"จตุพร พรหมพันธุ์" ย้ำ มุกทักษิณกลับบ้าน คือเกมการเมือง ชี้ ทักษิณใช้ชีวิตประชาชนเป็นต้นทุนในการต่อสู้เพื่อตัวเอง สักวันจะต้องได้รับวิบากกรรมอย่างสาสม
ข่าวช่อง 8 สัมภาษณ์ “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน จากกรณีที่ “อุ๊งอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร” ประกาศว่า “ทักษิณ” จะกลับประเทศไทย ในวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโหวตนายกฯ ซึ่ง “จตุพร” ได้แสดงความคิดเห็นดังต่อไปนี้
1. อย่าเพิ่งเชื่อว่ากลับจริง จนกว่าจะเห็นตัวเป็นๆ
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงประเด็นที่ว่า ในวันที่ 22 สิงหาคม ทักษิณจะกลับเมืองไทยจริงหรือไม่ ไว้ว่า
“การประกาศว่า ‘ทักษิณ’ จะกลับบ้าน นัยก็รูปแบบเดิม เหมือนการประกาศกลับครั้งที่ผ่านมา เพราะมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ ‘พรรคเพื่อไทย’ กำลังตระบัดสัตย์กับประชาชน แล้วก็เกิดวิกฤตศรัทธาที่มีต่อพรรคเพื่อไทย , คุณอุ๊งอิ๊งค์ , คุณเศรษฐา , คุณหมอชลน่าน และแม้กระทั่งอดีตนายกฯ ทักษิณ อย่างรุนแรงที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเป็นห้วงเวลาของการต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างถึงที่สุด ในเรื่องกระทรวงทบวงกรมต่างๆ
“ซึ่งปลายทาง 100 % ผมเชื่อว่า ‘คุณเศรษฐา’ จะไม่ผ่านการโหวตนายกฯ แต่ว่าการแบ่งกระทรวงต่างๆ แม้จะมีการเปลี่ยนหัว ก็จะไม่กระทบกับโครงสร้างที่ได้มีการเจรจาเอาไว้ก่อน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเรื่องอะไรที่จะเบี่ยนเบนประเด็นความน่าสนใจ แม้จะเป็นเรื่องโกหกซ้ำซาก เหมือนที่ผ่านมาก็ตาม นั่นก็คือการประกาศกลับบ้านของ ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’
“และผมยังยืนยันคำเดิมว่า ตราบใดที่ยังไม่เห็น ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ ที่สนามบินดอนเมือง เวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม ก็อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไร จนกว่าจะเห็นตัวเป็นๆ ซึ่งผมก็อยากให้ ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ เดินทางกลับมาประเทศไทย เพราะว่าปัญหาที่ประเทศมีต่อตัวท่าน จะได้จบกันเสียที”
2. ประกาศกลับบ้าน คือเกมการเมือง
จตุพร พรหมพันธุ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ประกาศทักษิณกลับเมืองไทย วันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโหวตนายกฯ ส่อเจตนาเล่นเกมการเมือง
“มันไม่มีเรื่องอื่นที่จะเป็นเหตุเป็นผล ประกาศกลับวันเดียวกับที่ประธานสภานัดโหวตนายกฯ ทั้งๆ ที่วันนี้ก็กลับได้ หลังวันที่ 22 สิงหาคม ก็กลับได้ สามารถกลับได้ทุกวัน ถามว่าทำไมจะต้องเลือกกลับวันเดียวกับการโหวตนายกฯ ล่ะ มันก็คือเกมการเมือง มันก็คือลีลาเดิมๆ เพียงแต่ว่าครั้งนี้อาจจะซ่อนความอยากความต้องการบางอย่างที่คนจะคาดไม่ถึง
“แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็น ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ ท่านพร้อมแลกทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ว่าการที่ต้องกลับมาแล้วติดคุก จะต้องถูกขังแบบคนอื่นๆ ตามกฎหมาย มันยังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับท่าน เพราะฉะนั้นตราบใดที่ยังไม่เห็น ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ ตัวเป็นๆ ที่สนามบินดอนเมือง ในวันและเวลาดังกล่าว ก็ต้องใจเย็นๆ ก่อน แต่ผมก็วาดหวังว่า จะได้เห็นท่านในวันนั้น
“เพราะสำหรับ ‘นายกฯ ทักษิณ’ ในเรื่องการโกหกว่าจะกลับบ้านนี่ ท่านไม่ต้องอินังขังขอบเลย คือถ้าเป็นคนอื่นจะต้องรู้สึก ตั้งแต่ประกาศครั้งแรกก็ต้องกลับมาแล้ว แต่นี่ประกาศมา 20 ครั้ง มันจึงไม่มีอะไรจะเสีย กลับหรือไม่กลับ ที่ลูกประกาศมันก็ไม่ใช่ครั้งแรก วันนี้ลูกได้รับความเสียหายที่มีเสี่ยงมากกว่า คือการประกาศบนเวทีปราศรัย แต่ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
“เพราะฉะนั้นมันไม่มีอะไรจะเสีย แต่มันได้เบี่ยงเบนประเด็น หรือใช้เป็นเงื่อนไขในต่อรองทางการเมือง เหมือนกันทุกครั้งที่ผ่านมา”
3. เกมปิดฉาก “ตระกูลชินวัตร”
จตุพร ชี้ การเมืองไทยต้องดูยาวๆ ถ้าเสนอเศรษฐา จะไม่ผ่านโหวต จนไปถึงจุดที่อุ๊งอิ๊งค์ได้เป็นนายกฯ เข้าสู่กับดัก ปิดฉากตระกูลชินวัตร
“คือเกมนี้ ความสมบูรณ์ของท้องเรื่อง ของการปิดฉาก ‘ตระกูลชินวัตร’ และตระกูลที่เกี่ยวข้อง ก็คือการให้ ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ เข้ามาเป็นแคนดิเดตฯ และเสนอโหวตนายกฯ แล้วได้รับความร่วมมือจากสภาในการโหวตให้ผ่าน แต่หลังจากนั้นจะพังยับ
“เหมือนทอดผ้าป่าสามัคคี แทนที่จะได้ทอดผ้าไตร แต่กลายเป็นทอดผ้าบังสุกุล การเมืองมันจะไปถึงจุดที่ปิดฉาก ‘ตระกูลชินวัตร’ คือเวลานี้มันยังไม่สมบูรณ์ตามท้องเรื่อง ที่ผมบอกว่า ‘เศรษฐา’ อย่างไรก็ไม่ผ่านอยู่แล้ว แต่จะเดินไปถึงวันโหวตหรือไม่ ? จะเปลี่ยนเป็น ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ เลยหรือไม่ ? หรือว่าเอา ‘คุณเศรษฐา’ เหมือนเดิม ? แต่ยังไงๆ ก็ไม่ผ่านโหวต สว. อยู่แล้ว
4. ต้นทุนที่ “เพื่อไทย” ใช้ในเกมการเมือง คือ “ชีวิตของประชาชน”
สุดท้ายนี้ “จตุพร พรหมพันธุ์” ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ทักษิณใช้ชีวิตประชาชนเป็นต้นทุนในการต่อสู้เพื่อตัวเอง ชี้ สักวันจะต้องได้รับวิบากกรรมอย่างสาสม
“ต้นทุนที่ใช้ในเกมการเมือง มันไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว มันคือต้นทุนชีวิตของประชาชนที่เขาไปบาดเจ็บล้มตาย สูญสิ้นอิสรภาพให้กับ ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ และครอบครัว จำนวนนับร้อยชีวิตบาดเจ็บหลายพัน สูญสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน ตลอดระยะเวลาที่เขาร่วมเป็นร่วมตายกับ ‘นายกฯ ทักษิณ’
“เพราะฉะนั้นการกระทำทั้งหมดในวันนี้ ไม่มีการกระทำใดที่มันร้ายแรงเท่ากับการทรยศหักหลังประชาชน เพราะฉะนั้นเราจะมาวิเคราะห์คนที่ไม่มีอะไรเสีย คือคนที่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี มันไม่มีครั้งที่ 2 ในการประกาศกลับบ้าน แต่นี่ทุกครั้ง ประกาศแล้วไม่กลับ
“และในห้วงของการโหวตเลือกนายกฯ ก็ใช้เรื่องนี้ ใช้ความรักของประชาชนมาละเลงเล่นทุกครั้ง เพราะฉะนั้นผมหวังว่า ต่อไปเขาจะได้รับวิบากกรรมอย่างสาสมที่สุด ต่อการทำลายศรัทธาประชาชนในรอบนี้”