จากกรณีสาวขอลางานกลับบ้าน แม่ป่วยเสียชีวิต แต่หัวหน้าไม่ให้ลาพร้อมให้มาลาออกจากงานหลังจากเสร็จสิ้นพิธีจากศาสนา โดยสาวรายนี้เสียใจสุดท้ายกลับไปหาแม่วาระสุดท้ายไม่ทัน ต้องวิดีโอคอลเห็นแม่จากไปคาโทรศัพท์
โดยมีแชตที่น้องพลอยส่งข้อความไปบอกหัวหน้ากบว่า ตอนนี้แม่ได้เสียชีวิตแล้ว และขอกลับบ้านด่วน หัวหน้ากบกลับไม่มีแม้แต่กำลังใจที่จะให้ และได้ถามกลับตนเองว่า “จะลาออกใช่มั้ยคะ” “เสร็จธุระแล้วก็มาเขียนใบลาออกค่ะ” ทำให้ตนเองเสียความรู้สึกและพูดไม่ออก ไม่คิดว่า หัวหน้าที่ตนเองทำงานให้จะใช้คำพูดแบบนี้ ตอนนั้นยอมรับว่า ทั้งเสียใจและโมโห จึงได้ขอลาออก โดยตอบกลับหัวหน้ากบว่า “ได้ค่ะ”
น้องพลอย เปิดใจครั้งแรกฝากถึงพี่กบ ก่อนกลายเป็นกระแสวิจารณ์
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่วัดไตรภูวนาราม อ.เมืองบุรีรัมย์ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางปราณี อายุ 64 ปี แม่ของนางสาวกชกร หรือ น้องพลอย อายุ 25 ปี พนักงานโรงแรมที่ถูกสั่งให้มาเขียนใบลาออก โดยวันนี้น้องพลอยเธอได้ออกมาเปิดใจกับทีมข่าวว่า แม่ของตนเองนั้นป่วยด้วยโรคมะเร็งมาได้สักพักนึงแล้ว โดยตนเองถึงแม้จะทำงานอยู่ไกลบ้าน ซึ่งอยู่ จ.บุรีรัมย์ แต่ก็ต้องแวะมาเยี่ยมและมาเฝ้าคุณแม่อยู่ตลอด ซึ่งระหว่างการทำงานตนเองได้แจ้ง “พี่กบ” ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายสปาและฝ่ายสันทนาการเด็กของโรงแรม หัวหน้างานของตนเองให้รับรู้มาโดยตลอด ว่า แม่ตนเองได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และแม่อาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน หากในอนาคตจะต้องลาขอไปเฝ้าดูอาการของคุณแม่ หรือ ลาไปดูใจแม่ครั้งสุดท้าย จะขอใช้สิทธิแต่จะแจ้งล่วงหน้าก่อน ซึ่งหัวหน้ากบก็รับรู้มาตลอด
กระทั่งวันที่ 16 สิงหาคม ช่วงเช้าตนเองซึ่งเป็นวันที่ตนเองจะต้องไปทำงาน ทางบ้านได้โทรศัพท์มาบอกว่าคุณแม่อาการไม่ดี และน่าจะเสียชีวิตไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ให้ตนเองรีบกลับมาดูใจคุณแม่เป็นครั้งสุดท้าย
ตนเองด้วยความเป็นห่วงแม่ และอยากอยู่กับแม่ก่อนที่แม่จะหมดลมหายใจไป จึงได้ส่งข้อความพิมพ์ไปตามที่โพสต์เพื่อขอลางานกับหัวหน้ากบ แต่เมื่อส่งไปขอ หัวหน้ากบกลับไม่อนุญาติให้ตนเองลา โดยพิมพ์บอกว่า “ไม่ได้ค่ะ” ตอนนั้นยอมรับว่าตนเองตกใจและงงมากที่หัวหน้าไม่ยอมให้ลา เพราะแม่ของตนเองกำลังจะตาย นอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว
ตอนนั้นไม่รู้จำยังไง รอคำตอบจากหัวหน้ากบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ทำให้ตนเองต้องจำใจเดินกลับเพื่อนจะกลับไปทำงาน ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่า ไม่มีใจที่อยากจะทำแล้ว เพราะแม่กำลังจะเสียชีวิต
กระทั่ง เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตนเองได้ส่งข้อความหาหัวหน้ากบอีกรอบ พร้อมถ่ายรูปคุณแม่ที่กำลังนอนหมดลมหายใจ พร้อมบอกว่า “พี่กบ แม่พลอยไม่น่าจะรอดคืนนี้หรอกพี่” เจตนาเพื่อจะขอกลับไปดูใจแม่ครั้งสุดท้าย
แต่หัวหน้ากบ ก็กลับไม่สนใจ และไม่ให้การช่วยเหลือ แถมได้ตอบกลับตนเองว่า “พี่บอกพลอยไปแล้วค่ะ ว่ายังไงก็ต้องกลับมาทำงานก่อน”
