“เศรษฐา” รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมให้คำมั่น จะทุ่มเททำงานอย่างซื่อสัตย์ สุจริต ผลักดันประเทศไปข้างหน้า สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตลอด 4 ปีนับจากนี้ โดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มายังที่การพรรคเพื่อไทย ก่อนอ่านพระบรมราชโองการ ความว่าพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ทั้งหมดมีอยู่ทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวต่อโดยระบุว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงนับเป็นศุภสิริมงคลแห่งชีวิต และเป็นขวัญกำลังใจอันสูงสุดแก่กับตนและครอบครัวอย่างหาที่สุดไม่ได้ ซึ่งตนมีความปลื้มปิติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณเป็นล้นพ้น จึงขอเทิดทูลไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ฉะนั้นตนจะมุ่งมั่นปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมมาราชโองการตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ขณะเดียวกัน ก็ต้องขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร หน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน สำหรับความเชื่อมั่นที่ให้ตนมีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดินในครั้งนี้ ดังนั้นขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรม และมีความซื่อสัตย์ สุจริต โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ และทำให้ 4 ปี เกิดความเปลี่ยนแปลง สามารถหาทางออกได้อย่างเร่งด่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ รายได้ ความเป็นอยู่ ความมั่นคงทางสังคม การต่างประเทศ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ทำให้ความความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมหมดไป ตลอดจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาค และขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง สร้างวินัยในเชิงบวกให้ภาคประชาชน และข้าราชการเติบโตไปพร้อมๆกัน และสร้างสังคมที่เคารพกติกาในกรอบระเบียบของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
โอกาสนี้จึงขอเชิญประชาชนร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลผลักดันประเทศไปข้างหน้า และขอให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานอย่างหนัก บำบัดความทุกข์ เพิ่มความสุข ให้ทั่วถึงอย่างเท่าเทียม ทำให้ประเทศ เป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติ โดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้าและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังมีการโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยังสามารถเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายได้ โดยต้องทำเท่าที่จำเป็น เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)นายกฯใหม่ยังทำงานไม่ได้ และครม. ยังไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นคงจะบวกไปอีก 7 ถึง 10 วัน เพื่อจัดตั้งครม. ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของครม.ใหม่ เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร
เมื่อถามว่าตอนนี้นายกฯใหม่ต้องรออย่างเดียวใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เท่าที่ตนฟังจากวิทยุและโทรทัศน์เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ทราบว่า สำนักเลขาธิการนายกฯ (สลน.) ไปเตรียมพิธีการซึ่งความจริงไม่ใช่หน้าที่ของเขา แต่เป็นหน้าที่ของทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่เขาไม่ชินกับเรื่องระเบียบ ประเพณี ทางสลน.ก็เลยไปตั้งโต๊ะหมู่ แต่ตั้งแล้วจะฟาวล์หรือไม่ตนไม่รู้
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา บอกว่า วันนี้มาแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากมีการลงคะแนนไปเมื่อวานนี้ คาดหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่ จะเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหา ในหลายมิติของประเทศ และมองว่า หากได้รัฐบาลเร็วเท่าไร การแก้ไขปัญหาต่างๆ ก็เร็วยิ่งขึ้น ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี ได้ 1 ตำแหน่ง ตามที่พูดคุยกัน และยังคงให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ในการจัดการว่าจะได้ดูแลกระทรวงใด
เมื่อถามว่า พอใจกับการทำงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ และอยากจะสานงานต่อหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อยู่ที่ไหน พรรคชาติไทยพัฒนา ทำงานอย่างเต็มที่ และวันนี้แค่วันเดียว ก็มีชื่อตนไปโผล่อยู่หลายกระทรวงเหลือเกิน แต่ก็ต้องให้เกียรติพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งว่าควรจะดำเนินการกันอย่างไร ย้ำว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหาในเรื่องโควต้ารัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนหากได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ จะถนัดหรือไม่ นายวราวุธ บอกว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เกิดขึ้น ต้องรอดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไร พร้อมย้ำว่า จะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ทั้งสรรพกำลัง และสรรพสมอง จะทำงานอย่างเต็มที่
ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว "นายเศรษฐา" ได้มีการถ่ายรูปร่วมกับทางพรรคร่วมรัฐบาลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมีจังหวะหนึ่งที่ทางนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้หันไปไหว้นายเศรษฐา
และหลังจบพิธี ทั้งคู่ได้มีการพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น จับอาการได้ว่า มีความสุข มีการหัวเราะต่อกระซิก และบางช่วงบางตอนได้สวมกอดกันด้วย โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย ยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นการย้ำความสัมพันธ์ ที่กลับมาคืนดีกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง มีการปะทะคารมไม่ลงรอยกันมาก่อน