รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ให้ความเห็นเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยจับมือข้ามขั้ว กับพรรคสองลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ หลังพรรครวมไทยสร้างชาติออกมาประกาศชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ก่อนหน้านี้ก็เคยออกมาเปิดเผยแล้วว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยด้วย
ซึ่งลักษณะแบบนี้อาจารย์นันทนาบอกว่า ไม่ได้เป็นกันจับมือข้ามขั้ว แต่เป็นขั้วตรงข้าม ข้ามมาจับมือเอง ส่วนการออกมาประกาศของสองพรรคการเมืองนั้นเป็นนัยทางการเมืองที่แสดงให้เห็นว่า ต้องการลดแรงเสียดทานให้กับพรรคเพื่อไทยที่จะถูกกลุ่มคนเสื้อแดงมาโจมตี
ส่วนประเด็นเรื่องที่พักรวมไทยสร้างชาติออกมาประกาศว่า จะไม่ขอตำแหน่งใดๆ กับการจับมือร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น อาจารย์นันทนาบอกว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นการตีเช็คเปล่าให้พรรคเพื่อไทย และเมื่อวิเคราะห์จากการที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีท่าทีที่จะแถลงข่าวตั้งแต่ช่วงบ่าย แล้วเลื่อนออกไปจนมาให้ความชัดเจนอีกครั้งหนึ่งในช่วงเย็นนั้น เชื่อว่าช่วงเวลาดังกล่าวนั้นพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติกำลังตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอไปเพื่อกดดันให้พรรคเพื่อไทยยอมทำให้ มิฉะนั้นแล้วจะไม่แถลงข่าว ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ยังไม่มาเปิดเผยกับสื่อมวลชน
อาจารย์ นันทนา ยังบอกอีกว่าในวันที่ 22 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอชื่อนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อดูเสียงที่จะใช้ในการโหวตที่พรรคเพื่อไทยรวบรวมมาได้คือ 314 เสียง ซึ่งยังต้องการเสียง สว.อีก 61 เสียง และขณะนี้มีแค่เพียง สว. ท่านเดียวที่ออกมาประกาศชัดเจนว่าจะโหวตให้ คือ คุณวันชัย แต่ว่า สว.ตัวตึงอีก 3 คนคือ คุณเสรี คุณสมชัย และคุณกิตติศักดิ์ ออกมาตอบโต้ในทางตรงกันข้าม เช่นคุณสมบัติของนายเศรษฐามีความมัวหมองอาจจะขัดต่อจริยธรรม
โดยส่วนตัว อาจารย์นันทนา มองว่า คุณเศรษฐาจะไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะการโหวตจะไม่ผ่าน เนื่องจากได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. ไม่เพียงพอ แล้วจะถูกส่งไม้ต่อไปยังคุณอนุทินของพรรคภูมิใจไทย แต่คุณอนุทินก็จะปฏิเสธในการรับตำแหน่งเพื่อส่งไม้ต่อให้กับพลเอกประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี
และเมื่อพลเอกประวิตรได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเกิดปัญหาตามมา เพราะจะเป็นลักษณะของรัฐบาลชุดเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แล้วก็มีพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมด้วยแค่นั้น ซึ่งจะทำให้เกิดคนที่ไม่พอใจมากมาย และเกิดปัญหาทางการเมือง เพราะว่าสถานการณ์ในขณะนี้มีทั้งกลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดงเสื้อเขียวรวมปะปนกัน ก็จะกลายเป็นสลิ่มอย่างสมบูรณ์แบบ
อาจารย์นันทนาบอกว่า สุดท้ายเราจะได้พระเอกคนใหม่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีฉายาว่า "ยืนยังเซ"
ซึ่งหากเป็นไปตามรูปแบบนี้ คำถามตามมาว่า การที่พรรคเพื่อไทยยอมจับมือกับพรรคสองลุง ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น อาจารย์นันทนามองว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะมีความต้องการอื่นนอกเหนือจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าหากวิเคราะห์การเมืองแบบความสัมพันธ์และความเชื่อมโยง เพราะมันสัมพันธ์กับการเดินทางกลับประเทศของอดีตนายกทักษิณ