กรณีนายวิชัย หรือชัย อายุ 50 ปี ฆ่านายกนกพล หรือกุ้ง อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงเหล้า โดยใช้จอบตีแล้วยัดใส่กระสอบไปทิ้งหนองน้ำ วันนี้ (14 ส.ค.) ตำรวจได้คุมตัวนายชัยไปทำแผนประกอบครับสารภาพที่บ้านจุดเกิดเหตุและหนองน้ำจุดทิ้งศพ โดยมีภรรยาของผู้ตายและครอบครัวรวมถึงชาวบ้านรุมสาปแช่ง และฮือเข้าจะรุมประชาทัณฑ์ โดยเฉพาะภรรยาของผู้ตายที่มีอารมณ์โกรธแค้นและตะโกนด่าว่า "สัตว์นรก" ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านบางส่วนต้องห้ามกันวุ่นวาย ใช้เวลาทำแผนฯ ทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง
ทีมข่าวได้สอบถามนายกิตติศักดิ์ อายุ 30 ปี หลานชายของผู้ตาย ที่วันนี้เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาด้วย ซึ่งนายกิตติศักดิ์ เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่พยายามจะเข้าไปต่อยหน้านายวิชัยผู้ต้องหาขณะทำแผนฯ โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนเองนั้นทนไม่ไหวที่เห็นลุงของตนเองถูกนายวิชัยฆ่าตาย ซึ่งตนเองเสียดายมากที่พยายามเข้าไปต่อยนายวิชัย แต่โดนแค่เฉี่ยวๆ ไม่โดนเต็มหมัด และมองว่าการกระทำของนายวิชัยโหดเหี้ยมเกินไป ที่ตนเองทำยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่นายวิชัยทำ เพราะผู้ตายทั้งให้ข้าวให้น้ำใจดีกับผู้ตายทุกอย่างแต่กลับมาทำร้ายกันได้
ด้านนางสาวกฏชกร น้องสาวผู้ตาย ได้เล่าเรื่องแปลกๆ ให้ทีมข่าวฟังด้วยว่า ก่อนที่พี่ชายเสียชีวิตช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมงวันเกิดเหตุ พี่ชายได้โทรศัพท์มาหาตนเองซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด โดยบอกว่าคิดถึงอยากให้ตนเองกลับมาหาที่บ้านบ้าง ตนเองจึงตอบกลับไปว่าไม่ค่อยมีเวลา แต่เดี๋ยวค่อยกลับไปช่วงปีใหม่ จากนั้นพี่ชายได้พูดเชิงหยอกบอกว่า “มึงไม่ทำประกันให้กูบ้างเหรอเผื่อกูตาย ถ้ากูตายมึงอย่าลืมเอาศพกูกลับบ้านไปเผา กูอยากกลับบ้าน” ตอนนั้นตนเองก็คิดว่าพี่ชายพูดเล่น และยังว่าพี่ชายอยู่เลยว่าพูดอะไรบ้าๆ ก่อนจะวางสายไป ไม่คิดเลยว่า สิ่งที่พี่ชายพูดจะเป็นความจริง
ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาอ้างว่า พี่ชายอวดรอยสัก ทำให้เกิดการดูถูกกันขึ้น ตนเองไม่คิดว่าแค่เรื่องเล็กๆ จะทำให้ฆ่ากันได้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาพี่ชายชอบสักยันต์มาก สักเต็มหลัง ทั้งยันต์อาคม สักรอยมังกร ซึ่งตนเองก็ไม่เคยเห็นพี่มาอวดกับตนเองเลยด้วยซ้ำ
ทีมข่าวมีโอกาสได้เข้าไปดูห้องนอนของนายวิชัย โดยแม่ของนายวิชัยพาไปดูในมุ้ง พบมีด ดาบ และขวาน รวม 4 เล่ม วางอยู่บนหัวนอน แม่บอกว่าที่ผ่านมาลูกชายเหมือนคนบ้า บ่นอยู่ตลอดเวลาว่ามีคนตามฆ่า แล้วก็สะสมอาวุธไว้ในบ้าน ขู่ทุกคนในบ้านว่าห้ามเข้ามาในมุ้ง ถ้าใครแตะต้องอาวุธจะฆ่าให้ตายทุกคน ทำให้ทุกคนรวมถึแม่ไม่กล้าเข้าไปยุ่งในมุ้ง
ขณะที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปรับศพของนายกนกพล ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น กลับมาทำพิธีศพตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิด ที่บ้านหัวนาหม่อ หมู่ที่ 15 ต.กุดธาตุ อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น
ทันทีที่ศพเดินทางมาถึง ญาติได้นำศพตั้งวางบรรจุใส่โลงเย็น โดยมีนางปอง อายุ 61 ผู้เป็นแม่ พร้อมญาติๆ เดินตามไปนั่งหน้าโลงศพของลูกชาย พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ และสาปแช่งผู้ก่อเหตุ บอกว่า “ทำไมมึงไม่ฆ่ากูไปด้วย เอาวิญญาณกูไปด้วย มึงทำแบบนี้กับลูกกูทำไม ชั้นทำใจไม่ได้ หัวใจแม่สลายแล้ว มึงเอาลูกกูคืนมา”