กันจอมพลัง ได้พาสาววัย 18 ร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจ หลังถูกทำร้ายปางตายคดีไม่คืบ ซ้ำมีญาติผู้ใหญ่โทรมาเคลียร์ผู้เสียหายขอให้ยอมความ ด้านพ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

กรณีวันที่ 24 เวลา 14.00 น. นางสาวพลอย อายุ 18 ปี หญิงชาวสุพรรณบุรี ได้ขอให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือหลังถูกแฟนเก่าบุกมาถึงห้อง บังคับให้คืนดีแต่ไม่ยอมจึง เอามีดกรีดแขน ปาดคอ ผู้หญิงเสียเลือดมากสลบไป แต่ผู้ชายยังไม่จบตบหน้าปลุกผู้หญิงให้ฟื้นแล้วเอามีดปักหัวใจผู้หญิงต่อ ผู้หญิงรู้สึกใกล้จะตายจึงบอกผู้ชายว่าไม่ไหวแล้ว แต่ผู้ชายบอกว่ามึงรอก่อนแล้วเอามีดกรีดตามร่างกายตัวเองนั้น

 

ล่าสุดช่วงเวลา 14.00 น.ของวันนี้ ทาง "นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง " พา "น้องพลอย" อายุ 18 ปี ในฐานะผู้เสียหาย ที่ถูก "นายแจ็ค " อดีตแฟน วัย 32 ปี ทำร้ายร่างกายและตามข่มขู่หลังเกิดเหตุ  หลังจากถูกทำร้าย ผู้เสียหายได้แจ้งความกับตำรวจแต่คดีไม่คืบหน้า  ทั้งนี้เบื้องต้นทาง "น้องพลอย" ในฐานะผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบกับทาง " พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ " รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น พร้อมกับทาง "กัน จอมพลัง"  โดยช่วงเเรกนั้นทาง "กัน จอมพลัง" ได้มีการอธิบายและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทาง "น้องพลอย" และความรู้สึกที่ทางเจ้าตัวเจอ

 

หลังจากนั้นทาง " พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ " ยืนยันว่าพร้อมจะรับเรื่องและเร่งการสอบสวนพร้อมให้ความเป็นธรรม ที่ผ่านมาในขั้นตอนตำรวจพนักงานสอบสวนเป็นพนักงานสอบสวนใหม่ ที่ยังไม่ได้มีประสบการณ์ในเรื่องของการสอบสวน ประจวบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็รอในส่วนเอกสารหลักฐานผลตรวจทางการแพทย์ ซึ่งเพิ่งจะได้รับมาในช่วงต้นเดือนสิงหาคม  ตลอดจน ในส่วนของผู้เสียหายเองหลังจากเกิดเหตุก็ต้องเข้าพักรักษาตัวและเพิ่งจะสามารถให้ข้อมูลในการสอบปากคำเบื้องต้น  ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งเก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีรวบรวมไว้ตั้งแต่ช่วงที่เกิดเหตุ  โทรหาเนี่ยทั้งนี้จากการตรวจสอบดูสำนวนหลังจากที่เกิดเรื่องยอมรับว่าในส่วนของข้อหายังไม่ครบถ้วน ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะมีการสอบปากคำทั้ง 2 ฝั่ง  ยกชุดเลยทั้งนี้ส่วนตัวได้มีการสั่งการให้ทางผู้กำกับเปลี่ยนในส่วนของพนักงานสอบสวนทั้งชุดโดยให้เป็นระดับที่มีความชำนาญในการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนที่ทางฝั่งผู้เสียหายมีความกังวลในเรื่องของฝั่งคู่กรณีจะแจ้งความกลับหรือไม่ เพราะว่าอีกฝั่งเองก็มีร่องรอยของบาดแผล  ในเรื่องนี้เป็นไปตามพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์และผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  

 

