จากกรณีมูลนิธิวินวินลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกเสี่ยนักบุญกำมะลอ อ้างอยากช่วยนักเรียนยากจน ติดต่อ ผอ.โรงเรียน จ้างเด็กไปทำงานเป็นแม่บ้านในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ โดยจะให้ค่าแรง ครั้งละ 350 บาท ต่อมา ผอ.รร.เอาเรื่องเข้าที่ประชุม ให้ครูประจำชั้นคัดเลือกคุณสมบัติ ก่อนส่งเด็กให้เสี่ยมารับอ้างจะพาไปทำงาน โดยระหว่างทางเสี่ยได้แวะซื้อขนมเลี้ยงเด็ก แอบซื้อยาคุมกำเนิด สุดท้ายหลอกพาเด็กเลี้ยวเข้าม่านรูดล่วงละเมิด โดยขู่เด็กห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด บริเวณทางเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเป็นภาพกล้องวงจรปิด เวลา 09.18 น. วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เสี่ยชาญได้ขับรถเก๋ง โตโยต้า สีบลอนทอง เข้ามาในโรงแรมม่านรูด โดยภายในรถ มีน้องออยเด็กหญิงวัย 13 ปี เข้าไปในโรงแรมด้วย
ล่าสุดเมื่อ 16.30 น. วันนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สำรอง ได้รวบตัวนายชาญพิชญ์ หรือ เสี่ยชาญ อายุ 67 ปี เจ้าของบริษัทอสังหาฯ ตามหมายจับ ในคดีพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา ได้แล้ว โดยเจ้าตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สำรอง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และเตรียมถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากตำรวจสอบปากคำเบื้องต้นแล้วเสร็จ ตำรวจได้ควบคุมตัวเสี่ยชาญเข้าห้องควบคุมขังของโรงพัก ระหว่างนั้น ได้พบกับ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ คุณอ้อ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ วินวิน ซึ่งได้เดินทางมาติดตามคดีนี้เนื่องจากญาติของเด็กที่ถูกกระทำเข้าร้องเรียนว่าคดีไม่คืบหน้า โดยทันทีที่พบเสี่ยชาญ คุณอ้อ ได้สอบถามเสี่ยชาญว่า ก่อเหตุมากี่ครั้งแล้ว เจ้าตัวอ้าง ได้ทำเป็นครั้งแรก และยกมือไหว้ขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองทำไป โดยเจ้าตัวยอมรับว่า มีการกอดจูบน้องออยจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบก้มหน้าเดินเข้าห้องขังทันที
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ภาพชัดการสนทนาระหว่างเสี่ยชาญ กับผอ. โรงเรียน โดยแชทที่ 1 เป็นแชทของวันที่ 12 สิงหาคม หลังจากที่ ผอ.รร. ส่งป้านวลและน้องแป้งไปทำความสะอาดที่บ้าน โดยเสี่ยชาญ อ้าง “แม่บ้าน ไม่ ok ส่วนนักเรียนใช้ได้ ส่วนใหญ่แม่บ้านใช้นักเรียนมากกว่า ขอกลับ 3 โมงกว่าครับ”
ผอ.จึงถามต่อว่า “แล้วพรุ่งนี้เสี่ยจะให้ไปไหม มีนักเรียนอีกคน ม.2 ถูกพ่อแม่ทิ้ง แล้วถามว่า แม่บ้านจะยกเลิกไหม ? ถ้ายกเลิกแม่บ้าน นักเรียนอีกคนจะไม่มีรถไป”
จากนั้นเสี่ยชาญบอก “ได้ครับ ขอเอาเด็กคนเดียวได้ไหม แม่บ้านดูแล้วไม่ค่อยจะแข็งแรง”
และสุดท้าย เสี่ยชาญ บอกผอ. ว่า จะเป็นคนไปรับเด็กเอง ให้ ผอ.ช่วยบอกแม่บ้านด้วย ไม่ต้องมาส่ง จากนั้น ผอ.จึงได้บอกพิกัดให้เสี่ยชาญมารับเด็กหน้าโรงเรียน เวลา 08.30 ของวันที่ 13 ส.ค.
รายังได้พูดคุยกับป้านวล (นามสมมุติ) แม่บ้านโรงเรียนที่เดินทางไปทำความสะอาดที่บ้านเสี่ยชาญกับน้องแป้ง โดยตนเองทันทีที่รู้ข่าวว่า เสี่ยชาญแอบพาเด็กเข้าม่านรูด ตนเองเสียใจมาก และมารู้คำตอบที่แท้จริง ถึงเหตุผลที่ เสี่ยชาญ โทรมาบอก ผอ.รร.ว่า ตนเองทำงานแพ้เด็ก ขี้เกียจ และให้ ผอ. ไปบอกตนเองว่า ไม่ต้องมาทำงานอีกวันแล้ว ตอนแรกก็เสียใจมาก ที่ทำงานแพ้เด็ก แต่จริงๆพอมาทราบว่า เพราะเสี่ยชาญ อยากจะพาเด็กไปล่อลวง ไม่ได้จะเอาเด็กไปทำงานจริงๆ ซึ่ง ไม่คิดเลยว่า เสี่ยชาญจะทำแบบนี้
ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเสี่ยชาญ ประมาณ 5 กิโลเมตร จากการสังเกตของทีมข่าวพบว่าโรงแรมดังกล่าวเป็นโรงแรมม่านรูด มีผู้เข้ามาใช้บริการอยู่ตลอด ราคาคืนละประมาณ 300 บาท จากการสอบถามเจ้าของโรงแรมและนำรูปเสี่ยชาญให้ดู เจ้าของโรงแรมอ้างว่า ตนเองไม่คุ้นหน้า และจำหน้าไม่ได้ เนื่องจากลูกค้าเดินทางมาอยู่ตลอด บางคนใส่แมสก็จำไม่ได้ และลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อเข้ามาถึงก็ขับรถเข้าไปภายในห้องพักทันที ทำให้ไม่รู้ว่ามีเด็กอายุ 13 นั่งมาในรถ หรือ แขกพาใครมาบ้าง เพราะทุกอย่างจะเป็นความลับหมด
ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกได้ 7 วัน ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจได้เข้ามาดำเนินการขอดูแล้วแต่ไม่ทราบว่าได้นำกลับไปเป็นหลักฐานหรือไม่