แม่บ้านที่ชูวิทย์กล่าวอ้าง แจ้งความแล้ว หลังถูกชูวิทย์นำภาพขึ้นแถลงข่าว ยืนยัน ไม่ทราบเกี่ยวกับการกู้เงินพันล้าน
กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้แถลงวานนี้ ( 15 สิงหาคม 2566) ว่า น.ส.พินิช คำยศ ซึ่งอยู่ที่ บ.ดอนหัน ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ทำงานเป็นแม่บ้านกู้เงินจากทาง แสนสิริ มา 1,000 ล้าน เพื่อนำไปซื้อที่ทองหล่อ
ผู้สื่อข่าวได้พบ นางน้อย อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.พินิช ก็ตกใจมากที่ลูกสาวมีข่าวว่ากู้เงินมา 1,000 ล้านบาท ซึ่งลูกสาวกลับมาอยู่บ้านได้ 4-5 ปี แล้ว เงินทองก็ไม่เห็นจะมี ทำนาทำสวนทำไร่ รับจ้างอยู่บ้าน แสนสิริอะไรก็ไม่รู้จัก
น.ส.พินิช อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ตนเองก็เพิ่งได้ทราบข่าวว่าไปยืมเงิน 1,000 ล้านบาท มาจากข่าว ตนเองไม่เคยทำธุรกิจอะไร ตนเองไปทำงานที่ กทม.เมื่อ 5 ปีที่แล้วแถวจตุจักร ได้ 4-5 ปี แล้วก็กลับมาอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนอีกเลย งงมาก ตกใจด้วย แต่เมื่อ 3-4 วัน ก็มีคนมาถ่ายรูปบ้านมาดูบ้าน มาสอบถามอะไรแปลก อยู่เหมือนกัน พอมาเห็นในคลิปก็ งง ว่า ทำไมถึงมีรูป บัตรประชาชน หรือ รูปบ้านของตนเอง และตามที่นายชูวิทย์ เอาไปพูด และก็ไม่เคยเป็นแม่บ้านด้วย จึงได้ชวนแฟนกันไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เชียงยืน ไว้ก่อน
ทางด้าน น.ส.ปราณี สีเฒ่า ผญบ.ดอนหัน กล่าวว่า เห็นน้องเขาอยู่บ้านตลอดไม่ได้ไปไหนสักที่ และน้องเขาก็เพิ่งแต่งงาน ตอนนี้ก็ท้องอยู่ 7 เดือน แฟนเขาก็มาอยู่ด้วยกัน เลี้ยงไก่ชนกันอยู่หลังบ้าน ก็ไม่เห็นว่าเขาจะร่ำรวย หรือมีเงินเป็น 1,000 ล้าน
ที่ สภ.เชียงยืน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ร.ต.อ. พัสกร ช่างถม รอง สว. (สอบสวน) สภ.เชียงยืน ภ.จว.มหาสารคาม ได้รับแจ้งความไว้แล้วหลักฐาน จากกรณีที่ น.ส.พินิช อยู่ที่บ้าน ได้มีเห็นข่าวว่าตนเองได้กู้ยืมเงินหนึ่งพันล้านบาทกับบริษัทแสนสิริ มา นั้นตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวไม่เคยกู้ยืมเงินและไม่รู้เรื่องที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้มาแถลงข่าวแต่อย่างใด ยิ่งเห็นคลิปของ นายชูวิทย์ฯ แถลงข่าวจึงทราบว่า มีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของตน พร้อมทั้งรูปถ่ายบ้านมีชื่อตนเป็นผู้กู้ยืมเงินอยู่บนแผ่นชาร์ตที่ นายชูวิทย์ ได้แถลงข่าวไปนั้น ตนเองไม่เคยกระทำการที่ นายชูวิทย์ฯ ได้แถลงข่าวแต่อย่างใด จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน