วิเคราะห์การเมือง รัฐบาลเพื่อไทยอาจมีอายุไม่นานจริงหรือ?

ด้าน รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก ปธ.คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย มีความเห็นว่า ตนมองว่ามีทั้งปัจจัยบอกปัจจัยลบ เนื่องจากมีหลายสิ่งที่ต้องอธิบาย จากสิ่งที่นำเสนอจากที่มีการหาเสียงกันก่อนเลือกตั้ง หลายเรื่องของหลายพรรคการเมืองยังขัดแย้งกันอยู่ อย่างเช่นพรรคเพื่อไทย ที่หมอชลน่านพูดในวันนี้ กรณีที่บอกว่าถ้าหากไม่มี สว. เราไม่รวมกับพรรคก้าวไกลแน่นอน คำถามของตนคือ แล้วทำทำไมตั้งแต่แรก การกระทำนี้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่หายไปไหน เพราะตอนที่รวมกันกับพรคคก้าวไกล มันมีหลายเรื่องใน MOU ประชาชนอาจจะมาตามในเรื่องเหล่านั้น รวมถึงเรื่องที่หาเสียงไว้มากมาย หลายเรื่องอาจจะผลักลำบาก เช่นเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือเรื่องประชานิยมทั้งหลาย ถ้าไม่สามารถดำเนินการตามเรื่องเหล่านั้นได้ อาจเกิดการชุมนุมได้ แล้วถ้าเกิดไม่สามารถประสานนโยบายให้ลงตัวกับหลายพรรคได้ โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่ง ก็ไม่รู้จะก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในอีกหรือไม่

 

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือสิ่งที่คุณชูวิทย์พูด ขณะนี้อาจจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากในสภาเท่าไหร่ แต่สมมติง่ายๆ ถ้าเกิดเป็นแบบสมัยคุณสมัคร สุนทรเวชมันเป้นเรื่องเบามาก แต่ก็สามารถทำให้คุณสมัครต้องออกจากตำแหน่งได้ ดังนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเศรษฐา สเถียรภาพของรัฐบาลที่จับกันอยู่ จะยังคงเป็นแบบเดิมหรือไม่

 

ตนเองไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณชูวิทย์พูด มีพยานหลักฐานมากน้อยแค่ไหน แต่หากมีพยานลักฐานหลายเรื่อง ก็มีโอกาสที่จะกระทบกับนายเศรษฐาแน่นอน และพรรคเพื่อไทยจะยังควบคุมสถานการณ์ได้หรือ อาจจะเป็นโอกาสที่ภูมิใจไทย พลังประชารัฐมองว่าถึงทีของตนเองแล้ว และหากยังไม่พ้นเดือนพฤษภาคมปีหน้าอาจจะเดเหตุอะไรขึ้นอีกก็ได้ เพราะ สว.ยังไม่หมดวาระ

 

ต่อมาประเด็นที่ สว.ยอมปล่อยผ่านเรื่องที่นายชูวทิย์ที่ออกมาแฉนายเศรษฐา ไม่เหมือนกับรอบโหวตของนายพิธาที่มีแต่อุปสรรคนั้น ดร.ศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ มีความเห็นว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้มีการพูดคุยกันอยู่ก่อนแล้วว่าพรรคการเมืองบางพรรคสามารถคุยกับ สว.บางส่วนได้ ดังนั้นทำให้การโหวตของ สว.เป็นไปได้ง่ายกว่ารอบที่โหวตนายพิธา

 

ถ้าดูโผ ครม.ที่ออกมาเป็นโผที่ตนคิดว่าเหยียบย่ำหัวใจของพลังประชารัฐ เพราะกระทรวงต่างๆที่พลังประชารัฐ”ด้ ค่อนข้างแย่ ขณะที่รวมไทยสร้างชาติได้กระทรวงที่ดี เช่นกระทรวงพลังงาน ตนมองว่ามันมีดีลที่ผิดปกติระหว่างพลังประชารัฐกับเพื่อไทยในรอบนี้อย่างแน่นอน และอาจจะมีอะไรที่พล.อ.ประวิตรและนายทักษิณอาจจะยังคุยกันไม่ลงตัวด้วยหรือเปล่า ดูจากการพฤติกรรมวันนี้คือบิ๊กป้อมไม่มา คนในเครื่อข่ายของบิ๊กป้อมจำนวนหนึ่งไม่มา ในขณะที่ฝั่งบิ๊กตู่มาหมด มันผิดปกติ และการที่บิ๊กป้อมไม่มานั้นก็สัมพันธ์กับเสียงสว.ที่งดออกเสียง เพราะวันนี้เสียงโหวตที่งดออกเสียงก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่มาก

