กรณี เมื่อวันที่ 23 ส.ค. หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์เตือนภัยลงในติ๊กต็อก หลังซื้อครีมจากออนไลน์มาใช้ แต่ผลลัพธ์กลับทำหน้าพัง ทางที่ดีควรจะเทสก่อนใช้งานจริง โดยเธอระบุว่า “ปกติหน้าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่รู้สึกว่าอยากหน้าขาวเลยไปลองครีมตัวหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยซื้อออนไลน์มาก่อน จึงเปิดใจลอง วันแรกที่ลองใช้ทาก่อนนอนยังไม่ทันเช้าก็มีอาการคันและแสบหน้ามาก จึงรีบล้างออกแล้วไปหาหมอ พอตกเย็นหน้าก็เริ่มบวมแดงและแสบทรมานมาก ถึงช่วงค่ำอาการก็เริ่มหนักขึ้น เข้าสู่วันที่ 2 หน้าอักเสบหนักมา ตาบวม หน้าบวมและมีผื่นแดงขึ้นเต็มใบหน้า อายจนไม่กล้าไปไหน กลายเป็นจิตตกไปเลย จนต้องลางาน เพราะงานที่เธอทำ” นั้น
ทีมข่าวช่อง8 พูดคุยกับนางสาวฟาร่า มิเชล เทเลอร์ สาวลูกครึ่งอเมริกัน อายุ22ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองติดตามเน็ตไอดอลคนหนึ่ง ซึ่งมีการโพสต์ขายครีมซึ่งเป็นมาร์คบำรุง โดยตนเองติดตามมานาน แต่เพิ่งมาตัดตัดสินใจซื้อภายหลัง ก่อนที่จะซื้อได้มีการสอบถามกับทางเพจ เกี่ยวกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากตนเองเป็นคนสภาพผิวแพ้ง่าย โดยทางแบรนด์ยืนยันว่า “สามารถใช้ได้สำหรับคนผิวแพ้ง่ายและทุกสภาพผิว” ตนเองจึงตัดสินใจที่จะซื้อมาเพื่อที่จะมาร์คหน้าก่อนนอน
โดยได้รับสินค้าเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เวลา 09.00น. โดยมีการทาทิ้งเอาไว้ แต่ปรากฏว่า เวลา ประมาณ 11.00 น. เริ่มมีอาการบวมที่ใบหน้า และเวลา 22.00 น. บวมถึงดวงตา เกือบปิด และวันที่ 18 ส.ค. เวลาตื่นเช้าขึ้นมาปรากฏว่าหน้าแดง มีผดขึ้นเต็มหน้า และมีอาการบวมรุนแรง ตนเองจึงต้องไปรับการรักษา เขาเนื่องจากสภาพใบหน้าค่อนข้างเสียหายเยอะ โดยไปพบแพทย์ปรากฏว่าได้รับคำยืนยันซึ่งออกเป็นใบรับรองแพทย์ชัดเจนว่า แพ้จากการใช้ครีม ตนเองจึงพยายามติดต่อกับเจ้าของแบรนด์ ซึ่งตอนแรกเจ้าของก็ยังปฏิเสธ โดยอ้างว่าให้ไปเอาใบรับรองแพทย์มายืนยัน และถามหาแต่ใบรับรองแพทย์
โดยตนเองก็ได้มีการส่งใบรับรองแพทย์ไปให้ หลังจากที่เห็นใบรับรองแพทย์จนถึงทุกวันนี้ก็เงียบหายไป ไม่ได้รับการติดต่อหรือจะมีการเยียวยาและช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ในช่วงแรกตอนที่เริ่มแพ้ ตนเองพยายามถามกับทางเพจเจ้าของแบรนด์ ซึ่งมีการสอบถามเกี่ยวกับอาการเบื้องต้น ซึ่งตนเองก็เล่าว่ามีการซื้อมาแล้วใช้ตามปกติพร้อมกับเล่าไทม์ไลน์การแพ้ โดยตอนแรกเจ้าของแบรนด์อ้างว่า “ ตนเองไม่พักหน้า ซึ่งก่อนที่จะใช้ครีมตัวนี้ต้องมีการพักหน้าอย่างน้อย3วัน หมายถึงว่าไม่ใช้ครีมตัวอื่น ก่อนที่จะมาใช้ตัวนี้” ซึ่งตนเองก็ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง พร้อมกับมีการพักหน้า แต่สุดท้ายก็ยังมีอาการตามที่มีการส่งภาพให้ดู
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองอยากจะแชร์เป็นประสบการณ์ และเตือนเป็นอุทาหรณ์ เกี่ยวกับการหลงเชื่อซื้อครีมออนไลน์ เพราะหลายคนอาจจะมีผิวหน้าที่ดีอยู่แล้ว ก็อยากให้ซื้อหรือเลือกครีมที่มีฉลากผลิตภัณฑ์ หรือได้รับการรับรองจากหน่วยงาน หากหลงเชื่อกับการซื้อออนไลน์เหมือนเช่นกับตนเอง ก็อาจไม่โชคดี และอาจจะต้องมีใบหน้าที่เสียหายไป แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก่อนที่จะมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่องแปด ผิวหน้าเริ่มดีขึ้นกว่าเดิม เพราะเลิกใช้ประกอบกับมีการใช้น้ำเกลือ และทานยาควบคู่ จึงทำให้ทุกอย่างดีขึ้นกลับมาเหมือนปกติ แต่ช่วงที่พักรักษาตัวก็ต้องลางาน ประกอบกับมีค่ารักษาพยาบาล แต่ทางเจ้าของแบรนด์ก็ยังไม่ได้มีการติดต่อแต่อย่างใด