จากกรณีหัวอกคนเป็นแม่แทบใจสลาย เมื่อลูกชายวัยเพียง 10 ขวบ คลุ้มคลั่งทำลายข้าวของในบ้าน หนักถึงขั้นจะฆ่าปาดคอแมว แม่ตกใจรีบพาหาหมอ พบสาเหตุลูกถูกชายข้างบ้านหลอกให้เสพยา บังคับหาเงินรายวันแลก

ล่าสุดวันนี้ 19 ส.ค. 66 ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยัง ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา พบนางมาลี (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องกล้า (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ เด็กชายที่ถูกเพื่อนบ้านบังคับให้เสพยาเสพติดเป็นเวลาร่วม 2 เดือน

แม่เด็กเปิดใจลูกอาการรุนแรง เกือบบีบคอแมวตาย

นางมาลี เล่าว่า ตนเพิ่งจะไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียนประจำเมื่อเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาปิดเทอม และได้มีเพื่อนบ้านชื่อ นายสายชล หรือนายแระ อายุ 47 ปี ได้เข้ามาชักชวนลูกชวนของตนไปนั่งเล่นที่บ้านบ่อย ๆ ตนเห็นว่าบ้านอยู่ติดกัน หลังคาชนกัน เลยไว้ใจให้ลูกไปเที่ยวเล่น เพราะน้องกล้าเป็นเด็กพิเศษ (สมาธิสั้น) จึงไม่อยากให้ลูกชายไปเที่ยวเล่นที่ไกล ๆ จึงอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นที่บ้านนายสายชล เพราะบ้านอยู่ติดกัน ลูกชายจะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา

แต่เมื่อลูกชายได้ไปเที่ยวเล่นอยู่ที่บ้านนายสายชล ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ลูกชายเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ ทั้งทำลายข้าวของ ทุบตีพ่อแม่ ขนาดที่ว่าใครเดินผ่านก็จะตะโกนด่าเขาไปทั่ว ตอนแรกแม่ก็คิดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของยาประจำที่น้องใช้รักษาสำหรับเด็กพิเศษ แต่จุดที่ทำให้แม่รู้สึกว่าไม่ได้การคือวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา อยู่ ๆ น้องเกิดโวยวาย จับแมวที่เลี้ยงไว้มาบีบคอ จนแมวมีเลือดออกทางจมูก และหยิบมีดปลายแหลมทำท่าจะปาดคอฆ่าแมว ซึ่งมันแปลกมากสำหรับแม่ เพราะปกติน้องเป็นคนรักแมวและชอบแมวมาก

แม่จึงพาน้องกล้า ไปโรงพยาบาลเพื่อให้มาตรวจดูจนพบสารเสพติดในร่างกายของลูกชาย จนได้สอบสาวราวเรื่อง ได้ความว่า นายสายชล คนข้างบ้านหลอกให้กินยาบ้าทุกวัน ครั้งละ 2-3 เม็ด เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว พอน้องเริ่มติดยา นายสายชลก็จะบังคับให้หาเงินมาให้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 50-100 บาท และยังบอกอีกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในพื้นที่ก็ถูกนายสายชลหลอกให้ติดยาบ้างอมแงม และบังคับให้หาเงินมาจ่ายให้ทุกวันอีกนับสิบราย 

เด็กกินยาบ้าจนลิ้นจุกปาก

จากนั้นนางมาลี จึงได้นำตัวน้องกล้าเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาล โดยช่วงแรกที่น้องรับการบำบัด น้องมีอาการต่อต้านยารักษาจากโรงพยาบาล มีอาการลิ้นจุกปาก ตัวเกร็ง และพูดจาไม่รู้เรื่อง และทุรนทุรายต้องการใช้ยาเสพติด แต่ปัจจุบันนี้น้องกล้ามีอาการที่ดีขึ้นถึง 80% น้องสามารถเอาชนะความต้องการใช้ยาเสพติดได้ และไม่อาละวาด ทุบตีพ่อแม่ หรือทำลายข้าวของแล้ว

พ่อน้องกล้าเผยแมวทุกตัวหวาดกลัวลูก

นายนาวี (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องกล้า ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะน้องเป็นเด็กดี ยังมีอนาคตอีกยาวไกล ทำไมผู้ใหญ่จึงต้องมารังแกเด็กแบบนี้ อีกทั้งได้นำแมวตัวดังกล่าวที่น้องกล้าได้ลงมือทำร้ายมาให้ทีมข่าวดู อาการของแมวล่าสุด คือ มีเลือดออกทางจมูกตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง หายใจติดขัด ร้องเสียงแปลก ๆ เหมือนแมวต้องหายใจทางปากแทน และแมวทุกตัวในบ้านมีอาการหวาดกลัวต่อน้องกล้า เมื่อน้องกล้าเดินเข้ามาภายในบ้าน แมวทุกตัวจะพยายามวิ่งหนีและไปหาที่หลบซ่อน ทำให้ตนรู้ซึ้งเลยว่ายาเสพติดมันน่ากลัวจริง ๆ จึงอยากฝากไปถึงผู้ปกครองทุกคน ให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับครอบครัวของตน


แฉอีกเด็ก13 ในหมู่บ้านติดยา ไปอยู่แก๊งค้ายา

นอกจากครอบครัวของน้องกล้าแล้ว ทีมข่าวช่อง 8 ยังพบอีกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าได้ถูกผู้ค้ายาเสพติดในหมู่บ้านนำตัวลูกชายวัย 13 ปี ไปกักขังที่บ้านของผู้ค้ายา โดย นางวันดี (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ได้เผยกับทีมข่าวว่า ในหมู่บ้านไม่ได้มีเพียงนายสายชลเท่านั้นที่ขายยาเสพติดให้กับเด็ก แต่ยังมีอีกหลายบ้านที่ทำการล่อลวงเด็กให้ไปใช้ยาเสพติด ซึ่งลูกชายตนก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่โดนล่อลวงไป

ตอนนี้ลูกชายตนหนีออกจากบ้านไปอยู่กับบ้านของคนขายยาเสพติดเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ ซึ่งอยู่ห่างออกจากบ้านตนเพียง 2 กิโลเมตร และคนเหล่านั้นจะสั่งให้เด็กกลับมาขโมยเงินที่บ้านเพื่อนำไปแลกกับยาเสพติด เมื่อคืนวานตนได้ไปตามลูกชายกลับบ้าน แต่ลูกชายไม่ยอมกลับ เพราะอยากอยู่เสพยาบ้ากับคนกลุ่มนั้นต่อ นางวันดีเล่าว่า ปกติลูกชายตนเป็นเด็กที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ลูกชายตนผอมซีดจนน่าเป็นห่วง ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว จึงอยากให้ทีมข่าวช่อง 8 ช่วยเป็นกระบอกเสียงไปให้ถึงหูของเจ้าหน้าที่ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาตรวจสอบและแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้หน่อย เพราะตนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริง ๆ