หนุ่มไรเดอร์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิงเสียชีวิต คาเกาะกลางถนนแยกนวมินทร์ สาเหตุดวงซวยเดินไปดูที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมีปัญหากับคนอื่นแต่หันมาเห็นเป็นโจทก์เก่าจึงถูกระบายแค้น

จากเหตุการณ์ที่เมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา นายเทพทัต อายุ 19 ปี อาชีพไรเดอร์  ถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ลำคอ 1 นัด ปาก 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณเกาะกลางสี่แยกถนนนวมินทร์มุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายธีระภัทร อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นฝ่ายกลุ่มผู้ก่อเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ปากอาการสาหัส และ นายอภิรักษ์ อายุ 18 ปี ถูกของมีคมฟันแขนขวา ฝ่ายกลุ่มผู้ก่อเหตุ และ  นายปิยะพงษ์ เลื่อมสิน อายุ 19 ปี ฝ่ายผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บรถจักรยานล้มทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล บริเวณจุดเกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน .22 ตกอยู่ 2 ปลอก

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พบกองเลือดอยู่บริเวณเกาะกลางเป็นจำนวนมากและยังพบรอยเลือดอยู่ บนฟุตบาทบริเวณสี่แยกห่างจาก. ผู้เสียชีวิตประมาณ 50 เมตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ผู้บาดเจ็บถูกทำร้าย

ทีมข่าวช่อง 8  ได้ภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ โดยกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 จะ เห็นจุดเกิดเหตุบริเวณเกาะกลางสี่แยกถนนนวมินทร์มุ่งหน้ามอเตอร์เวย์  มีกลุ่มกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนั่งอยู่ประจำจุด  โดยมีกลุ่มไรเดอร์นั่งอยู่ห่างจากกลุ่มกู้ภัยประมาณ 10 เมตร  ระหว่างนั้นในพื้นที่ดังกล่าว ก็มีวัยรุ่นในพื้นที่ขี่รถจักรยานยนต์แว้นกันบนถนนจุดดังกล่าว

จากนั้นช่วง 02.14 น.ของวันนี้(20 ส.ค) ทางกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร  จึงรีบออกจุดไปที่เกิดเหตุ

10 นาทีต่อมา ทางกู้ภัยนำคนเจ็บออกมาจากร้านเหล้าที่เกิดเหตุเพื่อมาปฐมพยาบาลบริเวณริมถนน

สักพักจะเห็นว่ามีกลุ่มคนก่อเหตุที่ทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีซึ่งหนึ่งในนั้นมีจิตอาสากู้ภัยร่วมกตัญญอยู่ด้วย / โดยวัยรุ่นชายกลุ่มก่อเหตุมาเคลียร์เรื่องที่ขัดแย้งกันในร้านเหล้า / จากในภาพก็จะเห็นมีกู้ภัยเข้ามาสมทบอีกเพื่อสังเกตการณ์และไม่อยากให้เรื่องบานปลาย

แต่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายที่กำลังเคลียร์ปัญหาเกิดความขัดแย้งขึ้นอีกครั้ง  โดยมีชายคนหนึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มคนก่อเหตุหรือกู้ภัยผลักอกอีกฝ่าย ซึ่งระหว่างนั้นกลุ่มไรเด้อที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เคลียร์ปัญหากันก็เดินเข้ามาดูเหตุการณ์

ระหว่างนี้คาดว่ากลุ่มคนก่อเหตุเห็นโจทย์เก่าที่เคยมีปัญหาขัดแย้งกันก่อนหน้านี้อยู่ในกลุ่มไรเดอร์  จึงเรียกพวกให้มาเสริมในที่เกิดเหตุทันที

