จากกรณีที่ทีมข่าวได้รับคลิปภาพลับในลักษณะของเซ็กซ์โฟน และข้อความการสนทนาแชตไลน์ต่างๆ ลักษณะพูดคุยหยอกล้อเชิงชู้สาว ที่พูดคุยกับพระชั้นผู้ใหญ่ ที่เป็นหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
ต่อมาทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ทราบชื่อคือพระวิ ซึ่งนางสาวอั้ม(นามสมมุติ) อายุ 24 ปี มาเปิดเผยให้กับทีมข่าวเพื่อมาขอรับความเป็นธรรม
ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่มายังสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยในสถานปฏิบัติธรรม ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ขณะนั้นมีพระอยู่เพียง 2 รูปเท่านั้น
ซึ่งทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับหลวงพ่อท่านนึง เป็นพระลูกวัดที่มาจำพรรษาอยู่นสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ โดยหลวงพ่อ เล่าว่า พระวิบวชมา 35 พรรษาแล้ว ปกติท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด เป็นพระที่เป็นตัวอย่างให้กับลูกวัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ส่วนตัวท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ ทุกอย่างในวัดต้องเรียบร้อยและทุกคนต้องตรงต่อเวลา ส่วนพอตนทราบข่าวก็รู้สึกเฉยๆ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างเพราะไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ เพราะจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เราสัมผัสปฏิบัติอยู่กับท่านมามันคนละเรื่องกันเลย
จากการสอบถามน้องอั้ม เล่าว่า เธอมาทำบุญ ต่อมาพระวิขอไลน์ ก่อนจะติดต่อพูดคุยกัน ก่อนจะให้เธอมาหาที่วัด ก่อนจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนตอนหลังรู้สึกกลัวบาป หลังจากรู้จักกัน 5 เดือน โดยรู้สึกเสียใจมาก บางครั้งเครียดจัด ต้องพึ่งยานอนหลับ และตัดสินใจเปิดเผยรักแบบลับๆครั้งนี้ เพราะไม่อยากทำบาปอีก สงสารญาติโยม
แต่ปรากฏว่า พระวิ กลับส่งคลิปลิ้น และแชต มาให้ตลอด นอกจากนี้ ยังอ้างว่าพระรูปนี้ยังมีหญิงอื่นด้วย
จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นมายังที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน พบกับนายสไว อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านขามพัฒนา ม.12 ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยเล่าว่า ก็ตกใจ เรื่องของพระวิกับสีกา คนที่ไปร้องเรียนสื่อ ก็พอมีเค้าลางมาบ้าง แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะหลวงพ่อท่านเป็นพระปฏิบัติ ตอนแรกมองว่าผู้หญิงอาจจะสร้างเรื่องแบล็กเมลล์หลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อมีเงินและตัวหลวงพ่อกับผู้หญิงด้วยช่วงวัยก็ห่างกันมาก แต่เมื่อคืนพอเรื่องเริ่มฉาวหลวงพ่อก็หนีออกจากวัดไป ไม่ได้บอกกล่าวใคร ส่วนผู้หญิงที่ไปร้องสื่อเรื่องหลวงพ่อ ปกติจะเป็นแต่งขาวห่มขาวมาปฏิบัติธรรมตลอด เพราะที่สถานปฏิบัติธรรม จะมีจะมีปฏิบัติธรรมทั้งปี แต่เมื่อมีหลักฐานแล้วผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ส่วนชาวบ้านที่ศรัทธาในตัวพระวิ ก็ยังคงไม่เห็นหลักฐานภาพและคลิปต่างๆ แต่ส่วนตัวตัวเห็นแล้ว ซึ่งตอนนี้มีสองฝ่ายมีทั้งฝ่ายปกป้องไม่เชื่อและฝ่ายไม่ปกป้องพระวิ ส่วนเรื่องนี้ก็คงต้องมอบให้สำนักพุทธดูแลต่อไป