จากกรณีเจ้าบ่าวสุดช้ำ ถูกแฟนสาวที่คบหามา 6 เดือน อ้างว่าตั้งท้อง เพื่อให้แต่งงานด้วย แต่หลังแต่งงานมีความสุขได้เพียง 3 วัน ถูกแฟนสาวบอกเลิกอ้างหมดรักและแท้งลูกที่อยู่ในท้องไปแล้ว อึ้งซ้ำสองทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ เจอภาพโผล่ไปฉลองกับชายปริศนาทั้งที่เพิ่งแต่งงานกับตัวเอง

เมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ความรักของทั้งคู่ ทราบว่า เมื่อต้นปี 2566 ทั้งคู่รู้จักผ่านเฟซบุ๊ก คบหาดูใจ 6 เดือน ต่อมาฝ่ายหญิงแจ้งว่าท้อง พาไปตรวจที่โรงพยาบาลมีผลยืนยัน

จากนั้นพ่อแม่ฝ่ายชายพูดคุยเรื่องสู่ขอ ตกลงค่าสินสอดเป็นเงิน 60,000 บาท ทองคำหนัก 2 บาท

ฝ่ายหญิงหาฤกษ์แต่งงาน ก่อนวันเกิดฝ่ายหญิง 23 ส.ค. อ้างว่าพระทักว่าแต่งช้าจะมีผลต่อสุขภาพเด็กในท้อง

ใกล้วันแต่งงาน ฝ่ายชายหาสินสอดไม่ทัน ตกลงเหลือเงินสด 40,000 บาท

โดยเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา และฝ่ายชายมองว่าฝ่ายหญิง มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป

และในวันที่23สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของฝ่ายหญิง แต่เจ้าสาวป้ายแดงไม่กลับบ้าน ฝ่ายชายรอเซอร์ไพรส์เก้อ

โดยฝ่ายชายพยายามติดต่อภรรยา อ้างว่าไปทำบุญกับเพื่อนที่ทำงาน

จากนั้นเมื่อฝ่ายหญิงกลับมาถึงบ้านได้มีปากเสียงกัน

ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอเลิก อ้างหมดรักแล้ว และไม่ได้ตั้งท้องเพราะแท้งไปก่อนวันที่แต่งงาน

ฝ่ายหญิงเรียกเงิน 10,000 บาท อ้างเป็นเงินที่ต้องใช้รักษาตัวช่วงตกเลือด

ฝ่ายชายกลับไปรักษาแผลใจที่บ้านเกิด และพบสตอรี่ฝ่ายหญิงลงรูปฉลองวันเกิดกับชายปริศนา

จากนั้นวันที่ 28ส.ค. กลับมาคืนดีกัน

ล่าสุด น.ส.มิ้นต์ กล่าวว่า กรณีเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เกิดจากความเข้าใจผิด ก่อนอื่นชี้แจงเรื่องที่ตนท้องแล้วแท้งก่อน ตนยอมรับว่าตนได้ท้องจริงโดยทราบหลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่2 สิงหาคมที่ผ่านมาและได้มาแท้งช่วงประมาณวันที่10 สิงหาคมโดยมีลักษณะ มีเลือดออกมาเหมือนประจำเดือน แต่จะเยอะกว่าและจะมีเหมือนก้อนเลือดปนออกมาเล็กน้อย จากนั้นจึงไม่กล้าบอก นายอนิรุตธิ์ เนื่องจากจะมีการจัดงานมงคล คืองานแต่งของตนและ นายอนิรุตธิ์ ที่จะจัดในวันที่20 สิงหาคม แต่ถ้าบอกไปก่อนหน้านี้กลัวว่าง่นแต่งงว่นจะล้มเลิก และตั้งใจจะบอกเรื่องที่ตนแท้งกับ นายอนิรุตธิ์ ในวันที่24 สิงหาคม เนื่องจากเป็นวันเกิดของตน จึงไม่ได้บอกเรื่องที่ตนแท้งให้นายอนิรุตธิ์ ได้ทราบก่อน

