นางสาวเอนามสมมุติ หญิงสาว อายุ 18 ปี พร้อมด้วยเพจสายไหมต้องรอด เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับ เสธฯทหาร ยศ พันเอกพิเศษ สังกัด กองทัพไทย อายุ 47 ปี ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา และ พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร
โดย น.ส เอ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเล่นแอปฯหาคู่แล้วเจอกับผู้ก่อเหตุ เมื่อกลางเดือน ตุลาคม ปี 2565 ซึ่งตอนนั้นตนเองอายุ 17 ปี หลังจากที่ทีการพูดคุยกันผ่านแอปฯก็ได้มีการนัดไปเจอที่บ้านที่เกิดเหตุ ย่านรามอินทรา หลังตนเองเลิกเรียน ซึ่งตอนที่พูดคุยกัน ผู้ก่อเหตุบอกว่าเป็นชายวัยรุ่น แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบว่า ชายที่เธอคุยนั้นเป็นชายสูงวัย ซึ่งเธอก็ตกใจ แต่ชายคนดังกล่าวก็พยายามหลอกล่อให้เธอเข้าไปพูดคุยภายในบ้าน จนเธอเข้าไป จากนั้นชายคนดังกล่าวก็พยายามคุยว่าตอนนี้ อยู่คนเดียว และไม่มีครอบครัว จากที่นั่งคุยกันแบบมีระยะห่าง แต่ฝ่ายชายก็ได้เขยิบเข้ามาใกล้แล้วใช้มือลวนลามเธอ เธอพยายามขัดขืนต่อสู้ แต่สู้แรงไม่ไหว อีกทั้งขณะนั้นฝ่ายชายก็มีอาการมึนเมาด้วย และหลังเกิดเหตุเธอก็ไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งครอบครัว
หลังจากนั้นเธอก็พยายามตีตัวออกห่างชายคนดังกล่าว แต่ก็ถูกตามง้อหลายครั้ง และมีความสัมพันธ์กันเกือบปี ซึ่งตลอดเวลาที่ฝ่ายชายตามง้อ ก็บอกกับเธอว่าจะให้ความมั่นคงในชีวิต จะจริงจัง จดทะเบียนสมรส พาไปพบเพื่อน บอกจะซื้อคอนโดให้ และเมื่อวันเกิดครั้งล่าสุดของเธอที่เธออายุครบ 18 ปี ฝ่ายชายได้โพสต์ รูปเธอลงโซเชียลมีเดีย ก็ยิ่งทำให้เธอหลงเชื่อว่า ฝ่ายชายนั้นจริงจังกับเธอ ทำให้เธอและฝ่ายชายนั้นมีควาสัมพันธ์กันเรื่อยมาจนเกือบปี จนกระทั่งช่วงที่ผ่านมาฝ่ายชายได้ตีตัวออกห่างเธอและขอเลิกกับเธอ ซึ่งทำให้เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงไปร้องยังเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาเธอถูกหลอกให้เชื่อใจเพื่อแลกกับความสัมพันธ์ ที่ผ่านมาเธอพยายามติดต่อไปพูดคุยกับฝ่ายชาย แต่ฝ่ายชายก็หลบหน้าตลอด และบอกว่า ตนเองนั้นไม่ผิดอะไรและมีทนายความหากผู้เสียหายจะฟ้องร้อง
ขณะที่ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สน. บางเขน ได้นำตัวนางสาวเอ หญิงสาวอายุ 18 ปีที่ถูกข่มขืนไปฉี่บ้านจุดเกิดเหตุ ทีมข่าวจึงได้สอบถามคนที่อยู่ในบ้าน ซึ่งอ้างว่าเป็นแม่บ้านดูแล บอกว่าทหารที่ถูกผู้เสียหายกล่าวหานั้นไม่อยู่ออกไปตีกอล์ฟ และบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่กันสี่คนคือมีทหารตำรวจและคนแก่อีกสองคน ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวนางสาวเอผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย