แต่ชายคนดังกล่าวกลับหันมาตบหน้า นายจรยุทธ ทำให้ นายจรยุทธลุกขึ้นยืนมองหน้า แต่มีคนเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกันในจังหวะนั้น ชายคนดังกล่าวอาศัยกลับเดินเข้ามาต่อยที่หน้าของ นายจรยุทธแบบไม่มีสาเหตุ และลื่นล้มลงไปเอง ทำให้ นายจรยุทธและคนที่มาด้วยกัน ใช้เท้าถีบเพื่อตอบโต้จากการที่ถูกทำร้ายร่างกาย จากนั้นการ์ดของทางร้ายก็ได้มาแยกทั้งคู่ออกจากกัน และได้มีการนำทั้งคู่ออกมาพูดคุยกันนอกร้าน แต่ด้วยอารมณ์ที่ผ่านการถูกทำร้ายร่างกายมาทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้มีการใช้กำลังกันด้านนอกร้านอีกครั้ง การ์ดของร้านจึงได้แยก

ทั้ง 2 ฝ่ายและทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุและไกล่เกลี่ย ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจเอาความกันและกัน

ส่วนสาเหตุของการก่อความวุ่นวายดังกล่าวนั้นยังไม่แน่ชัด แต่มีข้อมูลว่าคู่กรณีอาจไม่ชอบพรรคก้าวไกล แต่ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน

ทั้งนี้พรรคก้าวไกลตระหนักถึงการเป็นตัวแทนและแบบอย่างของประชาชนทุกคน ทางพรรคและนายจรยุทธ รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าทางนายจรยุทธจะถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกตบหน้าและต่อยหน้าก่อน ก็ไม่ควรใช้กำลังตอบโต้กลับ การมีสติและควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่เป็นผู้แทนของประชาชน ทางพรรคและนายจรยุทธ ขอน้อมรับคำตำหนิจากสังคมและพร้อมที่เข้าสู่การตรวจสอบ แม้จะไม่มีการแจ้วดำเนินคดีต่อกัน แต่ตามระเบียบของพรรค ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการวินัยตามขั้นตอน

ไผ่ ลิกค์ โพสต์คนในโต๊ะ สส.ก้าวไกล มีคนในแก๊งมาเก๊า 888 วอนบิ๊กโจ๊กตรวจสอบ

ล่าสุด นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เรื่องที่เกิดขึ้น จะถูกจะผิด จะทำการป้องกันตัว หรือเกินกว่าเหตุผมไม่ขอยุ่งเกี่ยว จะร้านเลิกแล้วไม่ยอมกลับผมก็หรือร้านเช็คบิลช้าผมก็ไม่เกี่ยว แต่ผมอยากจะแจ้งทางเจ้าหน้าที่หน่อยครับ มีคนในนั้น ที่เป็นเพื่อนกับแก็ง 4บ มาเก็า888 และเป็นกลุ่มเดียวกับ เอ็ดดี้ที่หนีคดีอยู่แหล่งข่าววงในบอกว่า ไปด้วยแต่เพิ่งกลับมา ว่าทำงานอะไรเกี่ยวกับธุรกิจสีอะไร ฝากบิ๊กโจ๊กช่วยเช็คเพื่อความสบายใจของประชาชนหน่อยนะครับ”

ก้าวไกลโต้ถาม ไผ่ รู้จักใครธุรกิจสีเทา

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนบางสำนักกล่าวหาว่าตนคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวเนื่องจากมีธุระอยู่ที่อื่น แต่จากการที่ตนได้พูดคุยกับนายจรยุทธ์ เราว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การทะเลาะวิวาท แต่ถูกคู่กรณีหาเรื่อง ซึ่งคู่กรณีได้เข้ามาลวนลามสุภาพสตรีที่นั่งอยู่ในกลุ่ม นายจรยุทธ์จึงได้มีการสะกิดเตือน แต่คู่กรณีคงไม่เข้าใจและใช้กำลังตบตานายจรยุทธ์ก่อน จากนั้นมีการโต้เถียงกันก่อนที่คู่กรณีจะล้มลงกับพื้นเอง

ในส่วนที่ฝ่ายนายจรยุทธ์มีการตู้สวนกลับก็ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวคู่กรณีมีอาวุธจึงต้องป้องกันตัวเองก่อน หลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็มีการเคลียร์ใจกันก่อนที่จะแยกย้ายกันซึ่งทุกอย่างจบลงแล้ว และในส่วนประเด็นที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวอ้างว่าหนึ่งในคนที่นั่งรับประทานอาหารกับนายจรยุทธ์รู้จักกับกลุ่มธุรกิจสีเทา ตนอยากโต้ถามนายไผ่คืนว่า หากในไผ่รู้ข้อมูลส่วนนี้ก็แปลว่านายไผ่ก็ต้องรู้จักกับคนที่ทำธุรกิจสีเทา แต่ในส่วนนายจรยุทธ์จะรู้จักหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่หากในไทยจะออกมาแฉก็แปลว่าในไผ่ก็ต้องรู้จักหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสีเทา