เปิดใจ "พ่อ กอดลูกในคลิป" ยืนยันไม่เคยคิดเกินเลย เพราะมันคือพ่อกับลูกและสายสัมพันธ์ที่ดี เผยกอดกันทุกวันจูบกันทุกวัน เพราะมันคือพ่อกับลูก ไม่มีวันคิดแบบสัตว์เดรัจฉานแน่นอน
กรณี ทวิตเตอร์ RedSkullxxx ได้โพสต์คลิปดังกล่าว พร้อมสอบถามความคิดเห็นจากชาวเน็ตว่าคลิปนี้เหมาะสมหรือไม่ โดยระบุว่า มีความคิดเห็นเช่นไรจงอภิปราย คอมเมนต์ส่วนใหญ่ "รู้ว่าพ่อรักลูกมาก แต่ลูกเริ่มโตเป็นสาวแล้ว กอดจูบเป็นปกติค่ะ แต่ไม่ควรถ่ายลงโซเชียล เพราะคนดูเขาไม่ได้รักและผูกพัน เลยมองไปในอีกแง่นึงนะคะ" นั้น
วันนี้ (24 ส.ค.) ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปเจอ กับ นายอ้น (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นชายที่อบกอดลูกสาวที่ปรากฏอยู่ในคลิป โดยทราบว่าลูกสาวเป็นเด็กหญิงนักเรียนชั้นป6. อายุ12ปี
นายอ้น เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยลูกสาวและลูกชายเลิกเรียนแล้วแวะมาหาตนเองที่ทำงาน ซึ่งแม่ได้พามาเจอก่อนที่จะพาเข้าบ้าน โดยตามคลิปตนเองได้มีการพยามกอดลูกสาว แต่เข้าใจว่าช่วงเวลาดังกล่าวเดินมาที่ร้านด้วยอาการที่ร้อน ตนเองเข้าไปโอบกอดตามที่เคยทำกับลูกเป็นประจำ และยังพยามหอมแก้มลูก แต่ด้วยอากาศที่ร้อนและเข้าใจว่าลูกสาวอาจจะเหนียวตัว จึงได้เมินหน้าหนีทำทีเหมือนไม่พอใจ แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของครอบครัว และที่สำคัญแม่ของเด็กก็คือภรรยาของตนเองเป็นคนถ่าย แล้วเป็นคนเอาไปลงโซเชียล ซึ่งก็มีการระบุแคปชั่นทำนองว่า “ แม่ก็ได้แค่คลอด แต่ผมเป็นคนเลี้ยงลูก” ซึ่งก็ไม่คิดว่ากระแสสังคมจะตีกลับ แล้วมากล่าวหาว่าตนเองคิดอะไรมากไปกว่านั้น หรือทำกับเด็กซึ่งเป็นลูกผู้หญิงที่โตแล้ว
ส่วนตัวอยากจะชี้แจงกับสังคมว่า การที่พ่อแม่รักลูกแล้วทำกับลูกแบบนี้ทุกวัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลก แล้วตนเองก็อบกอดลูกทั้งผู้หญิงและผู้ชาย กอดและหอมแก้มเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่รู้ว่าวันหนึ่งหากโตไปแล้วหรือมีชีวิตครอบครัวแล้ว จะยอมให้ตัวเองได้เจอหน้าหรืออบกอดอีกหรือไม่ ดังนั้นมันคือความสุขของคนเป็นพ่อและเป็นแม่ ที่จะอบกอดและเก็บช่วงเวลาที่เขายังเด็กเอาไว้ให้มากที่สุด พร้อมทั้งยืนยันกับทีมข่าวว่า “ไม่มีวันที่ตนเองจะคิดเกินไปมากกว่าพ่อกับลูก เพราะเขาคือแก้วตาดวงใจของตนเอง แล้วตัวเองก็ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานที่จะคิดแบบนั้นกับลูก”
นายอ้น ฝากขอบคุณโซเชียลและกระแสสังคม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของคนอีกบางกลุ่ม แต่ตนเองก็ยังคงยืนยันและย้ำว่า การแสดงออกความรักของครอบครัวของตนเอง ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลก เพราะมันคือความรักที่พ่อและแม่มีให้กับลูก ซึ่งก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับว่าจะต้องลดน้อยลง แต่อาจจะดูถึงความเหมาะสมให้มากขึ้นกว่านี้ เพราะบางครั้งสิ่งที่พยามสื่อออกไปอาจไม่ตรงตามใจของคนส่วนมากก็ได้