จากในคลิปทางกลุ่มคนก่อเหตุมีท่าทีคล้ายตะโกนท้าทายฝ่ายกลุ่มไรเดอร์  ส่งผลให้นายเทพทัตหรือ แป๊ะ  ที่ใส่เสื้อขาวเดินออกจากกลุ่มกู้ภัยและเข้าไปตอบโต้กลุ่มคนก่อเหตุทันที  ก่อนใช้ปืนชักขู่กลุ่มคนก่อเหตุและวิ่งไล่ล่าไปจนถึงบริเวณเกาะกลางถนน/ แต่ต่อมาชายที่ใส่เสื้อดำซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนก่อเหตุก็ชักปืนออกมาและยิงสวนทันที  ทำให้นายแป๊ะต้องวิ่งหนีออกมาตั้งหลักก่อน  ก่อนจะวิ่งไล่กลุ่มคนก่อเหตุอีกครั้ง

ระหว่างนั้นนายแป๊ะไม่ทันระวังตัวว่ามีชายเสื้อดำซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนก่อเหตุอีกคนอยู่บริเวณด้านหลังและได้ชักปืนออกมาไล่ยิงเช่นกัน  ส่งผลให้นายแป๊ะที่กำลังวิ่งไล่อีกฝ่ายบริเวณเกาะกลางถนนถูกยิงใส่จากด้านหลังทำให้ล้มลงฟุบกลางเกาะกลางถนน

ซึ่งคาดว่าเพื่อนไรเดอร์ที่วิ่งตาม เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือนายแป๊ะก็ถูกคนก่อเหตุยิงใส่  ทำให้ล้มลงก่อนที่จะตั้งสติและรีบวิ่งหนีออกจากจุดดังกล่าว

ต่อมาทางกู้ภัยที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือนายแป๊ะที่ถูกยิง  รวมทั้งมีกู้ภัยบางส่วนที่วิ่งไปตามหาเพื่อนของนายแป๊ะที่เป็นไรเดอร์เพื่อที่จะรีบปฐมพยาบาลให้เร็วที่สุด

ซึ่งกล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นหน้าทีตอนที่เกิดเหตุมีอาสาสมัครกู้ภัยบางสุวรรณต้องวิ่งหลบกระสุนที่ ทั้งกลุ่มคนก่อเหตุและกลุ่มไรเดอี์ยิงใส่กันกลางถนน / และไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุก็ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุบางคนรีบขี่หนีออกจากจุดเกิดเหตุ  โดยขี่หนีไปคนละทิศคนละทางจนเกือบไปชนกับคันอื่น

ทีมข่าวได้สอบถาม นายอาม นามสมมติ อายุ 40 ปี อาชีพไรเดอร์ เล่าว่า ปกติตนเองและผู้ตายซึ่งรู้จักกันจะจอดรถสแตนด์บายเพื่อรอรับงานจาก ลูกค้าบริเวณสี่แยกจุดเกิดเหตุทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าไปถึง 03:00 น. ซึ่งขณะเกิดเหตุได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเด็กแว๊นขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจำนวนมากกว่า 50 คัน และได้เกิดมีปัญหากับกู้ภัยที่จอดรถสแตนด์บายอยู่บริเวณสี่แยก ซึ่งระหว่างที่กลุ่มกู้ภัยและวัยรุ่นที่ก่อเหตุกำลังเคลียร์ปัญหากันอยู่นั้น ผู้ตายที่นั่งอยู่จึงเดินเข้าไปดู แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุจำหน้าผู้ตายได้ว่าเคยเป็นคู่อริกันมาก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเฉียดศีรษะผู้ตายไป 1 นัด ก่อนที่ผู้ตายไปอย่าวิ่งหนีเอาชีวิตรอดข้ามฝั่งไป บริเวณเกาะกลางแต่ผู้ก่อเหตุยังวิ่งไล่ตามไปคันก่อนใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายล้มลงและเสียชีวิต และได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ทำให้มีฝั่งคู่กรณีถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน และมีเพื่อนของผู้ตายได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งราย 

ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้น้องเคยมีปัญหากับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อนเรื่องอะไร แต่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะมีปัญหากับกลุ่มกู้ภัยแต่อารมณ์ค้างเมื่อเห็นผู้ตายซึ่งเคยมีปัญหาและเป็นโจทก์เก่ากันมาก่อนจึงได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงจนกระทั่งเสียชีวิต ปกติแล้วน้องก็เป็นคนที่มีอุปนิสัยเรียบร้อยเจอหน้าก็ยกมือไหว้และไม่เคยพบว่าน้องเคยมีปัญหาและมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน แต่อย่างใด และบริเวณนี้ที่พวกตนเองนั่งรอลูกค้าทุกวันก็ไม่เคยมีปัญหา กับใครมาก่อน ส่วน กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ได้รับบัตรเจ็บที่โดนกระสุนปืนไม่รู้ว่าโดนกระสุนปืนพวกเดียวกันหรือจากทางไหนแต่เชื่อว่าไม่ใช่กระสุนปืนจากผู้ตายแน่นอนเนื่องจากผู้ตาย

ขณะที่ต่อมา นางสาว สนิท ป้อมลอย อายุ 47 ปี แม่ ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยพี่สาวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุน้ำเครื่องอาหารคาวหวานพร้อมกับ. ธูปเชิญวิญญาณลูกชายที่เสียชีวิต และได้เปิดเผยว่า เมื่อคืนก่อนที่ลูกจะออกไปเกิดเหตุได้ขอเงินจำนวน 100 บาท เพื่อออกไปทำงาน ซึ่งตัวเอนสังเกตว่าลูกชายมีหน้าตาหมองคล้ำคล้ายเป็นลางบอกเหตุแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรและไม่ได้ตักเตือนลูกชายไม่ได้ออกไปจนกระทั่งไปเกิดเหตุถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว และสิ่งที่เกิดกับลูกตนเองนั้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายเพราะผู้ก่อเหตุยิงแล้วยังตามมายิงซ้ำ ลูกชายอีก จึงอยากให้ตำรวจ ติดตามจับกุมตัวให้ได้เพื่อให้รับโทษสูงสุดประหารชีวิตตกไปตายตามกัน

ทีมข่าวยังได้สอบถาม  นายเอ นามสมมติ อายุ 20 ปี อาชีพไรเดอร์ เพื่อนของผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าโดยปกติแล้วตนเองจะจอดอยู่ในจุดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุร่วมกับกลุ่มของ น้องที่เสียชีวิตเมื่อคืน โดยปกติจะจอดรอกันอยู่ประมาณ 4 ถึง 5 คันโดยจะจอดถึงช่วงประมาณตี 2 ถึงตี 3 แล้วแต่วัน 

เมื่อคืนมีเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มากกว่า 50 คน มาเคลียร์ปัญหากับอาสากู้ภัยที่จอดอยู่บริเวณใกล้ๆ สี่แยก ซึ่งน้องที่เสียชีวิตได้เดินเดินจากจุดที่จอดรอรับงานอยู่ไปสังเกตการณ์เคลียร์ปัญหากัน แต่เมื่อเดินไปถึง หนึ่งในกลุ่มของวัยรุ่นที่มาเคลียร์กับกู้ภัยหันมาเจอ ก็ตะโกนว่านั้นไอ้แป๊ะ ซึ่งแป๊ะคือชื่อของน้องที่เสียชีวิต ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นจะวิ่งไล่น้องที่เสียชีวิต และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนเองเห็นน้องล้มลงและกลุ่มวัยรุ่นได้วิ่งตามไปอีกประมาณสามถึงสี่คน และมีการยิงซ้ำก่อนจะวิ่งแยกย้ายกันหลบหนี ตนเองก็วิ่งหลบมาอยู่ที่บริเวณด้านหลังรถกู้ภัยก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก ยอมรับว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นค่อนข้างชุลมุนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าใครจริงใคร แต่ตนเองยืนยันได้ว่าฝั่งตนเองไม่ได้มีอาวุธปืนเพราะออกมาวิ่งงานตามปกติ

ส่วนเรื่องปัญหาของผู้ตายกับกลุ่มวัยรุ่นตนเองรู้มาแค่ว่ามีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นย่านนวมินทร์แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ส่วนสาเหตุที่กลุ่มวัยรุ่นมาเคลียร์กับอาสากู้ภัยเท่าที่ได้ยินมาคือกลุ่มวัยรุ่นได้ยินคนในกลุ่มอาสาสมัครตะโกนให้ของลับเมื่อประมาณสองถึงสามวันก่อนซึ่งเป็นคนละกลุ่มอาสาสมัครที่มาจอดในวันเกิดเหตุ(คนละมูลนิธิ จอดจุดเดียวกัน วันที่ได้ยินให้ของลับ คือวันเวรมูลนิธิร่วมกตัญญู วันเกิดเหตุ คือ มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง)

 นอกจากนี้หลังจากที่น้องที่เสียชีวิตถูกยิงยังเกิดเหตุชุลมุนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม รวมถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยเช่นกันแต่ไม่ทราบว่าถูกใครทำร้าย

ส่วนต่อจากนี้ตนเองก็ยังคงต้องวิ่งงานรับส่งอาหารอยู่ในพื้นที่ถนนนวมินทร์ยอมรับว่ามีความกลัว แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะบ้านพักก็อยู่ในย่านถนนนวมินทร์เช่นกันจำเป็นต้องวิ่งงานในโซนนี้

ขณะที่การสอบปากคำตลอดคืนที่ผ่านมาตนเองได้ให้รายละเอียดกับทางตำรวจไปหมดแล้วโดยตำรวจได้มีการนำรูปถ่ายของกลุ่มวัยรุ่นบางคน มาให้ตนเองดูเพื่อยืนยันตัวบุคคล  เพราะตำรวจพอจะรู้กลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่แล้ว และยังทราบว่าตำรวจได้มีการติดตามสังเกตพฤติการณ์ของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ทำให้เมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดตำรวจสามารถนำภาพถ่ายมาให้ตัวเองดูได้ ส่วนในรายละเอียดตนเองไม่ทราบคงต้องถามทางตำรวจ

ด้าน นายอภิรักษ์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเป็น กลุ่มฝ่ายผู้ก่อเหตุ ระบุว่า ตนเองได้รับการติดต่อจากคนในซอยว่ามีหลานชายของตนเองได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่ปาก จึงได้เดินทางมาดูซึ่งเป็นทางผ่านขณะกลับบ้าน เมื่อมาถึงเหตุการณ์ทั้งหมดสงบลงแล้วมีตำรวจเข้ามาทำการห้ามปรามและมีการยึดอาวุธไว้แล้วบางส่วน ตนเองได้เข้าไปดูหลานชายที่ถูกยิงรอการช่วยเหลืออยู่ก็พบกับชายคุ้มคลั่งคนหนึ่งซึ่งตำรวจกำลังพยาม ล้อมตัวเอาไว้โดยมาทราบภายหลังว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มของไรเด้อที่มีปัญหากับกลุ่มของหลานชาย ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างการล้อมตัวชายคุ้มคลั่ง รายนี้ก็ได้มีการ หยิบอาวุธมีดขึ้นมาและเขวี้ยงมาใส่ตนเองทำให้โดนบาทที่บริเวณแขนขวา

 ยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรกจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิงและเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ส่วนปัญหาที่มีการทั้งสองฝ่ายก็ไม่ทราบด้วยเช่นกัน เพราะในวันเกิดเหตุตนเองเพียงแค่ต้องการเดินทางมาดูหลานชายพอจะรับการติดต่อแจ้งว่าถูกยิงเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ตนเองยังทราบว่าตำรวจได้มีการยึดอาวุธปืนฝั่งกลุ่มไรเด้อ ได้ประมาณสามกระบอกส่วนรายละเอียดตนเองไม่ทราบ