ที่บ้านโป่งหนอง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มีเหตุการณ์ลูกทำร้ายพ่อเนื่องจากขอเงินไม่ได้ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งจะเห็นว่าพ่อ คือ นายต๋อย อายุ 64 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา
พอจอดรถ ก็ถูกนายสุทธิพงษ์ อายุ 41 ปี ลูกชาย ปรี่เข้ามาใช้มือซ้ายค้ำคอพ่อ ในขณะที่มือขวาถือมีด จนพ่อต้องลงจากรถ จากนั้นก็ถูกลูกชายล็อกคอ กอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพ่อล้มลง แล้วทำท่าเงื้อมือจะแทงซ้ำ
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่แม่ของนายสุทธิพงษ์ ต้องนั่งพับเพียบลงกับพื้น ยกมือไหว้ลูกชายที่ถือมีดเข้ามาทำท่าเงื้อมือจะแทงเช่นกัน จนสุดท้ายแม่ต้องก้มกราบกับพื้น
สำหรับครอบครัวดังกล่าว ก่อนหน้านี้นายต๋อยเคยถูกเลขลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ ได้เงินมา 12 ล้านบาท มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่ 3 หลังจากถูกรางวัลได้ยกเงินให้ลูกคนละ 1,000,000 บาท แล้วแต่ใครจะเอาไปทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเอาไปซื้อที่ดินปลูกบ้าน ส่วนตัวเองได้สร้างบ้านและซื้อที่ดินไว้ ปัจจุบันเงินที่ได้มาก็หมดไปแล้ว เหลือแต่เพียงที่ดิน ส่วนตัวนายต๋อยและภรรยา ได้ขายผักสดอยู่ตลาดใกล้บ้าน
ส่วนนายสุทธิพงษ์ ผู้ก่อเหตุได้ไปซื้อที่ดินทำสวนและรถ พร้อมได้พาภรรยาย้ายไปอยู่ด้วยกันบ้านในสวน 2 คน กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ประกอบอาชีพปลูกพืชผักสวนครัว แล้วให้ภรรยาไปขายที่ตลาด
ทีมข่าวสอบถามนายต๋อยเรื่องที่นายสุทธิพงษ์ ทำร้าย บอกว่า ตนเองทราบอยู่ว่าลูกชายเมายาบ้า แต่ก็ไม่อยากพูดอะไร เวลาเมายามักจะชอบเข้ามาขอเงิน ทำลายข้าวของภายในบ้านจนกระจัดกระจาย
ส่วนหลานชายที่กำลังเลิกเรียนมา ได้เล่าว่า ลุงของตนเองเป็นคนอารมณ์ร้าย เวลาเมายาเข้ามาในบ้าน จะชอบทุบข้าวของและด่าตนเอง ด่ากราดคนในบ้านไปทั่ว ทำให้ เพื่อนบ้านไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะทุกคนจะทราบกันดีว่านายสุทธิพงษ์ เมายามักจะโวยวาย จนไม่มีใครกล้าเข้ายุ่ง
ล่าสุด สภ. เวียงป่าเป้า ได้นำกำลังไปควบคุมตัวนายสุทธิพงษ์ มาสอบปากคำ โดยให้การรับสารภาพ เป็นคนทำร้ายบุพการีจริงเพื่อจะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะผลออกมาเป็นบวก พร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่โดยใช้อาวุธ สาเหตุเนื่องจากการขอแบ่งเงินในครอบครัว จำนวน 350,000 บาท
ต่อมา ตำรวจได้นำตัวนายสุทธิพงษ์ ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงราย โดยก่อนนำตัวไป ผู้ต้องหาได้ลงกราบขอขมาพ่อและแม่ โดยทั้งคู่ต่างให้อภัย