 

กรณีที่คุณชูวิทย์อภิปรายเรื่องแสนสิริมันคงจะถูกดึงเข้าไปในกระบวนการทางกฏหมาย อาจจะได้เห็นภาคต่อไปของการไล่ทุบคุณเศรษฐาในอนาคตที่ไม่น่าจะนานนัก ส่วนถามว่าหากจะไล่ทุบคุณเศรษฐาแล้วทำไมวันนี้ยังปล่อยผ่าน ส่วนตัวตนมองว่า หากเพิ่งคว่ำนายพิธา แล้วมาคว่ำนายเศรษฐาต่อ ความเป้นจำเลยสังคมจะชัดเจนมาก จึงจำเป็นต้องปล่อยผ่านไปก่อนแล้วดำเนินการทีหลัง เพราะกรณีของคุณชูวิทย์ก็เป้นเรื่องที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และถูกเชื่อมโยงไปสู่องค์กรต่างๆแล้ว เช่นการยื่นเรื่องเข้าสว. ยื่นเรื่องไปยังบิ๊กโจ๊ก หรือนายเรืองไกรก็ยื่อนเรื่องไปยังกลต. อย่างน้อยมีวามช่องทางแล้วที่จะไปได้ การเอาเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมายได้เดินหน้าแล้ว ซึ่งสามช่องทางนี้ มันต้องมีทางใดทางหนึ่งที่ถูดขับเคลื่อนต่อแน่นอน แลสว.ที่งดออกเสียงจำนวนมากก็ยังคาใจเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่หยุดง่ายๆแน่นอน

 

ต่อมาเมื่อถามถึงประเด็นว่านายกฯคนต่อไป มีโอกาสเปลี่ยนหรือไม่? อาจารย์วีรพัฒน์ ให้ความเห็นว่าขึ้นอยู่กับการดีล และในข้อกฎหมายบางลักษณะถ้าเกิดถูกสอยขึ้นมาสามารถไปกันได้ทั้งคณะ แต่คนที่ถูกสอยจะต้องถูกยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที รองเบอร์ 1 อาจจะต้องขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทน ก็ต้องดูต่อว่าใครจะเป็นรองนายกฯคนที่ 1

 

วันนี้หลายคนต้องการให้ก้าวไกลกลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ แล้วต้องการให้ก้าวไกลและเพื่อไทยผิดใจกันไปเรื่อยๆ หากทั้งสองพรรคอ่านเกมส์นี้ไม่ออก ก็จะเสียกันทั้งคู่ มีอยู่ข้อหนึ่งที่เพื่อไทยเชื่อมาตลอด และก็ยังคงเชื่ออยู่ก็คือเชื่อว่า ไม่ว่าคุณจะเถียงอะไรก็เถียงไปเถอะ แต่ถ้าประชาชนกินดีอยู่ดี ประชาชนก็จะไหลมาเอง ซึ่งตอนที่หาเสียงแข่งกับก้าวไกล เพื่อไทยก็คิดแบบนี้ แต่ก็แพ้ ส่วนตัวตนมองว่านโยบายของเพื่อไทยจะทำให้ประชาชนลืมก้าวไกลนั้นเป็นไปได้ยาก และตนมองว่าเสียงหัวเราะของกองเชียร์เพื่อไทยนั้นอาจจะอยู่ได้ไม่นาน

 

ฟันธง! เศรษฐานั่งนายกฯ ไม่นานเจอแผนทุบหลังทักษิณถูกจับ ประยุทธ์ขวางป้อมขึ้นที่ 1