วันที่ 13 ส.ค. 2566 เกิดเหตุฆาตกรรมชายวัย 37 ปี ยัดกระสอบทิ้งหนองน้ำสาธารณะ บ้านโสกจาน ม.3 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อนำกระสอบขึ้นจากน้ำ และเปิดดูจึงพบเป็นศพของนายกนกพล หรือกุ้ง อายุ 37 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ไม่สวมรองเท้า นอนในลักษณะนอนขดหรือชันเข่า ภายในกระสอบสีขาว มีกระสอบสีเหลืองคลุมหัวและกระสอบสีน้ำเงินคลุมส่วนล่าง
ภรรยาผู้เสียชีวิตมั่นใจคนก่อเหตุเป็นเพื่อนร่วมงานของสามี เพราะอยู่ด้วยคนสุดท้าย และมีพิรุธขนถุงกระสอบใส่รถซาเล้ง ทาหน้าขาว คาดปิดรอยคราบเลือด
ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามนายชัย เพื่อนของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีข้อมูลว่าอยู่กับนายกนกพลเป็นคนสุดท้ายมาสอบสวน เจ้าตัวสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุเนื่องจากมีปากเสียงกันตอนกินเหล้า
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 14.20 น. วานนี้ (12 ส.ค.) จะเห็นนายกนกพลผู้เสียชีวิต ปั่นจักรยานจากบ้านของนายชัย เพื่อมาซื้อเหล้าขาว 1 ขวด กลับไปดื่มกินกันเพิ่ม หลังจากที่เจอนายชัยที่บ้านพัก ซึ่งเหล้าขาวขวดดังกล่าว นายกนกพลตั้งใจซื้อไปเลี้ยงนายชัยผู้ก่อเหตุโดยเฉพาะ
คลิปต่อมา เวลาประมาณ 17.36 น. เป็นช่วงเวลาที่นายชัยได้ลงมือฆ่านายกนกพลแล้ว จะเห็นนายชัยได้ขี่รถซาเล้งที่ไปยืมชาวบ้านมา ขี่บรรทุกถุงกระสอบขนาดใหญ่ผ่านร้านค้าไป โดยนายชัยได้หลอกชาวบ้านที่มาช่วยขนศพและเจ้าของรถซาเล้งว่า คือ ภายในกระสอบคือซากหมาดำจำนวน 3 ตัว ซึ่งเจ้าตัวกำลังขี่ผ่านหมู่บ้านนำศพของนายกนกพลไปทิ้ง โดยบ้านที่เกิดเหตุ อยู่ห่างจากจุดทิ้งศพบริเวณหนองน้ำประมาณ 1.3 กิโลเมตร
ทีมข่าวสอบถาม นางนัฐิยา อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เนื่องในโอกาสวันแม่ สามีจึงหยุดงาน 1 วัน อยากให้วันแม่ปีนี้ของตนเองมีความสุข พากันไปกินข้าวร้านที่เกิดเหตุในหมู่บ้าน ตนเองกินเบียร์ ส่วนสามีกินเหล้า ต่อมาระหว่างกินเหล้าอยู่ได้มีเพื่อนของสามีชื่อ นายชัย ขี่รถจักรยานมาที่ร้าน สามีจึงเอาเหล้าไปกินกับนายชัย 2 คน พอนั่งกินกันสักพัก ตนเองและพี่สาวนายชัยและเจ้าของร้านพากันไปซื้อเหล้าและกับแกล้มมาเพิ่ม โดยออกไปประมาณ 16.00 น. เหลือเพียงสามีกับนายชัยนั่งดื่มกันอยู่ 2 คน
กระทั่งเวลา 17.00 น. พวกตนเองกลับมาที่ร้านแต่ไม่เห็นสามีแล้ว จึงไปถามนายชัยว่า สามีตนเองไปไหน นายชัยบอกว่า หลานมารับไปแล้ว ตนเองจึงไปถามหลาน แต่หลานกลับบอกว่าไม่ได้ไปรับ จึงกลับไปถามนายชัยอีกครั้ง นายชัยก็มีทีท่าอ้ำๆ อึ้งๆ บอกแต่เพียงว่า นายชัยได้กลับไปแล้ว ตนเองจึงกลับไปที่บ้านและพยายามตามหาและติดต่อสามีแต่ก็ไม่พบ
พอรุ่งเช้าประมาณ 05.00 น. ที่ผ่านมา ตนเองได้ออกไปตามหานายชัยอีกครั้ง ซึ่งเจ้าของร้านโทรบอกให้ตนเองกลับมา ถามว่า ใช่รองเท้าสามีตนเองไหมพร้อมกับมีกองเลือดด้วย ซึ่งตนเองยืนยันว่าใช่ ประกอบกับชาวบ้านในหมู่บ้านบอกว่า เมื่อวานนี้เห็นนายชัยขับรถซาเล้งไปทางหนองน้ำห่างจากหมู่บ้าน 3 กม. จึงไปตามดูตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน และเมื่อไปถึงตนเองก็เห็นกระสอบปุ๋ยจริงๆ
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้สอบถาม นายเด่น อายุ 53 ปี เจ้าของรถซาเล้งที่นายชัยนำรถไปใช้ขนศพ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้ (12 ส.ค.) เวลาประมาณ 4 โมงเย็น ตนเองเพิ่งกลับจากทำไร่ทำนาโดยได้นำรถซาเล้งเข้าไปจอดไว้ในบ้าน จากนั้นตนเองได้นอนพักสายตาบริเวณเปลนอนหน้าบ้าน นายชัยได้เดินเท้าเข้ามาหาตนเองพร้อมกับพูดขอยืมรถซาเล้งที่จอดอยู่ อ้างว่า มีหมาดำไปเที่ยวไล่กัดเด็กน้อยภายในหมู่บ้าน จึงอยากจะขอยืมรถซาเล้งเอาหมาดำไปทิ้งหน่อย พร้อมกับชวนตนเองให้ช่วยกันขนซากหมาดำขึ้นรถซาเล้งช่วยไปทิ้งด้วย แต่ตอนนั้นตนเองด้วยความเหนื่อยล้า ประกอบกับนายชัยพูดจาตื้ออยู่หลายสิบนาที ด้วยความสงสารและคิดว่านายชัยหวังดีกับเด็กๆ ที่อาสานำหมาดำไปทิ้งให้ จึงยอมให้ยืมรถไปใช้ และตนเองขอนอนพักอยู่บ้าน ไม่ได้ไปช่วยขนหมาดำไปทิ้ง
จากนั้นไม่ถึง 2 ชั่วโมง นายชัย ก็ขี่รถซาเล้งเอามาคืนที่บ้าน พร้อมกับตะโกนบอกตนเองว่า “ผมเอารถมาคืนแล้วจ้า” ก่อนจะเดินเท้าออกจากบ้านไปตามปกติ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร
ทีมข่าวยังได้ภาพกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุอีก 1 ชุด จะเห็นนายชัยผู้ก่อเหตุ หลังจากไปยืมรถซาเล้งบ้านของนายเด่นเพื่อนในหมู่บ้านแล้ว ได้ขี่ออกจากบ้านนายเด่น ในเวลา 17.13 น.
หลังจากนายชัยผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถซาเล้งไปทิ้งศพนายกนกพลแล้ว ช่วงเวลา 17.35 น. โดยมีกล้องวงจรปิดเห็นนายชัยขี่รถซาเล้งมามาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นร้านค้า และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาบน้ำ ปะแป้งหน้าขาว และพูดเล่นกับชาวบ้านตามปกติ อย่างใจเย็น ก่อนจะขี่รถมอเตอร์จากบ้านผู้ใหญ่บ้าน ไปคืนรถซาเล้งที่ใช้ขนศพ
และคลิปอีกเหตุการณ์ ช่วงเวลา 07.29 น. วันที่ 13 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่มีชาวบ้านไปพบศพนายกนกพลที่หนองน้ำแล้ว นายชัยก็ยังเดินทางมาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแวะมาดื่มเหล้าขาวอย่างสบายใจ โดยจะได้ยินเสียงชาวบ้านได้สอบถามนายชัยว่า นายกนกพลหายไปไหน และไปอยู่ในหนองน้ำได้อย่างไร โดยเจ้าตัวยังตีหน้าซื่อและอ้างว่า “ข่อยไม่รู้เรื่องเลย ข่อยกินเหล้าด้วยกันจริงแต่ไม่รู้เรื่องเลย ใครที่มันฆ่า ขอให้ตำรวจจับมันไปโล้ด”
ขณะที่ นายสมคิด อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนช่วยนำศพของผู้ตายนำขึ้นรถซาเล้ง บอกว่า ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ขณะที่ตนเองกำลังเดินจะไปหาปลา ได้เดินผ่านหน้าบ้านของนายชัยผู้ก่อเหตุ
ระหว่างนั้นนายชัยได้ยืนอยู่หน้าบ้าน และโบกมือเรียกให้ตนเองช่วยขนกระสอบบางอย่าง ซึ่งนายชัยได้จอดรถซาเล้งเตรียมจะนำกระสอบดังกล่าวขึ้นรถ ใบหน้าทาแป้งหน้าขาว อาบน้ำตัวหอม โดยนายชัยอ้างว่าในการสอบดังกล่าวเป็นซากหมาดำที่ถูกยาเบื่อตายแล้ว และนายชัยได้ขอแรงจากตนเองให้ช่วยยกกระสอบขึ้นรถซาเล้งเพื่อนำไปโยนทิ้งหน่อย เพราะกระสอบมันหนักยกคนเดียวไม่ไหว
ตนเองด้วยความหวังดีจึงเข้าไปช่วยยก แต่ระหว่างยกได้สังเกตว่ากระสอบดังกล่าวหากเป็นซากหมาจริงทำไมน้ำหนักมากขนาดนั้น จึงเอ่ยปากถามนายชัยว่า ซากหมาจริงๆ ใช่ไหม ทำไมมันหนักนักจัง โดยนายชัยได้ตอบกลับว่า เป็นซากหมาจริงๆ มีทั้งหมด 3 ตัว เลยหนักหน่อย ตนเองจึงได้ช่วยนายชัยยกกระสอบขึ้นรถ โดยตอนนั้นรู้สึกเหมือนกันว่ากระสอบอุ่นๆ และรูปร่างไม่ค่อยเหมือนหมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่เห็นเลือดนอกกระสอบด้วยซ้ำ จากนั้นเมื่อช่วงเสร็จก็เดินทางไปหาปลาต่อโดยไม่ได้คิดอะไร
ทันทีที่วันนี้มาทราบข่าวว่า ซากหมาที่ตนเองช่วยขนไปทิ้ง คือศพของนายกนกพล ตนเองตกใจมาก และโกรธนายชัยมากที่มาหลอกใช้ตนเองขนศพ ซึ่งตนเองเกือบจะซวยติดคุกไปด้วย