จากกรณีรถกระบะขนท้ายรถโรลส์-รอยซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งรถกระบะแต่งซิ่งคันดังกล่าวที่ไปชนกับรถโรลส์-รอยซ์ คันละ 32 ล้านบาท

สาวจีนพร้อมทนายแจ้งความ ยืนยันดำเนินคดี

ความคืบหน้าวันนี้ หญิงสาวชาวจีน พร้อมด้วย นายเอ (นามสมมติ) ล่ามแปลภาษา และ นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 ถ.ลาดกระบัง หลังจากถูกรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่ง ชนท้ายเข้ากับรถยนต์โรลส์-รอยซ์ บนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้า กรุงเทพ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายอนิรุจน์ ทนายความของสาวจีน บอกว่า วันเกิดเหตุลูกความเดินทางไปเช็กระยะรถยนต์ พอเกิดเหตุก็ลงมาพูดคุยแล้ว แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งลูกความจะรีบเอารถไปเข้าศูนย์ จึงคุยกับคนขับรถกระบะว่าให้ตามไปที่ศูนย์ ซึ่งลูกความมีประกันและนัดประกันรถไปที่นั่นด้วย แต่น่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ เขาบอกว่าขับมาตามปกติ แต่รถกระบมาชนท้ายเอง ส่วนประเด็นที่บอกว่าลูกความยอมรับว่าเบรกกะทันหันนั้นสอบถามแล้วเขายืนยันว่าไม่ได้พูด น่าจะเป็นการสื่อสารกันไม่เข้าใจ และมีการลงข่าวว่ายอมความกัน ก็ไม่เป็นความจริง วันนี้จึงนัดมาให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งทราบจากตำรวจว่าติดต่อกระบะได้แล้ว คนขับยืนยันว่าไม่ได้หนี

ด้านนายเอ ล่ามแปลภาษา บอกว่า สาวชาวจีนบอกว่าขับรถมาตามปกติ ไม่ได้เร็วและหวาดเสียวแต่อย่างใด ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รถข้างหน้าเริ่มชะลอ เธอจึงชะลอรถ แล้วจู่ ๆ ก็มีรถกระบะมาชนท้าย จึงลงไปคุยกับคนขับกระบะ แต่ว่าเธอพูดภาษาไทยไม่ได้ พยายามใช้แอปแปลภาษาในโทรศัพท์มือถือ บอกว่ารถมีประกันให้ไปคุยกันที่ศูนย์ ซึ่งบอกให้คนขับกระบะขับรถตามมา พอขับไปรอที่ศูนย์ ปรากฏว่ากระบะไม่ได้ตามมา วันนี้จึงเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม และให้ทางบริษัทประกันดำเนินการให้ ส่วนรถได้รับความเสียหายนิดหนึ่ง ค่าซ่อมยังไม่ทราบว่าประมาณเท่าไหร่

เจ้าของอู่วอนอย่าดราม่า ล่าสุดเจ้าของกระบะติดต่อไม่ได้

ในวันนี้ (16 สิงหาคม 2566) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพบกับ คุณอั๋น เจ้าของร้าน อั๋นชอร์ปคาร์บอน ซึ่งเป็นอู่ที่อยู่จังหวัดชลบุรี และรับซ่อมรถกระบะแต่งซิ่งที่ชนท้ายรถโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นรถหรูที่ราคาสูงมาก จากนั้นจึงเกิดดราม่ากับอู่ที่รับซ่อม

โดยคุณอั๋นได้ชี้แจงกับทีมข่าวของเราว่า โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งรถกระบะแต่งซิ่งคันดังกล่าวที่ไปชนกับรถโรลส์-รอยซ์ เป็นรถที่เคยทำอยู่กับอู่ของตน อยู่ก่อนหน้านี้ และในคืนวันเดียวกับวันที่เกิดเหตุเจ้าของรถได้ลากรถกระบะคันดังกล่าวมาที่อู่ของตนเพื่อซ่อม โดยรถคันดังกล่าวไม่มีประกัน เนื่องจากประกันหมดอายุก่อนที่จะชนกับรถโรสรอยส์

ซึ่งความเสียหายเบื้องต้นของรถกระบะ คือช่วงบริเวณหน้ารถ ได้ยุบเข้ามาถึงเครื่องยนต์ และถึงในตัวรถ ลักษณะเป็นตัววี ซึ่งก็ถือว่าเสียหายเยอะพอสมควร โดยประเมินค่าซ่อมเบื้องต้นแล้วอยู่ประมาณ 100,000 บาท ซึ่งในช่วงแรกอู่ของตนก็ยังไม่ได้เบิกของที่จะมาซ่อมรถ แต่เกิดกระแสดรามาก่อนจึงต้องหยุดการซ่อมไว้

และในส่วนของรถโรสรอยส์ ซึ่งตนประเมินดูแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถก็เสียหายน้อยกว่ารถกระบะคันที่มาซ่อมกับอู่ของตน แต่เนื่องจาก รถโรลส์-รอยซ์มีราคาที่สูงมาก จึงไม่สามารถประเมินค่าได้ว่าเสียหายเท่าใด ต้องให้ทางศูนย์หรืออู่ที่เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมิน และในส่วนความรับผิดชอบก็ต้องให้ทางคู่กรณีเป็นผู้คุยกัน

ส่วนกระแสดาม่าที่เกิดขึ้นกับอู่นั้น ตนต้องขอโทษชาวเน็ต ถ้าโพสต์อะไรที่เป็นคอนเทนท์และไม่ถูกใจลงไป เนื่องจากวันที่เกิดเหตุและในช่วงที่รถกระบะลากมาซ่อมที่อู่ของตนนั้น ช่วงนั้นตนไม่ได้เป็นผู้รับรถและโดยปกติเวลารับรถลูกน้องก็จะถ่ายรูปคู่กับรถจึงอาจจะทำให้ชาวเน็ตเข้าใจว่าลูกน้องของตนนั้นเป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวจนเกิดกระแสว่าเจ้าของรถไม่มีการสำนึกและเป็นกระแสดราม่าในโซเชียล ในส่วนนี้ตนจะพยายามปรับและแก้ไขให้ดีขึ้น

และในส่วนเรื่องของการที่ชาวเน็ตคิดว่าตนไปแซะหรือพาดพิงรถโรลส์-รอยซ์นั้นเรื่องนี้ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาสาหรือพาดพิงรถโรลส์-รอยซ์แต่อย่างใด ทุกอย่างที่โพสต์เป็นการทำคอนเทนท์เพื่อการตลาดของอู่เพียงเท่านั้นจึงอยากจะขอชี้แจงให้ทราบ

กรณีเจ้าของรถกระบะที่ชนท้ายโรลส์-รอยซ์ ทางทีมข่าวได้ติดต่อไปแล้วแต่ทางเจ้าของรถกระบะยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากกลัวจะโดนกระแสตีกลับ และตอนนี้ได้ปรึกษาทนายความแล้ว และจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทนายความ ที่ หน่วยสอบสวนตำรวจทางหลวงเขาดิน จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้

วัยรุ่นสร้างตัวหลังแอ่น! จ่ายจิ๊บๆ 1.4 ล้านชนโรลส์-รอยซ์ อู่ฝากตามตัว ก๊วนลั่น "รถผมก็ไม่ถูก"