ขณะที่ความกังวลของผู้เสียในเรื่องของความปลอดภัย  ในส่วนนี้ตนพร้อมประสานกับทางกระทรวงยุติธรรมจังหวัด สามารถร้องขอการคุ้มครองพยานได้ นอกจากนี้ทางผู้กำกับสภ.เมืองสุพรรณบุรี ก็ได้มีการจัดกำลังสายตรวจทั้งนอกและในเครื่องเเบบคอยตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณที่พักของผู้เสียหาย

 

ส่วนกรณีที่ทางผู้เสียหายอ้างว่าหลังเกิดเรื่องมีทางผู้ใหญ่บ้านติดต่อประสานให้มีการยอมความ ในส่วนนี้ทางรองผู้การยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่สามารถยอมความได้เนื่องจากเป็นคดีอาญา หากมีการข่มขู่ทางผผุ้เสียหายเองสามารถนำข้อมูลมาแจ้งความได้

ทีมข่าวได้คลิปวงจรปิด จับภาพที่อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี เห็นนายแจ๊ค อดีตแฟนหนุ่มรูปร่างอวบตัวสูงใหญ่ เดินขึ้นอพาร์ตเมนจำนวน 4 มุม ซึ่งนายแจ๊ค แฟนได้ยืนคุยโทรศัพท์และเดินวนไปวนมา นานถึง 10 นาที

 

ก่อนที่จะอาศัยจังหวะไม่มีคนเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องของผู้บาดเจ็บก่อนจะบุกเข้าไปให้ห้องนอนเพื่อขอคืนดี ส่วนตอนที่มีทำการทำไมร่างกายนั้นภาพไม่สามารถจับได้เนื่องจากอยู่ในห้อง

 

ด้าน “น้องพลอย” อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองรู้จักกับอดีตแฟนมาได้ประมาณ 6 เดือน เขาเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานธนาคารแห่งหนึ่งชื่อว่า นายแจ๊ค อายุ 32 ปี ซึ่งตนเองเป็นน้องที่มาฝึกงาน

หลังจากฝึกงานจบ นายแจ๊ค ได้ทักมาจีบตนเอง ซึ่งตนเองก็คุยด้วย หลังจากที่คบหากันมานานถึง 6 เดือน ตนเองและนายแจ๊คความสัมพันธ์ไปด้วยกันไม่ได้

นายแจ๊คชอบหึงหวง เวลาหึงหวงจะทะเลาะกัน ปรับความเข้าใจมาหลายรอบแล้วแต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม

จึงตัดสินใจเลิกรากันไปในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นการเลิกรากันด้วยดี แต่นายแจ๊คยังมีอาการฟูมฟาย เวลานึกถึงก็จะทักข้อความาหาตนตลอด

ว่าอยากขอคืนดีด้วย บางครั้งถึงขั้นบอกว่าหากไม่ได้กลับมาคบกัน นายแจ๊คจะฆ่าตัวตาย ซึ่งทักมาหาตนบ่อยมากๆ

 

กระทั่ง วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ช่วงเช้า นายแจ๊คทักข้อความมาลาตาย และโอนเงินมาให้ตนเองจำนวน 28,000 บาท บอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายตอนอยู่ด้วยกัน แต่ตนเองไม่อยากรับเงินดังกล่าว เนื่องจากเลิกรากันไปแล้ว และตนเองก็ต้องเรียนหนังสือ จึงตัดสินใจโทรไปหาพ่อแม่ของนายแจ๊คบอกว่าได้เลิกรากันแล้ว จะขอโอนเงินคืนให้กับพ่อแม่ของนายแจ๊ค

 

ซึ่งในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. หลังจากที่ตนเองกลับมาจากมหาวิทยาลัย ตนเองเดินทางกลับมาที่อพาร์ตเม้นท์ ขณะที่กำลังเปิดประตูเข้าห้อง จู่ๆนายแจ๊ค พุ่งมาจากทางหนีไฟ และผลักตนเองเข้าไปในห้องนอน ซึ่งตนเองตกใจเป็นอย่างมาก ตนเองพยายามร้องกรีดและเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน

 

