จากกรณี 4 พ่อแม่ลูกถึงทางตัน หนี้สินจากการค้ำประกัน แถมเคราะห์ร้ายถูกแอปฯเงินกู้หลอกโอนเงินสูญกว่าล้านบาท ผู้เป็นพ่อหัวหน้าครอบครัวตัดสินใจคว้ามีดไล่สับฆ่าลูกและเมียดับ 3 ศพในบ้านพัก ก่อนจะโทรบอกหัวหน้างานจากนั้นปาดคอตนเองหวังจบปัญหา สุดท้ายไม่ตายแต่เจ็บสาหัส

 

วันนี้ 29 ส.ค.66 พ.ต.ท.รังสรรค์ ตำสุข รอง ผกก.สอบสวนสภ.บางแก้ว ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ล่าสุดตำรวจสภ.บางแก้ว ขออนุมัติหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ แจ้งข้อกล่าวหา 5 แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้กู้เงิน เป็น ชาย 3 คน หญิง 2 คน ในข้อหา

1.ร่วมกันช่อโกงประชาชน

3.พรก.มาตรา 9 เปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ บัญชีดังกล่าวเปิดในพื้นที่ อรัญประเทศ และอาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มอีก 4 ราย ในกระบวนการโยกย้ายเงินออกจากบัญชี

ส่วนการสอบปากคำ พยานที่ให้ผู้เสียชีวิตยืมเงิน ก็ให้การในลักษณะเดียวกัน ว่าเป็นเพื่อน นางสาววิภาพร และให้ยืมในฐานะเพื่อนสนิท ไม่ได้มีการให้กู้เก็บดอกเบี้ย หรือไปกดดันอะไร ซึ่งในส่วนของพยานที่มีการให้ยืมเงินถึง มีทั้งหมด 7 คน ในยอดที่แตกต่างกันคนที่ 1 ให้ยืมไป 900,000 บาท  ซึ่งทางผู้เสียชีวิตได้นำทอง 6 บาท ไปคืนให้กับพยานคนนี้ ตีราคาทองเป็นเงิน 220,000 บาท เหลือยอดค้าง 680,000 บาท // คนที่ 2 ยืมเงิน 100,000  บาท // คนที่ 3 ยืมเงิน 120,000 // คนที่ 4 ยืมเงิน 70,000  // คนที่ 5 ยืมเงิน 120,000 // คนที่ 6 ยืมเงิน 30,000 และ คนที่ 7 ยืมเงิน 50,000 รวมทั้งสิ้นที่ผู้เสียชีวิตเป็นหนี้เพื่อนที่ยืมมาเพื่อไปจ่ายให้แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงทั้งหมดจำนวน 1,170,000 บาท 

 

ทีมข่าวได้สอบถามน.ส นิภาลัย เพื่อนที่ทำงาน หนึ่งในผู้ที่ให้ผู้เสียชีวิตยืมเงิน เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับ นางสาววิภาพร มานานหลายปีเพราะทำงานอยู่ที่เดียวกันที่ผ่านมาก็ดูเป็นคนใช้เงินประหยัด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาขอยืมเงินตนเองไปจำนวน 100,000 บาท พร้อมบอกกับตนเองว่าจะใช้คืนให้ภายในสองถึงสามวันหลังจากที่ไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านแล้ว ตนเองจึงโอนให้ไป และไม่ได้ทำสัญญาอะไรไว้ เพราะไว้ใจกัน

 

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ผู้ตายได้โทรศัพท์มาร้องไห้กับตนเองบอกว่าถูกแก๊งค์เงินกู้ทางแอปพลิเคชั่นหลอกให้โอนเงิน และกำลังจะเข้าแจ้งความตนเองจึงได้ทราบความจริงว่านอกจากที่ตนเองให้ยืมเงินแล้วยังมีเพื่อนคนอื่นอีกหลายรายที่ผู้เสียชีวิตไปขอยืมมา แต่ละคนจะไม่เท่ากัน รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 1,300,000 บาท ตนเองจึงได้มีการสอบถามกับผู้ตายว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปยืนยันว่าตนเอง และเพื่อนคนอื่นที่ให้ยืมเงินไม่ใช่แก๊งเงินกู้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือกันจึงอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมด้วย

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้หลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นสัญญาเงินกู้มรณะ ที่ น.ส.วิภาพร ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับ บริษัทแห่งหนึ่ง โดยขอเงินกู้เงินจำนวน 100,000 บาท ระยะเวลาการยืมกู้ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2023-2028  จนกระทั่ง น.ส.วิภาพร ถูกหลอกเสียเงิน 1,700,320.59 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 - 23 สิงหาคมให้กับแก๊งแอปพลิเคชันเงินกู้ดังกล่าว