จากนั้นต่อมาเมื่อวันที่23 สิงหาคม ก่อนวันเกิดของตน 1 วัน นายอนิรุตธิ์ ก็ได้คิดจัทำเซอร์ไพรส์ตน โดยการจัดลูกโป่งในห้องนอนของตนเป็นลักษณะตกแต่งภายในห้องนอนด้วยลูกโป่ง แต่เมื่อตนกลับมาเห็นก็ได้ถ่ายรูปไว้ แต่เนื่องจากเหนื่อยจากงานและอีกหลายๆอย่าง จึงไม่ได้แสดงออกชัดเจนว่าเซอร์ไพรส์ หรือดีใจแต่อย่างใด จึงทำให้นายอนิรุตธิ์ คิดว่าตนนั้นไม่สนใจกับสิ่งที่ตั้งใจทำให้ และเมื่อมาถึงวันที่24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของตน ตนจึงได้บอกเรื่องที่แท้งลูกกับ นายอนิรุตธิ์ แต่ที่ตนหวังไว้ว่าที่จะบอกวันนี้เพราะเค้าอาจจะไม่โกรธหรือเบาลง แต่ตรงกันข้ามกับมองว่าตนและครอบครัวโกหกเรื่องที่ท้องเพื่อจะได้ให้แต่งงาน และคุยกันไม่รู้เรื่อง จากนั้น นายอนิรุตธิ์ ก็ได้ขับรถออกจากตนไป ซึ่งเมื่อโทรหาก็ไม่รับ และ บล็อกช่องทางการติดต่อทั้งหมด ไม่ว่าจะ เฟซบุ๊ก หรือไลน์

และในวันเดียวกันนั้นก็ได้มีพี่ชาย(ไม่ประสงค์ระบุชื่อ) ได้มาเที่ยวงานกีฬาเยาวชนที่จังหวัดกาญจนบุรีพอดี ซึ่งพี่ชายคนนี้ตนรู้จักมากว่า10ปีแล้ว ซึ่งรู้จักก่อนนายอนิรุตธิ์ด้วย และเขาจำได้ว่าวันนี้คือวันเกิดของตนจึงทักมาและชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งตนก็ได้ไปตามคำชวนและถ่ายรูปลงสตอรี่ จนทำให้ นายอนิรุตธิ์เห็น จนเป็นเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด

ซึ่งตนเองน้้นเป็นคนเฟรนด์ลี่ แต่นายอนิรุตธิ์ เป็นคนที่ไม่ค่อยมีสังคม จึงทำให้เข้าใจผิดกัน และตนนั้นก็รู้จักคนเยอะเนื่องจากมีอาชีพขายของออนไลน์ ต้องไลฟ์ขายของตลอดจึงทำให้รู้จักคนค่อนข้างมาก และก็อยากจะขอโทษทุกๆคนที่ทำให้เข้าใจผิด และตอนนี้โดนกระแสโซเชียลเยอะมาก จึงอยากให้ทุกๆคนเข้าใจ

จากนั้นทีมข่าว ได้คุยกับฝ่ายชายคือ นายอนิรุตธิ์ โดย นายอนิรุตธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความเข้าใจผิดของตนทั้งหมด และความไม่เข้าใจกัน ซึ่งตนเองยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสังคม แต่ น้องมิ้นต์เป็นคนที่รู้จักคนเยอะ จนทำให้ตนรู้สึกน้อยใจ และหึงหวง

โดยจุดที่ทำให้คนเข้าใจผิดและไปลงบันทึกประจำวันคือ รูปที่น้องมิ้นต์ลงสตอรี่ โดยรูปนั้นเห็นโต๊ะอาหารและเห็นแขนผู้ชาย คนจึงเกิดความแค้นและไปลงบันทึกประจำวันเพื่อจะเอาเรื่องโดยไม่ได้ฟังน้องมิ้นต์อธิบายก่อนเลย ซึ่งตอนนี้ได้เข้าใจทั้งหมดแล้ว จึงอยากจะขอโทษทุกๆคน และ อยากบอกว่ารัก น.ส.มิ้นต์เหมือนเดิม

ซึ่งหลังจากทีมข่าวได้สัมภาษณ์เสร็จ ทั้งสองคนก็ได้กอดกัน โดย น.ส.มิ้นต์ ก็ได้ถาม นายอนิรุตธิ์ ว่ายังรักอยู่ไหม ยกโทษให้ไหม นายอนิรุตธิ์ ก็ได้พยักหน้าตอบรับ และได้หอมแก้มกันให้ทีมข่าวดู ซึ่งทั้งสองก็ได้บอกกับทีมข่าวว่าจะกลับไปรักกันใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิม