พ่อแม่เด็กวัย 8 เดือน ร้องผ่านเพจสายไหมต้องรอด หลังยกลูกให้กับครูโรงเรียนเอกชนไปเลี้ยงดู เพียง 2 วันเสียชีวิต มีรอยช้ำตามร่างกาย
วันที่ 23 ส.ค. 2566 นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พร้อมสามี เดินทางมาที่ศูนย์ประสานงานเขตสายไหมต้องรอด เพื่อร้องขอเป็นธรรม โดยนางสาวเอ เล่าว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 2 ขวบ และคนเล็กอายุ 8 เดือน ซึ่งช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนมีปัญหาด้านการเงินเพราะตกงาน ทำให้สามีต้องทำงานเพียงคนเดียว เงินไม่พอใช้ จึงไปกู้ยืมเงินนอกระบบในช่วงก่อนคลอดมา 20,000 บาท เมื่อคลอดเสร็จ ก็ไปกู้ยืมมาเพิ่มอีก 10,000 บาท ด้วยความที่หมดหนทาง ไม่อยากให้ลูกต้องอดนม และอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี จึงไปโพสต์กลุ่มเฟซบุ๊กหาคนอุปการะเด็ก
จากนั้นก็มีคนติดต่อมาหลายคน แต่เงื่อนไขของทุกคนนั้นไม่น่าสนใจ เพราะทุกคนให้ตนและสามีตัดขาดความเป็นพ่อแม่จากลูกไปเลย กระทั่งมีหญิงสาวคนหนึ่งติดต่อมา อ้างว่าเป็นครูโรงเรียนเอกชน พร้อมกับเสนอเงื่อนไขว่า ตนและสามีสามารถมาเยี่ยมเยียนลูกได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ พอเห็นดังนั้นตนจึงสนใจ และได้มีการนัดเจอกัน ซึ่งครูก็ได้ถามเหตุผลว่า ทำไมถึงอยากหาคนอุปการะเลี้ยงลูก ตนจึงบอกไปว่าตนมีปัญหาด้านการเงินและมีหนี้สิน 30,000 บาท ครูจึงเสนอที่จะปลดหนี้ให้ โดยมีการทำสัญญาระบุชัดเจนว่าจะแบ่งจ่าย 3 งวด
หลังจากที่รับลูกของตนไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ครูก็ไม่เคยทักติดต่อมาหรือแม้กระทั่งส่งรูปมาให้ดูเลยสักครั้ง มีแต่ตนที่พยายามถามว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม ครูทักมาถามว่า ทำไมน้องร้องเก่งจัง ตนจึงบอกว่าลูบหัว พูดดี ๆ ก็หยุดร้องแล้ว กระทั่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ครูติดต่อกลับมาว่า น้องเสียชีวิตแล้วให้รีบมาดูด่วน เมื่อไปถึงพบว่า ตามร่างกายของน้องมีรอยฟกช้ำอยู่ทั่วร่างกาย
หลังจากนั้น พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้แจ้งข้อหา กระทำโดยประมาทปล่อยปละละเลยเด็กจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งพ่อและแม่เด็กเชื่อว่า ครูเป็นคนทำร้ายเด็กจนถึงขั้นเสียชีวิต จึงมาร้องขอความเป็นธรรม และให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตนขายลูกนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะครูเป็นคนเสนอเงิน 30,000 บาท เป็นการปลดหนี้แทนให้
จากนั้นทีมข่าว ได้ไปยังแฟลตแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ซึ่งเป็นที่พักของครู โดยผู้เป็นแม่ได้ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณทารกอายุ 8 เดือน ให้กลับไปอยู่บ้าน
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังมีโอกาสได้พูดคุยกับนางสาวกุล ซึ่งเป็นแม่ค้าที่ขายของอยู่ด้านล่างแฟลต เล่าว่า ครูคนดังกล่าวมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งครูจะพาลูกมาซื้อขนม น้ำทุกวัน และมองว่าครูไม่เคยมีพฤติกรรมที่รุนแรงกับเด็กมาก่อน ออกจะค่อนข้างใจดีด้วยซ้ำ เพียงแต่เป็นคนที่ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยพูด หรือสุงสิงกับใคร