 

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงติดตามคดีนี้และได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง เมื่อไปถึงทีมข่าวได้บังเอิญก้มไปเห็นนามบัตรของแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบตกอยู่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบถามทีมข่าวด้วยกันที่มาทำข่าวพบว่านามบัตรดังกล่าวถูกทิ้งอยู่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงวันเกิดเหตุแล้ว แต่ไม่มีใครสนใจเก็บขึ้นมาดู

จากนั้นทีมข่าวได้เก็บขึ้นมาดู พบนามบัตรใบนี้เป็นนามบัตรของแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบจริงๆ โดยในนามบัตรได้ระบุข้อความว่า “สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่จะขยายกิจการ ที่ขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน เรายินดีให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาทางด้านการเงิน การลงทุน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง” พร้อมทิ้งท้าย “อย่าทิ้งนามบัตรนี้ เพราะอาจจะมีประโยชน์กับท่านและคนที่รู้จัก”

 

ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับแก๊งเงินกู้นอกระบบ โดยทำทีจะขอกู้เงินไปลงทุนเปิดร้านขายลูกชิ้น จำนวน 30,000 บาท จะต้องทำอย่างไรบ้าง ใช้เวลากี่วัน และอัตราดอกเบี้ยเก็บเท่าไหร่

 

จากนั้นแก๊งปล่อยเงินกู้ ได้สอบถามทีมข่าวก่อนว่า จะเอาเงินไปทำธุรกิจอะไร ร้านขายอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน พร้อมกับให้ถ่ายรูปร้านค้าของตัวเอง และถ่ายบัตรประชนชน และรูปคนที่จะกู้ยืมเงินไปให้กับแก๊งปล่อยเงินกู้เพื่อพิจารณาปล่อยเงินให้ โดยแก๊งปล่อยเงินกู้ บอกว่า จะมีทีมงาน ซึ่งเป็นชุดลงพื้นที่ เดินทางไปพิจารณาสภาพของร้านค้าทีมข่าวก่อนว่า จะปล่อยกู้ให้เท่าไหร่ จากนั้นเมื่อทีมข่าวเตรียมเอกสารครบในวันนี้ ก็สามารถอนุมัติให้กู้เงินได้ทันทีวันนี้ ซึ่งรวดเร็วมากๆ

 

ส่วนดอกเบี้ย แก๊งปล่อยเงินกู้จะเก็บดอกเบี้ย ในอัตราดอกเบี้ยแบบ “ลอยตัว” “ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน”

ส่งแต่ดอกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินต้นมาจ่ายให้ ซึ่งถือว่า เป็นอัตราดอกเบี้ยที่มหาโหดมากๆ และเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด

 

เนื่องจากหากทีมข่าวกู้เงินมาจำนวน 30,000 บาท ลงทุนเปิดร้านลูกชิ้น จะต้องเสียดอกเบี้ยลอยตัวให้กับแก๊งปล่อยเงินกู้วันละ 600 บาท ซึ่งเป็นดอกลอยจ่ายฟรี ไม่ตัดเงินต้น และหากปล่อยไว้ 1 เดือน จำนวน 30 วัน ทีมข่าวจะต้องเสียเฉพาะค่าดอกเบี้ยให้กับแก๊งปล่อยเงินกู้ไปทั้งหมด 18,000 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ครอบครัวที่เกิดเหตุได้โทรศัพท์มาขอกู้ยืมเงินจากแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบเจ้าหนี้หรือไม่ แต่นามบัตรของแก๊งนี้ตกอยู่ด้านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้ทีมข่าวได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจชุดสืบสวนช่วยนำไปตรวจสอบแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบรายนี้แล้ว

 

จากนั้นผ่านไปไม่ถึง 30 นาที ได้มีชายปริศนา 2 คน แต่งตัวคล้ายแก๊งหมวกกันน็อก ขับเข้ามาในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และขี่วนดูรอบหมู่บ้าน โดยชายทั้งสองคนได้ขี่ไปจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้บ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครอยู่ จึงได้ซ้อนท้ายขี่รถออกไปทันที

ตะลึงแก๊งเงินกู้ปมฆ่ายกครัว โผล่หน้าบ้าน 3 ศพเก็บดอก เพื่อนให้กู้หวิดซวย