จากนั้นครอบครัวได้วิดีโอคอลมาหาตนเองพร้อมกับให้ตนเองพูดคุยกับแม่ก่อนจะหมดลมหายใจผ่านโทรศัพท์เพราะแม่จะเสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนเองต้องวิดีโอคอลดูแม่จากไปผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนเองเสียใจมาก ที่ไม่ได้กลับไปอยู่ข้างๆแม่ก่อนแม่จะจากไป ซึ่งหากหัวหน้ากบใจดีกับตนเองมากกว่านี้ ให้ตนเองลาหยุดได้อีก 1 วัน ตนเองคงจะได้กลับไปอยู่ข้างแม่ก่อนแม่จะเสียชีวิตไปแล้ว
ยังไม่พอ เมื่อตนเองส่งข้อความไปบอกหัวหน้ากบว่า ตอนนี้แม่ได้เสียชีวิตแล้ว และขอกลับบ้านด่วน หัวหน้ากบกลับไม่มีแม้แต่กำลังใจที่จะให้ และได้ถามกลับตนเองว่า “จะลาออกใช่มั้ยคะ” “เสร็จธุระแล้วก็มาเขียนใบลาออกค่ะ” ทำให้ตนเองเสียความรู้สึกและพูดไม่ออก ไม่คิดว่า หัวหน้าที่ตนเองทำงานให้จะใช้คำพูดแบบนี้ ตอนนั้นยอมรับว่า ทั้งเสียใจและโมโห จึงได้ขอลาออก โดยตอบกลับหัวหน้ากบว่า “ได้ค่ะ” ก่อนที่ตนเองจะรีบเดินทางกลับมาหาแม่ทันทีที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งระยะทางจากปากช่อง ถึง จ.บุรีรัมย์ ตนเองต้องทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ ต่อรถไฟ เพื่อนั่งกลับมาหาแม่ ซึ่งแม่ตนเองเสียชีวิตเวลา 6 โมงเย็น แต่ตนเองกว่าจะกลับถึงบ้าน เวลาตี 3 ซึ่งแม่ของตนเองก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
และสุดท้ายตนเองอยากฝากถึงพี่กบหัวหน้างานว่า”อยากให้พี่ใจดีกว่านี้ เห็นใจลูกน้องมากกว่านี้ เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อยากให้พี่กบเข้าใจว่า ทุกคนมีแม่แค่คนเดียว”
ทัวร์ลงเพจโรงแรมดัง จี้ชี้แจง หลังพนักงานสาว สูญเสียแม่ขอลางาน
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่โรงแรมหรูดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบว่า โรงแรมที่พนักงานคนดังกล่าวทำงานอยู่เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับข้อมูลกับหนึ่งในพนักงานของโรงแรมดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า คุณกบ ที่ทุกคนกำลังตามหาตัวอยู่ทั่วประเทศนั้น ไม่ได้เป็นผู้จัดการของโรงแรมดูแลทั้งหมดแต่อย่างใด แต่เป็น “ผู้จัดการฝ่ายสปาของโรงแรม” เท่านั้น ซึ่งพนักงานของโรงแรมจะแบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ เช่น แผนกอาหารและจัดเลี้ยง สปา แม่บ้าน พนักงานต้อนรับ และอื่นๆ โดยมีผู้จัดการฝ่ายเป็นคนดูแลพนักงานฝ่ายของตัวเองอีกที
ส่วนตนเองอยู่คนละฝ่ายกับพนักงานสาวผู้โพสต์เฟซบุ๊ก แต่ที่ผ่านมาก็เคยเห็นคุณกบ และเพื่อนที่เป็นคนโพสต์เฟซบุ๊ก แต่ไม่เคยได้พูดคุยหรือสนิทกันเท่าไหร่นัก จึงไม่รู้นิสัยของผู้จัดการกบ โดยโรงแรมนี้เพิ่งเปิดได้ประมาณ 9 เดือน ตนเองก็เพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน
วันนี้มีลูกค้าและประชาชนโทรเข้ามาที่โรงแรมจำนวนมากโดยส่วนใหญ่ไม่ได้โทรมาจะเข้าพัก จะโทรศัพท์มาด่าซะส่วนใหญ่ และตามหาคุณกบ ซึ่งตนเองเป็นพนักงานก็รู้สึกไม่สบายใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และไม่อยากให้สังคมตัดสินโรงแรมจากคนเพียงคนเดียว และอยากให้รอฟังเหตุผลของอีกฝ่ายก่อน
โรงแรมดัง ดาวลดฮวบ เพราะดราม่าพี่กบ
โลกออนไลน์ยังคงวิจารณ์ถึงเรื่องราวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่แฟนเพจของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจพฤติกรรมของ “พี่กบ” โดยเข้าไป รีวิวโรงแรมดังกล่าว จากความหรูหราระดับ 5 ดาว จนเหลือเพียง 1 ดาวเท่านั้น