จากกรณี เมื่อเวลา 01.30 น. ตำรวจภูธรปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีชายวัยรุ่นถูกนอนเสียชีวิตอยู่บนถนนเพชรเกษม ขาขึ้นกรุงเทพฯ บริเวณสามแยกทางเข้าเขื่อนปราณ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็น สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อต สวมกางขายาวลายพราง อายุประมาณ 15 -18 ปี นอนเสียชีวิตสภาพหงายหน้า พบบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าท้อง ทราบชื่อคนตายในเวลาต่อมา คือ นายภานุภัทร (อาม) อายุ 15 ปี
ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุได้มีการหลบหนี โดยมีกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุจับภาพเอาไว้ได้ลักษณะถูกกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้าย จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุคนตายรถล้มจึงตัดสินใจวิ่งข้ามถนนแล้วถูกรถพ่วงชนดับคาที่ ก่อนที่กลุ่มคนก่อเหตุที่ขับรถไล่ตามมาจะขับหลบหนี
วันนี้ (17 ส.ค.) ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณสามแยกที่เกิดเหตุ บริเวณสามแยกทางเข้าเขื่อนปราณ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ถนนดังกล่าวเป็นถนนที่มีรถพ่วงและรถที่วิ่งใช้ความเร็วค่อนข้างมากเนื่องจากเป็นเส้นทางมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้และขึ้นสู่ภาคกลาง โดยบริเวณที่เกิดเหตุยังคงมีกองเลือดของคนตายติดอยู่บริเวณพื้นถนนฝั่งขาเข้า
จากนั้นทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ภายหลังที่รถมอเตอร์ไซต์ของคนตายถูกถีบล้ม และพยามวิ่งหนีเอาตัวรอด ก่อนที่จะเห็นวินาทีถูกรถทับร่างเสียชีวิตคาที่ ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดจับภาพหลังจากที่กลุ่มคนก่อเหตุขับรถไล่ตามและถีบรถมอเตอร์ไซด์ล้ม และถูกทับไปแล้ว จะเห็นว่าช่วงที่จังหวะหลบหนี มีรถกลุ่มคนก่อเหตุตามมาสมทบอีกประมาณ5คัน และในจังหวะดังกล่าวนั้น จะเห็นว่า มีคนที่ตามมาสมทบ ถีบรถมอเตอร์ไซต์ของคนตายเพิ่มอีก1ครั้ง และหลังจากที่ถีบรถเสร็จแล้วช่วงที่หลบหนีได้มีการปาระเบิดปิงปองเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ก่อนพากันหลบหนี
นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดยังจับภาพตามซอยต่างๆ จะเห็นว่าบริเวณถนนสายหลัก กลุ่มมอเตอร์ไซค์ของคนก่อเหตุขับหนีกระจายตัวกันไป แต่อีกบางส่วนขับเข้าซอย เพื่อที่จะหลบหนี ซึ่งหลังเกิดเหตุสังเกตว่าจะมีการกระจายตัวกันต่างคนต่างแยกย้าย
ภายหลังกลุ่มคนก่อเหตุได้มีการขับหนีไปหมดแล้ว กล้องวงจรปิดจับภาพวัยรุ่น2คน สวมใส่เสื้อสีขาว เข้ามาพยามเอารถมอเตอร์ไซต์ของคนตายออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยรถมีลักษณะสตาร์ทไม่ติด แต่ชายเสื้อสีขาวก็พยามที่จะสตาร์ทซ้ำ ก่อนที่จะเอารถมอเตอร์ไซต์ของคนตายไป โดยช่วงที่พยายามขโมยรถมอเตอร์ไซต์คนตายนั้นร่างของคนตายยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนถนน
พี่ชาย เปิดแชทตั้งใจเคลียร์แทนน้องแต่ถูกนัดออกไปก่อเหตุกันเอง เผยปมปัญหาเกิดจากเรื่องอดีตแฟนเก่าและเบิ้ลเครื่องใส่กัน
นายนวพล อายุ 18 ปี พี่ชายของคนตาย เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ก่อนที่จะเกิดเรื่องน้องชายมาบอกตนเองว่ากำลังมีเรื่องกับนายต่าย ซึ่งเป็นเด็กฝั่งหนองตาแต้ม ส่วนกลุ่มของน้องชายและตนเองอยู่ฝั่งกลุ่มของตำรุ โดยอยู่คนละฝั่งถนน น้องชายบอกว่ากำลังมีเรื่องกับตัวของนายต่ายผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเรื่องของอดีตแฟนเก่าที่เลิกราไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่ถูกนายต่ายผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจผิดจึงนัดเคลียร์ใจกัน ตนเองจึงได้มีการส่งแชทข้อความไปสอบถามเพราะเนื่องจากรู้จักแต่ไม่ได้สนิท ซึ่งก็เป็นไปตามข้อความที่ให้ดูก่อนหน้านี้ โดยมีเนื้อหาทำนองว่าทักไปสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น และได้เคลียร์กันหรือยัง
แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ตนเองทักไปหาช่วงบ่าย เข้าใจว่าตัวของน้องชายกับตัวของนายต่าย ผู้ถูกกล่าวหา ได้ไปนัดหมายเจอกันเองส่วนตัว โดยกลุ่มของน้องชายขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปประมาณ4คัน แต่ช่วงที่จะไปเจอกันที่หน้าปั๊มไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ฝั่งของนายต่าย ผู้ถูกกล่าวหาคนพวกมาประมาณ10คัน มาดักรอพร้อมกับระเบิดปิงปอง หลังจากที่ถูกโยนระเบิดปิงปองใส่จึงทำให้กลุ่มของน้องชายที่ตั้งใจไปเคลียร์ปัญหา ขับรถหนีแตกกระเจิงไปคนละทาง แต่น้องชายถูกไล่ไปถึงบริเวณแยกที่เกิดเหตุ แล้วตามภาพวงจรปิดเห็นว่าถูกถีบรถล้ม จึงพยายามเอาตัวรอด แต่ถูกรถที่ผ่านมาชนจนกระทั่งทับร่างดับคาที่ และหลังเกิดเหตุตนเองก็ได้มีการส่งข้อความไปสอบถามว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่แต่ฟังของผู้ถูกกล่าวหาไม่มีการตอบกลับ
พี่ชาย เปิดแชทให้ทีมข่าวดูพบว่า กระทั่งเวลาประมาณ 01.32 น. พี่ชายของคนตายพยามติดต่อกลับไปหานายต่ายผู้ถูกกล่าวหาอีกครั้ง โดยพยามโทร เฟส และส่งข้อความไป ทำนองว่า “น้องชายนี่ได้อยู่กับนายปะ” แต่ไม่มีการตอบกลับ เพราะเนื่องจากตัวของนายตายกับนายภานุภัทร หรืออาร์ม ได้ไปนัดเคลียร์ใจกันเองโดยไม่ผ่านพี่ชาย จนกระทั่งเกิดเหตุ
และในเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 11.58น. ตัวพี่ชายของคนตายได้มีการส่งแชทข้อความไปหานายต่ายผู้ถูกกล่าวหา ระบุว่า “ ทำไมนายทำกับน้องเราแบบเนี่ย ทำไมไม่คุยกันดีๆ” ซึ่งตัวของนายต่ายผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้ไม่ได้มีการตอบกลับ
ชนวนเหตุเกิดจากกลุ่มคนก่อเหตุเบิ้ลเครื่องใส่ จึงนัดเคลียร์ใจกัน แต่ถูกปาระเบิดปิงปองใส่จึงต้องพากันหนีแตกกระเจิง
จากภาพกล้องวงจรปิดจับภาพชายเสื้อสีขาว2คน เข้ามาในที่เกิดเหตุหลังจากคนตายถูกรถทับ มีลักษณะคล้ายพยามสตาร์ทรถ และพยามที่จะเอารถหนี นั้น
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายกราฟ (นามสมมติ) เพื่อนในกลุ่มของคนตาย และเป็นชายที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจรปิดที่พยายามสตาร์ทรถ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ในวันดังกล่าวหลังจากที่กลุ่มของตนเองถูกกลุ่มของนายจูน ผู้ถูกกล่าวหา ขับรถไล่ตามเพื่อก่อเหตุ แล้วคนตายถูกถีบรถล้ม กลุ่มของตนเองตามไปทีหลัง เข้าใจว่าตัวของนายอาร์มคนตาย ถูกอุ้มขึ้นรถไปดู เพราะตอนนั้นเห็นแต่รถมอเตอร์ไซค์จอดทิ้งไว้กลางถนน จึงพยามไปเอารถคืน เพื่อที่จะเอาออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่ตอนนั้นไม่สังเกตเห็นว่าฝั่งตรงข้ามถนนมีร่างของนายอาร์มนอนเสียชีวิตอยู่ เนื่องจากในที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด จึงมองไม่เห็นว่าถูกรถชนตาย เข้าใจว่าถูกอุ้มไปมากกว่า
และเหตุการณ์เมื่อคืน กลุ่มของตนเองถูกท้าทาย จากฝั่งของนายจูน เพราะก่อนหน้านี้ฝั่งของนายจูน ได้มีการเบิ้นเครื่องใส่ และเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตัวของนายอาร์มคนตาย มีการชี้หน้านายจูน จึงทำให้มีการนัดหมายเพื่อที่จะเคลียร์ใจกันในคืนดังกล่าว และกลุ่มของตนเองออกไปประมาณ4คัน 6-7คน แต่ฟังของนายจูน ขนพวกมาไม่ต่ำกว่า10คัน พร้อมกับคนอีก9-10คน ทันทีที่กลุ่มของตนเองขับรถมาถึง ยังไม่ทันได้เริ่มพูดคุยอะไรกันและยังไม่ได้ประลองแข่งรถ ถูกกลุ่มของนายจูน ปาระเบิดปิงปองเข้ามา ทำให้กลุ่มของตนเองต้องแตกกระเจิง ส่วนนายอาร์มคนตายขับรถมุ่งหน้าไปตามถนน แล้วถูกขับตามหลัง จนกระทั่งถูกถีบและประสบอุบัติเหตุในเวลาต่อมา
สำหรับชนวนเหตุ ส่วนตัวยืนยันว่าเป็นเรื่องของการเบิ้ลเครื่องใส่กัน และการออกไปก็เพื่อที่จะเคลียร์ให้ทุกอย่างจบ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะกลายเป็นเหตุบานปลายแล้วทำให้ในอาร์มถึงแก่ความตายแบบนี้ ส่วนเรื่องที่อ้างว่าผู้หญิงเป็นนางนกต่อ ตนเองไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับแฟนของนายอาร์มหรือไม่ เพราะหลังเกิดเหตุผู้หญิงคนดังกล่าวก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้