จากกระแสครูกายแก้ว ที่กำลังฮือฮาหลังมีการนำรูปหล่อมาตั้งไว้บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว บางคนเชื่อกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ช่วยให้เจริญรุ่งเรือง
โดยมีผู้โพสต์ในวันทำพิธีบวงสรวง ปรากฏว่า มีพายุพัดและฝนกระหน่ำก่อนเริ่มพิธี ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ที่ผ่านมาเคยไปพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ท้าวเวสสุวรรณ ก็จะมีพระอาทิตย์ทรงกลด หรือแดดออกไม่มีพายุลงแบบนี้
ด้านศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับครูกายแก้วว่า "ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ปรากฏข่าวเรื่อง ครูกายแก้ว ว่าเป็นรูปเคารพที่ได้รับความนับถือในหมู่คนจำนวนหนึ่ง นัยว่าครูกายแก้วนี้เป็นครูบาอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่เจ็ด ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ผมยังไม่เคยเห็นหลักฐานยืนยันได้แน่นอนว่าเล่าลือกันมาจากที่ไหน
ความเลื่อมใสในเรื่องอย่างนี้แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่สามารถบ่งบอกถึงความไม่มั่นคงทางจิตใจของสมาชิกในสังคมได้ในระดับหนึ่ง และถ้าไม่เกรงใจกันแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นระดับที่สูงมากเสียด้วย
รูปอะไรก็ไม่รู้ที่กราบไหว้กันอยู่นี้ มองในทางศิลปะก็สอบไม่ผ่านแน่ จะว่าเป็นมนุษย์ก็เห็นจะไม่ใช่ จะเป็นสัตว์ก็ไม่เชิง ผมยังนึกไม่ออกว่าการไปบูชารูปปั้นอย่างนี้จะเป็นสวัสดิมงคลได้อย่างไร แถมเกรงว่าจะเกิดผลตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ
สำหรับประเพณีบ้านเมือง สถานการณ์อย่างนี้คล้ายกับที่คนแต่โบราณท่านพูดว่า ผีป่าก็จะวิ่งมาสิงเมือง ยิ่งนัก เฮ้อ !"
ขณะที่ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวว่า ยอมรับว่าประเทศไทยความมั่นคง ความแน่วแน่ในพระรัตนตรัยเริ่มแกว่ง เห็นอะไรก็จะกราบไหว้ ตั้งแต่จตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ ส้มฉุน ฯลฯ มีการปั้นอวัยวะเพศตายายยังมากราบไหว้ อยากฝากให้คนไทยมาดูที่วัดสวนแก้ว สมัยพระพุทธเจ้าดับขันธ์ใหม่ๆ ยังไม่ได้ทำรูปปั้น พระพุทธเจ้าเรียนจนตรัสรู้ เรียน 18 ศาสตร์ เรียนในป่าอีก 6 ปี เขาเลยทำรูปเสมาเพื่อมากราบไหว้ กระทรวงศึกษาธิการจึงนำรูปเสมามาเป็นโลโก้ เพื่อให้กราบไหว้ความใฝ่รู้ ไม่ใช่กราบรูปผี รูปคน รูปยักษ์ รูปมาร ทำรูปปั้นตรีรัตนเพื่อให้รู้ว่าคำสอนของพระองค์เหมือนศาสตรา 3 อัน ไว้ฟาดฟันกับโจรฉกรรจ์ 3 ก๊ก (โลภ โกรธ หลง) ต่อมาทำรูปธรรมจักร เพื่อบดขยี้ทุกข์ให้เหล่ามนุษย์ สุดท้ายกราบไหว้พระพุทธองค์ในฐานะที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นแม้เป็นลูกกษัตริย์ ส่วนรูปที่เขาปั้นความหมายลึกซึ้ง สวยงาม ดูแล้วสบายตาสบายใจ
ยุคสมัยนี้คนไทยเป็นแบบนี้อยากให้อาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์และหนักแน่นในพุทธศาสตร์ ช่วยมาให้สติคนไทย อีกไม่นานจะได้เงินเป็นพันล้านหมื่นล้านจากครูกายแก้ว เห็นมีการถ่ายทำรูปภาพครูกายแก้วเล็กๆ ใหญ่ๆ เตรียมจำหน่ายกันแล้ว ใครไม่อยากเป็นเหยื่อ ความเชื่อนี้ไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี เดี๋ยวก็จะหายไปเหมือนจตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ ส้มฉุน ฯ เป็นเรื่องของความเชื่อ ตนไม่อยากไปทะเลาะกับคนที่มีความเชื่อ อยากให้ศึกษากัน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่แต่ถึงเชื่อก็ต้องเรียนรู้ให้ชัดเจนว่าจะเชื่อผิดหรือถูก ได้ผลหรือไม่มีผลตอบแทน เชื่อแล้วทุกข์ไม่เกิด เรื่องบูชายันต์ไม่รู้สรุปเป็นเทพหรือเป็นอะไร มาต้องการเรื่องหมาแมวบูชายันต์ อะไรก็อ้างเทพ อยากให้คิดกันเอาเอง อย่าไปหลงคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เชื่อแล้วต้องมีเหตุผล ศึกษาข้อมูล นิสัยคนไทยเห็นอะไรก็ตีเป็นเลขเป็นหวย ขอฝากสั้นๆ ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ตามอย่าเชื่อแบบหัวปักหัวปำ เชื่อไปศึกษาไป จนเกิดสติปัญญา
นอกจากนี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความว่ามีผู้โพสต์รับซื้อลูกสัตว์ เช่น ลูกสุนัข ลูกแมว ลูกกระต่าย จำนวนมาก โดยอ้างว่าจะนำไปบูชายัญครูกายแก้ว มากไปกว่านั้น ในกลุ่มของคนรักครูกายแก้ว ยังได้มีผู้แนะนำการจัดการกับสัตว์เพื่อนำมาบูชายัญด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
ล่าสุดยังมีการปั่นราคาเหรียญครูกายแก้ว จากตอนแรกซึ่งผลิตแจกฟรีในพิธีบวงสรวงจำนวน 1,500 เหรียญ และมีคนปล่อยเช่าในราคา 50 บาท จนกระทั่งไปถึงราคา 46,900 บาท
ขณะที่ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวในรายการทูตสื่อข่าว ที่จัดขึ้นกับอ๊อฟ อัครพล ทางช่องยูทูบ GhostAmbassador โดยหมอบี บอกว่า ใครจะเชื่อก็แล้วแต่ ตนไม่มีหน้าที่ไปขัดความเชื่อใคร แต่ว่าอยากให้ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน การที่เราจะไหว้ใครสักคน น้อมตัวลงไปไหว้สิ่งที่อยู่สูงกว่าเรา อย่างเช่น ไหว้พระพุทธรูป ตนไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะไหว้ เรากราบได้อย่างเต็มที่ หรือกลับไปไหว้พ่อไหว้แม่ผู้มีพระคุณดีกว่าไหม
แต่จากประวัติครูกายแก้ว เผยว่าเป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พูดกันตามข้อเท็จจริง ไม่มีตามประวัติศาสตร์ ในภาพตามศิลาจารึกทั้งหลายแหล่ก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ที่เป็นรูปลักษณ์ที่เหมือนมีปีกก็ไม่ใช่ ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน สืบให้ตายยังไงก็ไม่มี ตามหลักฐานประวัติศาสตร์