ขณะเดียวกันนายแจ็คได้หยิบมีดพกที่เตรียมมาด้วย มาข่มขู่ตนเอง บอกให้ตนเองหยุดร้อง แต่ตนเองก็ยังร้องขอชีวิตอยู่ แต่ไม่มีใครได้ยิน จึงถูกนายแจ๊คทำร้ายร่างกาย โดยการเอามีดกรีดที่ลำคอ ทำให้เลือดไหลจนสลบไป จากนั้นตนเองรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากนายแจ๊คตบหน้าของตนเอง พอตนเองสะลึมสะลือ ตนเองเห็นนายแจ็คขึ้นค่อมตนเองอยู่ และเอามีดปักมาที่บริเวณหัวใจ ก่อนที่ตนเองจะหมดสติ ตนเองเห็นว่านายแจ็คนั่งอยู่ข้างๆ และใช้มีดเล่มดังกล่าว ทำร้ายร่างกายตัวเองโดยการกรีดแขน ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ต่อสู้ หรือทำร้ายร่างกายนายแจ๊คกลับอย่างแน่นอน

 

เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณลำคอ ถูกมีดกรีดความยาว 5 นิ้ว เย็บ 20 กว่าเข็ม บริเวณหัวใจเป็นรอยแทง จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดทรวงอก (บาดแผลบริเวณกลางหน้าอกจนถึงท้อง เป็นขั้นตอนการผ่าตัดรักษาหัวใจ) แขนข้างซ้ายถูกเฉือน

 

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายแจ๊คให้ญาติผู้ใหญ่พยายามเข้ามาติดต่อตนเองเพื่อเจรจาขอให้ตนเองยอมความ ซึ่งตนเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

ทุกวันนี้ตนเองอยู่ด้วยความหวาดระแวง เวลานอนหลับยังฝันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังผวา และสุขภาพจิตไม่ปกติ อยากให้นายแจ็คได้รับบทลงโทษ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด หากตนเองเสียชีวิตไป คงไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามกับ "นางสาวจอย" ซึ่ง เป็นพี่สาวของทาง "นายแจ็ค" ผู้ก่อเหตุ  โดยทางเจ้าตัวเล่าว่า วันที่เกิดเหตุยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันแต่ประเด็นหรือปมปัญหานั้นตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น

 

หากตนได้รับข้อมูลจากทางน้องชายแล้วนำมาพูด หวั่นจะไม่เป็นธรรมกับทางผู้เสียหายหรือฝ่ายหญิง ทั้งนี้ในส่วนของน้องชายตนเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเหมือนกัน  ซึ่งตนจะตอบแทนตัวน้องเขาไม่ได้ แต่ยิมรับส่ามีการประสานกับทางน้องชายให้เข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด ไม่ได้หลบหนีหรือข่มขู่อีกฝ่าย แต่มี่มีการระบุว่ามีการให้ยอมความนั้น ในส่วนนี้อาจจะเป็นการพูดคุยในเชิงผู้ใหญ่ที่อาจจะคุยกัน คล้ายว่าคุยกันได้ แต่ไม่ใช่การข่มขู่หรือบังคับให้ยอมความแต่อย่างใด

 

ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่าน้องชายของตนถูกหรือผิด เพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คนที่ตอบได้ที่ดีที่สุดคือทั้งคู่ ตนพูดไปก็จะโดนกล่าวหาว่าจะเป็นการกล่าวหาอีกฝั่ง เหตุวันนั้นรู้เเค่เบื้องต้นว่าทะเลาะกันไม่รู้ว่าทะเลาะอย่างไร ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้เชื่อว่าน้องชายคงจะเล่าให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังแล้ว   ยอมรับว่าสภาพจิตใจของน้องชายตนก็รู้สึกหวาดกลัว ตนเองในฐานะพี่สาวก็ต้องเซฟความรู้สึกของน้องตนเช่นกัน     เพราะเขาเองก็มีร่องรอยบาดแผลเช่นกัน ไม่ต่างจากผู้หญิง