ไวยาวัจกร วัดบางคลาน ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน-ประธานวุฒิสภา ถอดถอน สว.กิตติศักดิ์ พ้นตำแหน่ง ระบุพฤติกรรมปลุกปั่น อยู่เบื้องหลังกลุ่มมวลชนต่อต้านเจ้าอาวาสวัด
วันที่ 30 ส.ค. 2566 นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดบางคลาน หรือวัดหิรัญญาราม ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมด้วยนางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงค์ ประธานชมรมรักษ์พุทธศาสนานานาชาติ และตัวแทนองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาและบ้านชาวบางคลาน ร่วมกันยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ไต่สวนจริยธรรมของนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา และพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา
หลังจากนายกิตติศักดิ์ ประพฤติตนไม่เหมาะสม รวมถึงมีพฤติกรรมอยู่เบื้องหลัง และให้การสนับสนุนกลุ่มมวลชนที่เป็นลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาส ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านพระครูพิสุทธิ์วรากร เจ้าอาวาสวัด และคณะกรรมการวัดชุดปัจจุบัน รวมถึงละเมิดคำสั่งศาล ที่พิพากษาสั่งห้ามนายกิตติศักดิ์ และบริวารเข้ามายุ่งเกี่ยวภายในวัด ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจนนำไปสู่ความเสื่อมเสียลุกลามบานปลายในหลายๆ ด้าน
นอกจากนี้ ยังได้มีการปลุกระดมชาวบ้าน และชี้นำในทางที่ผิด บิดเบือนข้อมูลของวัดบางคลาน ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดระหว่างวัดกับกลุ่มชาวบ้าน และยังมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ปิดสถานที่วัดที่เป็นนิติบุคคล และขัดขวาง การทํางานของเจ้าหน้าที่ เจ้าอาวาส ในฐานะเจ้าพนักงาน และคณะทํางานไวยาวัจกรชุดใหม่ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามแล้วก็ตาม แต่นายกิตติศักดิ์ยังฝ่าฝืนและละเมิดคำสั่งศาล มีพฤติกรรมหรือเป็นการจงใจใช้อํานาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ฝ่าฝืนไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ในการดํารงความยุติธรรม ซึ่งเป็นภัยคุกคามพระพุทธศาสนา และสร้างความเสื่อมศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อหน่วยงานที่ดูแลกฎหมาย
นอกจากนี้ นายกิตติศักดิ์ยังได้ใช้เอกสิทธิ์ความเป็นสมาชิกวุฒิสภาคุ้มครองตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีนายกิตติศักดิ์ได้ตามกฎหมาย
ดังนั้น พุทธศาสนิกชนและองค์กรชาวพุทธ จึงรวมตัวกันมาร้องทุกข์ และร้องเรียนประธานวุฒิสภาและผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด กับนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้เพื่อให้เปิดวัดบางคลาน ให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดไปนมัสการหลวงพ่อเงินได้ตามกฎหมาย รวมถึงให้เจ้าอาวาสวัดและคณะกรรมการวัดเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฎหมายโดยเร็ว
ด้าน นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัยประธานวุฒิสภา เพื่อตรวจสอบและถอดถอนการใช้อำนาจรัฐของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีพฤติกรรมหรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการดำรงความยุติธรรมโดยมิชอ ของนายกิตติศักดิ์ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ที่กระทำความผิดจนมีคำสั่งศาลให้ออกจากวัด พร้อมบริวาร
แต่นายกิตติศักดิ์ กลับละเมิดกฎหมายไม่ยอมออกจากวัด และยังยุยงปลุกปั่นชาวบ้านให้ต่อต้านเจ้าอาวาส จนปะทะกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าวัดไปทำหน้าที่ของเจ้าอาวาสที่ผ่านมา และจากการติดตามการให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ของนายกิตติศักดิ์ รวมไปถึงการกล่าวหาโดยไม่มี หลักฐาน และการให้ข้อมูลต่อสื่อหรือการรายงานต่อหน่วยงานอย่างบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดทำให้ประชาชนละเมิดกฎหมายกระทำผิดกฎหมายและผู้ที่อยู่ในวัด เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียในคดี กรณีมีผลประโยชน์ร่วมทำให้วัดเสียหาย
ซึ่งวัดเป็นนิติบุคคลจะต้องมีเจ้าอาวาส เปลี่ยนเวียนมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงาน ในการดูแลวัดอยู่แล้ว แต่ กลับไม่ยอมรับโดยหาเหตุกีดกันต่างๆ นานา เพื่อไม่ให้เจ้าอาวาสเข้าวัดเพราะกลัวการตรวจสอบ หากว่ากลุ่มที่อยู่ในวัดบริสุทธิ์ใจจริง เวทีนี้เป็นการเปิดกว้างให้ชี้แจงในข้อความผิด ตามหลักการตรรกะข้อกฎหมายอยู่แล้วแต่ก็ไม่ให้ความร่วมมือ ต่อหน่วยงานของรัฐและไม่เคารพกฎหมายจนนำไปสู่การฟ้องร้องในที่สุด