จากกรณี กระบะแต่งซิ่ง ตอนเดียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลักษณะรถด้านหน้าซ้ายและขวาสีดำ นอกนั้นสีขาว ฝากระบะท้ายมีสติ๊กเกอร์กระบะซิ่งเชียงใหม่ ชนยายของตนชื่อยายบัวจันทร์ อายุ 64 ปี ชาว ต.มะเขือแจ้ง อ.เมืองลำพูน ถึงแก่ชีวิต แล้วหลบหนีไป
ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 13 ส.ค.2566 ขณะที่ยายบัวจันทร์ฯขับขี่รถจยย. มาตามถนนบ้านสันดอน-เทคโนโลยีหมู่บ้านครู บ้านเหมืองกวักถึงหน้าโรงงานกระเทียมดอง ถูกรถกระบะพุ่งชนแล้วทับซ้ำ แล้วคนขับได้ลงจากพร้อมเพื่อนที่นั่งคู่มาด้วยแล้ววิ่งหนีเข้าไปในโรงงาน
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุ รถกระบะแต่งซิ่งได้เฉี่ยวชนรถจยย.ของยายบัวจันทร์อย่างแรง จนกระเด็นตกจากรถแล้วทับซ้ำและได้ถอยหลังทับซ้ำอีกหนึ่งรอบ ก่อนวิ่งหนีเข้าไปในโรงงาน แล้วออกมาขับรถหลบหนีไป
น้องชายเผยยายเป็นคนดี และยายเพิ่งไปบริจาคโลงศพ เพราะพี่ชายเพิ่งเสียไปได้ 3 เดือน
ต่อมาทีมข่าวเดินไปที่บ้านของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างจัดเตรียมงานศพ จึงได้พูดคุยกับ นายสมศักดิ์ น้องชายผู้ตาย บอกว่า พี่สาวขี่ จยย.ไปทำธุระที่วัด เรื่องนำเงินไปให้บำรุงโลงเย็นของพี่ชาย เพราะพี่ชายตายยังไม่ถึง 3 เดือนเลย กระทั่งขี่รถกลับมา ก็มาเกิดเหตุ
ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยมันโหดร้ายเกินไป เพราะเพิ่งคุยเพิ่งเจอกันอยู่ไม่กี่นาทีก็มาเสียชีวิตแล้ว เพราะคนขับชนแล้วยังถอยมาเหยียบอีก จิตใจโหดร้ายมาก ไม่รู้จะพูดอย่างไร ซึ่งมีคนบอกว่ามีคลิปด้วย แต่ตนไม่กล้าดู โดยตอนที่ทราบรีบวิ่งไปดูก็เห็นว่าที่หัวพี่สาวมีแต่เลือด
ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ทราบเพียงว่ายังจับตัวคนก่อเหตุไม่ได้ แต่ยึดรถมาได้แล้วตอนนี้อยากให้คนขับออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งทำลงไป ซึ่งพี่สาวอยู่ตัวคนเดียวเป็นโสด ยังไม่มีครอบครัว
เจ้าของร้านลาบ เผยคนก่อเหตุพูด "ขับรถชนคนมา"
ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังร้านลาบ ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ก่อเหตุและพวก ได้มานั่งดื่มกินกันก่อนจะเกิดเหตุ ซึ่ง ป้าแก้ว จันตัน อายุ 57ปี เจ้าของร้าน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาสั่ง เบียร์ 3 ขวด และเหล้าขาว อีก 1 ขวด มานั่งกินกันที่ร้าน จากการสังเกตุจากเจ้าของร้านคาดว่า ทั้งสามคนน่าจะดื่มดินจากที่อื่นมาแล้ว หลังจากนั้นสองในสามคนก็ได้เบิ่ลเครื่องยนต์และขับรถออกไปจากร้านด้วยความเร็ว จนชาวบ้านที่ใกล้กับร้านต่างตะโกนด่าทอตามหลังรถไป ซึ่งคาดว่าน่าจะไปส่งเพื่อนกลับเข้าโรงงานลำไยจนไปถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางเข้าโรงงาน
หลังเกิดเหตุก็ได้ขับรถกลับมาที่ร้านอีกรอบเพื่อรับเพื่อนอีกคน คาดว่าจะเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้ยิน ทั้งสองคนพูดคุยกันว่า "ขับรถชนคนมา" ซึ่งพอตนได้ยินก็รู้สึกว่า หากชนคนก็ขออย่าให้เป็นคนในหมู่บ้านของตนเลย แต่สุดท้ายก็เป็นคนรู้จักในหมู่บ้านจนได้ ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก
โดยป้าแก้ว เล่าอีกว่าคนก่อเหตุกับคนที่ผู้ก่อเหตุมารับหลังเกิดเหตุนั้น เป็นคนพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะเข้ามารับจ้างในโรงงานลำไยในพื้นที่ เพียงปีละครั้ง เฉพาะฤดูที่ลำไยให้ผลผลิตเท่านั้น