ความคืบหน้ากรณีเด็กชายวัย 3 ขวบคลาดสายตา-หายออกจากบ้านใกล้ชายแดนไทย-พม่า ระดมค้นหากันข้ามวันข้ามคืน สุดท้ายพบเป็นศพจมลำห้วยท้ายหมู่บ้าน
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสันติสุข หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา อีกครั้ง และได้พบกับนายสุริยะ น้าของผู้ตาย เป็นผู้ที่พาทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์เส้นทาง จากจุดบ้านของผู้ตายไปยังจุดพบศพ (คลองเฮโก) โดยนายสุริยะได้บอกกับทีมข่าวว่าจุดที่ตนจะพาทีมข่าวไปพิสูจน์เส้นทางนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านใช้สัญจรเป็นประจำโดยเป็นทางลาดยาง ต่อด้วยทางดินลูกรังไปจนถึงจุดพบศพคลองเฮโกซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ห่างจากบ้านของน้องซาซา (ผู้ตาย) ไปอีก 800 เมตร ซึ่งหากเดินเท้าจะใช้เวลาไปถึงจุดนั้นประมาณ 15 นาที ซึ่งส่วนตัวตนคิดว่าเด็กสามขวบไม่น่าสามารถจำเส้นทางนี้ได้ถึงแม้จะเคยมายังจุดนี้บ่อยครั้ง กับพี่ชายก็ตาม
โดยทีมข่าวได้ลองเดินตามเส้นทางนี้ จากจุดหน้าบ้านของน้องซาซาออกไปนอกหมู่บ้านนั่น เป็นเส้นทางลาดชันและค่อนข้างแคบ และช่วงที่ฝนตกถนนก็จะลื่น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินเป็นอย่างมาก ทีมข่าวมั่นใจว่าหากเด็กเดินออกไปตามทาง ตรงจุดนี้ก็น่าจะมีผู้พบเห็นและใช้เวลามากพอสมควรกว่าจะผ่านจุดนี้ออกไปนอกหมู่บ้านได้
เมื่อเดินทางออกจากหมู่บ้านไปจะเป็นถนน คอนกรีตเสริมเหล็ก ค่อนข้างแคบไปจนถึงท้ายหมู่บ้าน ต่อด้วยทางลาดชัน เป็นระยะทางร่วม เกือบ 1 กิโลเมตรจนถึงจุดเกิดเหตุคลองเฮโก ทีมข่าวเชื่อว่าเด็กสามขวบไม่น่าจะสามารถจดจำเส้นทางได้ หรือหากจำได้ระหว่างทางก็น่าจะชาวบ้านพบเห็น
ด้านนายสุริยะ น้าของผู้ตาย) บอกอีกว่า ในวันเกิดเหตุหมู่บ้านมีการจัดงาน ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ทราบว่าแม่ของน้องซาซาได้ปล่อยน้อง ทิ้งไว้กับพี่ๆ แต่คาดว่าไม่มีใครสนใจน้อง น้องจึงหายตัวไป ส่วนตัวตนได้มาช่วยชาวบ้านค้นหาน้องในวันเกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบโดยชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ได้ออกค้นหาบริเวณคลองเฮโกตรงจุดนี้แล้วแต่เชื่อว่าอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างมาบังตาชาวบ้านไม่ให้เจอศพน้องก็เป็นได้ จนรุ่งเช้าเด็กชายอาซา เด็กในหมู่บ้านซึ่งออกมาให้อาหารหมูและผ่านมาตรงจุดนี้เป็นผู้พบศพน้องซาซาเป็นคนแรก
บรรยากาศงานศพน้องซาซา สุดสลดใจแม่ไมติดใจการเสียชีวิต
ขณะเดียวกันวันนี้นางอาสูมิ ลือผะ แม่ของผู้ตาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุตนออกไปทำไร่แต่เช้าและได้ฝากน้องซาซาไว้กับพี่ๆ แต่คิดว่าพี่น่าจะเผลอจนทำให้น้องหายตัวไปจนตนทราบข่าวว่าลูกชายหายตัวไปเมื่อเวลาประมาณบ่ายสองของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงช่วยกันออกตามหาตัวของลูกชายพร้อมกับชาวบ้านอีกหลายสิบคนแต่ปรากฏว่าไม่พบตัว จนมาพบว่าลูกชาย นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณโขดหินริมคลองเฮโกในรุ่งเช้าของวันถัดมา ส่วนตัวไม่ติดใจประเด็นการเสียชีวิตของลูกชายเพราะหลังจากเดินทางไปรับศพของลูกชาย แพทย์ได้บอกถึงสาเหตุของการตายว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิต ส่วนแผลที่บริเวณมือและหูของลูกชายนั้นเกิดจากปูมากัดกิน และถูกหินบาด โดยในวันนี้ได้มีญาติพี่น้องได้มาช่วยกันจัดเตรียมงานศพเพื่อทำพิธีกรรมของชนเผ่า และจำนำศพของน้องไปฝังยังสุสานของหมู่บ้านต่อไป