เมื่อวันที่ 24 ส.ค.66 เวลาประมาณ 11.00 น. เกิดเหตุการณ์มีนักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เรียนวิชาโภชนาการอาหาร ที่ห้องคหกรรม ชั้น 3 ภายในวิทยาลัย แต่ขณะที่เปิดแก๊สเพื่อประกอบอาหาร แก๊สได้เกิดระเบิดขึ้นต่อหน้าอาจารย์ประจำวิชาและนักเรียนในชั้นจำนวนหลายคน ทำให้มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งเปลวไฟคลอกลวกไหม้ใบหน้า แขนขา และลำตัวท่อนบนจนเป็นแผลพุพอง ซึ่งหลังเกิดเหตุทางวิทยาลัยได้รีบนำตัว น.ศ.สาววัย 17 ทราบชื่อ คือ นางสาวปภัสสร (ขอสงวนนามสกุล) ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
เบื้องต้นแพทย์ได้นำเข้าไปนอนรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางจมูก
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปบ้านพักหลังหนึ่ง ซอยเชตุวัน ถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พูดคุยกับ นายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เผยว่า ในช่วงก่อนเที่ยงของวันที่เกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งจากคุณครูประจำชั้นว่าลูกสาวเกิดอุบัติเหตุและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาล พบว่า ผู้เป็นแม่นั่งร้องไห้หน้าห้อง ICU อยู่ก่อนแล้ว โดยอาการลูกสาวค่อนข้างจะสาหัส ต่อมาแพทย์ได้นำเข้าไปนอนรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อ ซึ่งต้องให้อาหารทางจมูกอยู่ มีบาดแผลโดนเปลวไฟคลอกลวกเกือบทั่วตัวทั้งใบหน้า แขนขาทั้งสองข้าง และลำคอ ตนเป็นห่วงลูกสาวมาก ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ เนื่องจากน้องเป็นผู้หญิงรักสวยรักงาม กลัวลูกสาวจะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายวิโรจน์ ยังบอกอีกว่า ลูกสาวเป็นคนที่ชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งการเปิด-ปิดแก๊ส เป็นเรื่องปกติที่น้องทำเป็นประจำ จึงไม่คิดว่าน้องเป็นคนทำแก๊สระเบิดเอง แต่จากการสอบถามไปยังเพื่อนร่วมชั้น เล่าว่า ตอนนั้นนางสาวปภัสสรได้เดินไปเปิดเตาแก๊สที่ตั้งอยู่ด้านนอก แล้วจู่ ๆ ก็มีเปลวไฟลุกท่วมขึ้นเพราะแก๊สระเบิด ซึ่งแก๊สที่เกิดการระเบิดไม่ได้มาจากเตาของนางสาวปภัสสร แต่เป็นแก๊สของเตาข้าง ๆ ที่ได้เปิดทิ้งไว้นานแล้ว ประจวบเหมาะกับที่นางสาวปภัสสรกำลังเปิดเตาแก๊สพอดี เลยทำให้เปลวไฟลุกท่วมขึ้น และคลอกร่างของนางสาวปภัสสร
หลังเกิดเหตุ ทางผู้อำนวยการและคุณครูวิทยาลัยดังกล่าวได้เดินทางมาเยี่ยมลูกสาวตน เพื่อให้กำลังใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนกำลังรอให้ทางวิทยาลัยออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นได้อย่างไร การที่ถังแก๊งระเบิดในการเรียนวิชาอาหารและโภชนาการแบบนี้ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น น่าจะมีระบบเซฟตี้อย่างรัดกุมมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และควรจะมีแนวทางในการแก้ปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และทางวิทยาลัยจะออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อตัวน้องและครอบครัวอย่างไร เบื้องต้นตนได้ไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป