"เศรษฐา" โพสต์โต้ "ชูวิทย์" บอก การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง / ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด
จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดแถลงข่าว ภารกิจแฉเพื่อชาติ ep.2 ปั่น บวม ตัดตอน โดยเดินมาพร้อมกับนายวรัญชัย โชคชนะ ที่สวมปี๊บคลุมศีรษะเขียนว่า “นายกดิจิตอล” จากนั้นได้นำภาพของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งขึ้นฉายสไลด์ และอธิบายว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินที่หรูเพราะเป็นที่ตั้งของคอนโดหรูที่สุดในประเทศไทย โดยคอนโดสร้างเสร็จแล้วใจกลางทองหล่อ
จากนั้นก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอน “บวม” “ปั่น” และ “ตัดตอน” ว่าที่ดินแปลงนี้เป็นมาอย่างไร พร้อมยืนยันว่า วันนี้มาพูดเรื่องบุคคลที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเป็นเพียงประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ได้ พร้อมระบุว่า วันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง ก็ขอปฏิบัติภารกิจแฉเพื่อชาติ ซึ่งตอนนี้เป็นตอนที่เรียกว่า "ปั่น" ก็คือ ปั่นที่ดิน "บวม" ก็คือการบวมเงิน และ "ตัดตอน" ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin" ระบุข้อความว่า ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลง สุขุมวิท 55 ที่ปัจจุบันคือโครงการ คุณ บาย ยู และทางบริษัทแสนสิริได้ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงแล้วนั้น
ผม นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตเคยบริหารแสนสิริมากว่า 30 ปี บริษัทฯ ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ เติบโตมาจนมีทรัพย์สินรวมเกือบ 130,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ จากทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมทั่วไป น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทแสนสิริได้ถูกบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล
การตรวจสอบจากทุกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารบริษัทฯ ที่ดินแปลงสารสินซื้อมาตามราคาตลาดที่เหมาะสม ส่วนที่ดินแปลงทองหล่อซื้อมาในราคา ตารางวาละ 1,100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดตามปกติในขณะนั้น
การกระทำใด ๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน การที่ฝ่ายกฎหมายของบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและพึงกระทำ แต่การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง