รัฐสภา!! โหวต "เศรษฐา" นั่งนายกฯ คนที่ 30 เสียงท้วมท้น 482 เสียง ขณะ "สว.สาย คสช." เห็นชอบเพียบ! - งูเห่า ปชป.ร่วมหนุนด้วย  พบ "บิ๊กป้อม-เฉลิม" ลาประชุม

หลังใช้เวลาอภิปราย นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี นานกว่า 5 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.20 ที่ประชุมก็เริ่มต้นกระบวนการลงมติแบบขานชื่อรายบุคคล ว่า เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง โดยใช้เวลาลงคะแนนกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้น นายพรเพชร วิชิต​ชล​ ได้ขานคะแนน นายเศรษฐา ระบุว่า ได้คะแนนเห็นชอบ 482   ไม่เห็นชอบ 165  งดออกเสียง 81  เรื่องคะแนนเกินกึ่งนึงทำให้นายเสร็จถ่ายได้รับความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี หลังการประกาศคะแนนพบว่า สส.ในที่ประชุม ได้ตบมือแสดงความยินดี กับนายเศรษฐา

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกคะแนนพบว่า เสียงเห็นชอบ 482 แบ่งเป็น สว.152 -​ สส.330  ส่วนเสียงไม่เห็นชอบ 165 แบ่งเป็น สส. 152 และ สว. 13  ขณะที่ยอดงดออกเสียง 81 เสียง ประกอบด้วย สส.13 สว.68  นอกจากนี้ยังพบว่า มีหลายคนที่ขานชื่อแต่ไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม อาทิ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ซึ่งแจ้งว่ามีอาการป่วย และยังมีร้อยเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส.พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมี สว.อีกนับ 16 คน  ที่ไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม

ขณะที่รายชื่อ สว. โหวตไม่เห็นชอบนายเศรษฐา

ประกอบด้วย

1.นายกษิดิศ อาชวคุณ

2.นายจเด็จ อินสว่าง

3.นายถวิล เปลี่ยนศรี

4. พลเอกนาวิน ดำริกาญจน์

5.นายนิศดารก์ เวชยานนท์

6. ร้อยเอกประยุทธ เสาวคนธ์
7. พลเรือเอกพะจุณณ์ ตามประทีป
8. นายเสรี สุวรรณ​ภา​นนท์​

9.พลเอกสนั่น มะเริงสิทธิ์​

10.พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม

11.นายสมชาย แสวงการ

12.นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล

13.พลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์

นอกจากนี้ ยังพบว่า มี สส.จาก ปชป. ที่ลงคะแนนเห็นชอบให้นายเศรษฐา​ ภายหลัง ประกอบด้วย

1 นายชัยชนะ เดชเดโช

2. นายเดชอิศม์ ขาวทอง

3.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช

4.ว่าที่ร้อยโทยุทธการ รัตนมาศ

5.นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์​

6.นางสุพัชรี ธรรมเพชร

7.นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง

8.นายยูนัยดี วาบา

9.นายชาตรี หล้าพรหม

10.นายทรงศักดิ์ มุสิกอง

11.นายกาญจน์ ตั้งปอง ​

12.นายสมบัติ ยะสินธุ์

13.นางสาวสุภาพร กำเนิดผล

14.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร

สำหรับการลงมติของสมาชิกวุฒิสภานั้น ส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบ ให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี อาทิ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะอดีตรองหัวหน้า คสช., พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะอดีตรองหัวหน้า คสช., พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะอดีตรองหัวหน้า คสช. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตรอง ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช., พลเอกพิสิทธิ์ สิทธิสาร อดีตรอง ผบ.ทบ. ในฐานะรองเลขาธิการ คสช., พลเอกสสิน ทองภักดี อดีตเสนาธิการทหารบก ในฐานะอดีตสมาชิก คสช., พลเอกสมหมาย เกาฏีระ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะอดีตสมาชิก คสช., พลเอกธวัชชัย สมุทรสาคร เพื่อนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พลเอกอกนิษฏ์ หมื่นสวัสดิ์ เพื่อนพลเอกประยุทธ์ฯ, พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องชายพลอกประยุทธ์ฯ, พลเอกนพดล อินทปัญญา เพื่อนพลเอกประวิตรฯ, พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช, พลเอกพิศณุ พุทธวงศ์ แต่ส่วนหนึ่งมีมติงดออกเสียง ซึ่งรวมไปถึงปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน ที่ลงมติงดออกเสียงในครั้งนี้ด้วย

วันนี้ 22 ส.ค.66 เวลาประมาณ 08:55 น. ก่อนที่เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะแลนดิ้งลงสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้มีการวีดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยและอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงบุคคลสำคัญที่เดินทางมารอให้การต้อนรับ ซึ่งมีการโทรมาจากเครื่องบินส่วนตัวซึ่งในขนาดนั้นกำลังบินอยู่น่านฟ้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

และเวลา 09:00 น. ตรง ซึ่งเป็นกำหนดการลงจอด เครื่องบินส่วนตัว GLF6 เครื่องบินรุ่น G650 ได้ลงจอดตามเวลา เข้ามาเทียบบริเวณอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล , จากนั้นมีรายงานว่าได้มีการขึ้นรถตู้เพื่อกลับไปยังอาคารตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อมีการตรวจเอกสารและพาสปอร์ตซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการเข้าสู่ประเทศ

เวลา 09:25 น. หลังจากที่ดำเนินการเกี่ยวกับผ่านพิธีการตม.แล้ว ได้เดินออกมาบริเวณประตูของอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลหรือเอ็มเจ็ด ไปที่บริเวณด้านหน้าพระบรมฉายาลักของในหลวงและราชินี มีการเปิดกระทงดอกไม้ พร้อมกับวางพวงมาลัยถวายสักการะ ด้านหน้าพระบรมฉายาลัก พร้อมกับทำความเคารพ ซึ่งการเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลนั้นมีบุตรชายและบุตรสาว โดยมีนางสาวอุ๊งอิ๊งค์บุตรสาวเป็นคนถือพานดอกไม้ให้กับอดีตนายกทักษิณ , จากนั้นได้มีการโบกมือทักทายสื่อมวลชนและรวมถึงบุคคลสำคัญที่มาให้การต้อนรับ ก่อนที่จะมีการโบกมือให้กับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงที่รออยู่ด้านนอก โดยจะสังเกตว่าได้ยินเสียงโหร้องดีใจกึกก้องคืนที่ และมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศ ทั้งผ่านเครื่องขยายเสียงและพากันตะโกน ว่า “ เรารักทักษิณ” ก่อนที่อดีตนายกทักษิณจะไปจับไม้จับมือกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และรวมถึงท็อป วราวุธ ที่เดินทางมาให้การต้อนรับในวันนี้ , โดยการออกมาทักทายนั้นใช้เวลาเพียง2นาที เพราะเนื่องจากต้องไปติดต่อส่วนงานอื่นและรวมถึงต้องไปพบกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จึงได้ใช้เวลาเพียงสั้นๆ มีการโบกไม้โบกมือและยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล

ด้าน น.ส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายคู่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า และแล้ววันที่พี่รอคอยก็มาถึง ตลอดเวลา 17 ปี พี่คงจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ทุกข์ และคิดถึงบ้านมากแต่พี่ก็ต้องอดทน และน้องเชื่อว่าพี่ก็คงใช้เวลาคิดตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายด้วยความคิดถึงครอบครัวและอยากใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิดของเรา น้องก็เคารพในการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของพี่ครั้งนี้ น้องขอเก็บภาพความทรงจำที่ได้ร่วมเดินทางจากดูไบมาส่งพี่ จนถึงเครื่องบินก่อนที่จะกลับเมืองไทย

น้องขอให้พี่โชคดี เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ทุกอย่างราบรื่น และอย่าลืมรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ พี่ไม่ต้องห่วงน้องนะ น้องจะเข้มแข็ง อดทน และจะดูแลตัวเองแม้อยู่ในต่างที่ ต่างบ้าน ต่างเมืองคนเดียว เพราะตลอด 6 ปีที่น้องจากบ้านเกิดมา น้องมีพี่คอยดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะนี้คือครั้งแรกที่เราไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน

อย่างไรก็ตามขอให้วันเวลาที่พี่ตั้งตารอที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัววันนั้นมาถึงโดยเร็ว โชคดีนะคะพี่ รักพี่เสมอพี่ชายที่แสนดีของน้องค่ะ

ส่วนทางด้านอุ๊งอิ๊งค์ก็ได้โพสต์ภาพครอบครัวพร้อมหน้า พร้อมกับข้อความว่า Welcome back to Thailand daddy❤

ตอนนี้คุณพ่อเดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว และได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายเรียบร้อย ขอบคุณทุกคนที่มารอรับคุณพ่อ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้นะคะ อิ๊งค์และครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆค่ะ❤

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยว่า ดีใจที่ได้เห็นอดีตนายกทักษิณเดินทางกลับไทย  ซึ่งก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้ทำให้คนที่รอคอยได้เห็นการกลับมาในรอบ 17 ปี หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งคนไทยหลายคนก็จะได้เห็นถึงผลงานที่ผ่านมา ว่าอดีตนายกทักษิณทำอะไรไว้บ้าง ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้ก็อาจจะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำในการบริหาร แต่ส่วนเรื่องของการเข้าไปพูดคุยภายในเรือนจำเพื่อเป็นการขอคำปรึกษานั้นถือว่าเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังอยากให้อดีตนายกทักษิณอยู่กับครอบครัวและดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมายก่อน

และการเจอกันที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล  แล้วมีภาพที่อดีตนายกทักษิณเดินออกมาจับมือกับตนเองรวมถึงกรรมการบริหารพรรค ก็ถือว่าเป็นความชื่นมื่น และเป็นความยินดี ซึ่งก็เป็นการให้กำลังใจต่อกันและกัน ซึ่งเป็นการสายสัมพันธ์หลังจากที่ไม่ได้กลับไทยมานาน

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเพื่อรอให้กำลังใจและพบกับอดีตนายกทักษิณบริเวณอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลหรือเอ็มเจ็ต

นายสมศักดิ์  เผยว่า การเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะรอให้กำลังใจกันเดินทางกลับในรอบ 17 ปีของอดีตนายกทักษิณ ซึ่งก็อยากให้การต้อนรับอย่างใกล้ชิด แต่ทุกอย่างเมื่อถึงไทยแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะทุกอย่างจะมีขั้นตอนเอาไว้หมดแล้ว , และถ้าหากย้อนกลับไปตนเองจำภาพที่อดีตนายกทักษิณเคยช่วยประเทศโดยการจัดการหนี้ไอเอ็มเอฟ ที่ปัจจุบันมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนั้นสามารถที่จะเคลียร์หนี้ให้กับประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว และการกลับมาครั้งนี้ก็ยังเชื่อมั่นว่าอาจจะเป็นส่วนที่เป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในการจัดการในหลายเรื่องโดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีเงื่อนไขเพราะเนื่องจากอดีตนายกทักษิณ ก็อาจจะต้องอยู่ในพื้นที่จองจำ อาจเป็นเรื่องที่ยากในการที่จะเข้าปรึกษาหรือพูดคุยกัน จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องดูกันอีกที

และเมื่อวานนี้ตนเองได้มีโอกาสไปดูสถานที่ภายในราชทัณฑ์ ก่อนที่จะมีการรับตัวอดีตนายกทักษิณ ซึ่งทุกอย่างก็มีการจัดการเหมือนบุคคลทั่วไปไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแตกต่าง  ซึ่งก็อาจจะมีความต่างอยู่เล็กน้อยโดยเฉพาะเรื่องของอายุของอดีตนายกทักษิณ ประกอบกับอาจจะมีโรคส่วนตัวก็จะต้องมีการพบแพทย์เฉพาะทางต่อไป

ด้านนายเศรษฐา ทวีสินได้โพสต์ข้อความว่า การกลับมาประเทศบ้านเกิด พร้อมหน้ากับครอบครัว เป็นสิ่งที่ไม่มีความสุขไหนจะเทียบได้ ยินดีกับครอบครัวชินวัตร และอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ที่วันนี้จะได้กลับสู่ประเทศไทยครับ