นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ออกมาไลฟ์สด และในช่วงหนึ่งได้มีการทำนายว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนนิเดช นายกรัฐมนตรีของ พรรคเพื่อไทยนั้น จะไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

โดยนายจตุพร แทงล่วงหน้ายืนยันว่า เศรษฐายังไงก็ไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อให้มีพรรคลุงสนับสนุนแต่ก็มีเสียงไม่พอ ต้องให้สว.สนับสนุนเพิ่มอีก รวมถึงนายเศรษฐายังไม่ออกมาชี้แจงเรื่องม.112

ขณะที่ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เผยว่า การโหวตครั้งต่อไปที่โหวตนายเศรษฐไม่ได้รับความไว้วางใจจาก สว. เพราะเศรษฐาไม่ใช่ลูกน้องของทักษิณ ชินวัตร โดยมองว่าเขาอยากให้อุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯเพื่อเป็นตัวประกันของทักษิณ

ทางด้าน อ.วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการด้านการเมื่อง เปิดเผยกับทีมข่าว ช่อง 8 ว่า โดยส่วนตัวนั้นเห็นว่าคุณเศรษฐา ทวีสิน ก็มีความเหมาะสมและความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และไม่มีปัญหาในเรื่องที่ดินและทรัพย์สินหรือภาษี และส่วนอื่นๆที่จะมาเป็นข้ออ้างทางการเมืองได้ อีกทั้งถ้ามีการเจรจาแบ่งกระทรวงกันจบ และมีการตกลงกันว่าจะไม่นำเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาพูดอีก แต่จะเป็นได้นานแค่ไหนถ้าจะมีผู้ที่ทำให้เรื่องที่ไม่ผิดกายเป็นเรื่องที่ผิด และอาจจะยกเรื่องของคุณชูวิท ขึ้นมากล่าวอ้างและถอดถอนคุณเศรษฐาออกจากตำแหน่งยงนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องยกรองนายกรัฐมนตรีอันดับที่หนึ่ง ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมันก็จะเกิดความโกลาหล ถ้าคุณเศรษฐาคิดว่าจะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แล้วทางคุณอุ้งอิ้งก็ไม่พร้อม เพราะกลัวว่าจะมองว่าขึ้นมาเป็นเพราะช่วยคุณทักษิณและจะเกิดม็อบขึ้นอีก

ก็อาจจะต้องรบกวน อ.ชัยเกษม ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถึงแม้สุขภาพร่างกายท่านจะไม่พร้อม 100% แต่ด้วยความที่ท่านเป็นนักกฏหมายอาวุโสก็อาจจะแบ่งหน้าที่ให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆทำงานแทนได้

ส่วนเรื่องคำว่ากับดักทางการเมืองนั้นมันมีเงื่อนงำในรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ฉบับนี้เช่น เรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งมันได้เขียนไว้กว้างมากแล้วอยู่ที่ใครจะตีความ อย่างเช่นต้องทำประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน อย่างกรณีนี้ถ้าผมเป็นคุณเศรษฐา แล้วต้องการอยากจะกลับบ้านเร็ว เลยขึ้นทางด่วนแต่ทำให้รถบ้านทางด่วนมันติด ก็อาจจะเกิดความผิดในเรื่องนี้ได้ หรือในกรณีเรื่องภาษีของคุณเศรษฐาที่เป็นเจ้าของ แสนสิริ แล้วเกิดมีการจ่ายไม่ครบและมีผู้นำเรื่องไปฟ้อง ปปช และ ปปช เกิดบ้าจี้ นำเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ และตีความออกมามีความผิดมันก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้น

ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมองว่าในช่วงนี้ให้คนอื่นเป็นไปก่อน หรือจัดให้มีการแบ่งเค้กปั่นส่วนให้เหมาะสมใน ครม แต่มันก็จะกลายเป็นการเมืองแบบมีผลประโยชน์ ไม่ใช่การเมืองแบบที่ประชาชนต้องการ และคนที่จะโกรธแขนก็คือประชาชนอย่างเรา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเพราะถ้าดีกันวันนี้หักหลังกันวันหน้าก็มีมาแล้ว

ฟันธง! เศรษฐาอดนั่งนายกฯ ชูอุ๊งอิ๊งค์เป็นตัวประกัน "วีรพัฒน์" เตือนโทนี่ติดคุกยาวถูกหักหลัง