จากกรณีสาวใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายมุลตรี อายุ 40 ปี เนื่องจากป้องกันตัวเพราะถูกผู้เสียชีวิตจะข่มขืน และบุกมาที่บ้านหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.พรรณี หรือ เจี๊ยบ อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุที่ใช้ปืนยิงนายมุลตรีจนเสียชีวิต หลังจากช่วงเช้าวันนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวเธอส่งศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อฝากขัง แต่ผู้เป็นพ่อได้เดินทางไปประกันตัวเธอออกมา โดยศาลเรียกหลักทรัพย์ 400,000 บาท แต่ลดจ่ายจริงทั้งหมด 64,000 บาทเป็นเงินสด ซึ่งพ่อของตนเองต้องรวบรวมเงินจากชาวบ้านและกู้หนี้ยืมสินนอกระบบมาเพื่อหาเงินมาประกันตัว
น.ส.พรรณี เผยว่า ตอนที่ตนเองถูกตำรวจจับเพราะใช้ปืนลูกซองของพ่อยิงนายมุลตรีนั้น ตนเองยอมรับว่า ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนแรกตั้งใจจะนำปืนลูกซองมาขู่ผู้ตายเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาตลอด 1 ปี ถูกนายมุลตรีผู้ตาย ตามมาราวี พยายามจะเข้าบ้านตนเองมาข่มขืนอยู่ตลอด โดยนายมุลตรี เสพยาจนหลอนและดื่มเหล้าหนักชอบคิดว่า ตนเองคือเมีย เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยว่าจ้างให้นายมุลตรีมาสร้างบ้าน ปูกระเบื้องให้ ซึ่งหลังจากสร้างเสร็จ นายมุลตรี ได้บอกว่า หลงรักตนเองมาก เมื่อสร้างบ้านให้แล้ว ตนเองต้องเป็นเมียมัน ซึ่งตนเองบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ไม่ได้คิดอะไรด้วย และไม่ได้ชอบ รวมถึงตนเองก็จ่ายเงินค่าจ้างสร้างบ้านให้ครบทั้งหมด ไม่ใช่ให้มาสร้างให้ฟรีๆ และเคยไล่ให้เลิกตามตอแยหลายครั้งแล้ว แต่นายมุลตรีก็มาราวีตนเองทุกเช้า กลางวัน เย็น เป็นมาเกือบ 1 ปีเต็ม
นอกจากนี้เธอยังได้ส่งคลิปเก่าๆที่นายมุลตรีมักจะบุกเข้ามาในบ้าน เพื่อจะมานอนกับตนเองอีกด้วย โดยในคลิปคือวันที่ 19 สิงหาคม ปีที่แล้ว ครบ 1 ปีพอดี ตนเองตอนนั้นต้องแจ้งตำรวจมาเอาตัวออกจากบ้าน เพราะนายมุลตรีเมาและจะเข้ามาข่มขืนตนเอง โดยบอกกับตำรวจว่า “ผมไม่ผิด นี่บ้านของผม ผมเป็นคนสร้าง” ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริงเลย
ส่วนวันเกิดเหตุนายมุลตรี บุกมาหาที่บ้านสภาพเมาพูดแทบไม่รู้เรื่องและบอกกับตนเองว่า “วันนี้เป็นไงเป็นกัน มึงต้องเป็นเมียกู กูตายก็ยอม” ตอนนั้นตนเองอยู่ในบ้าน ตกใจมาก และรีบปิดประตูบ้าน แต่ไม่ทัน นายมุลตรีเข้ามาหาถึงในบ้าน ตนเองจึงรีบไปหยิบปืนลูกซองของพ่อมาขู่ให้ออกไป แต่เจ้าตัวไม่ไปและยังเดินเข้ามาจะแย่งปืนของตนเอง ตอนนั้นคิดในใจหากไม่สู้หรือปล่อยปืนให้มุลตรี ตนเองคงถูกยิงตายแน่ๆ หรือ โดนข่มขืนจนได้ จึงได้กระชากลูกซองขึ้นลำปืนทั้งๆที่ตนเองไม่เคยทำ ก่อนจะลั่นไกใส่นายมุลตรี จนนายมุลตรีนอนเสียชีวิต
ยืนยันตนเองทำไปเพราะป้องกันตัว หากไม่ทำตนเองก็ตาย เพราะนายมุลตรีขู่จะข่มขืน จะฆ่าตนเองหลายรอบแล้ว ส่วนปืนลูกซอง ยืนยันตนเองยิงไม่เป็น แต่เคยเห็นพ่อซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นำไปใช้ตอนเด็กๆ จึงนำวิธีกระชากลูกซองเพื่อยิง หลังเกิดเหตุ ตนเองต้องติดคุก1 คืน เสียทั้งประวัติ เสียทั้งเงิน และเสียเวลาต้องขึ้นศาล และหากแพ้คดีก็ต้องติดคุก ทั้งๆที่ ตนเองอยู่ของตนเองดีๆ ซึ่งตนเองเสียใจมาก และขอให้ต่างคนต่างอโหสิกรรมให้กันและกัน อย่าจองเวรกันอีก