น.ส.เจน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ที่ไปบวชชีพราหมณ์แก้บนที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความที่ สภ.พิปูน หลังถูกเจ้าอาวาสลวนลาม จับเนื้อต้องตัว หนักสุดถึงขั้นผลักประตูห้องน้ำเข้าไปขณะที่กำลังอาบน้ำ
ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้เดินทางไปสอบถาม น.ส.เจน เจ้าตัวได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2566 ตนนั้นได้ไปบวชชีพราหมณ์แก้บนที่วัดแห่งหนึ่ง โดยตอนแรกๆ ตนก็ทำกิจวัตรประจำวันร่วมกับแม่ชีคนอื่นๆ ตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 17 ส.ค. 2566 เธอได้นั่งเล่นอยู่ภายในห้อง จากนั้นเจ้าอาวาสก็ได้เดินเข้ามาหา แล้วใช้เท้าสะกิดไปที่ก้นของเธอ พร้อมพูดแซวว่า "เล่นแต่โทรศัพท์อย่างเดียวเลยนะ" ตอนนั้นเธอจึงได้หันไปถามเพื่อนที่มาบวชชีด้วยกันว่า "พระโดนตัวผู้หญิงได้ด้วยเหรอ"
เธอจึงได้โทรศัพท์ไปเล่าให้แม่ฟัง ซึ่งแม่ก็ปลอบใจบอกว่า พระท่านคงแกล้งเล่นเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก น.ส.เจน จึงไม่คิดอะไรเยอะ จากนั้นวันที่ 19 ส.ค. 2566 เจ้าอาวาสได้เดินเข้ามาหาเธออีกครั้ง พร้อมเอามือลูบแก้มของเธอ เธอจึงรู้สึกแปลกๆ และพยายามอยู่ให้ไกลจากเจ้าอาวาส
จนวันที่เธอหมดความอดทน คือวันที่ 20 ส.ค. 2566 ขณะที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ เจ้าอาวาสก็ได้เข้ามาเปิดประตูห้องน้ำ เธอจึงตะโกนด่าออกไป เมื่ออาบน้ำเสร็จ น.ส.เจน จึงรีบลงมาหาแม่ที่อยู่ด้านล่าง พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แม่ฟัง จึงได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.พิปูน ในเวลาต่อมา
ขณะที่ ฝ่ายลูกศิษย์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่เจ้าอาวาสถูกใส่ร้ายเพื่อหวังแบล็กเมล์รีดไถเงิน
เรื่องนี้ น.ส.เจน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะหากเธอต้องการเงินจริงๆ เธอคงไม่แจ้งความให้เป็นเรื่องใหญ่ และที่เจ้าอาวาสบอกว่า น.ส.เจน ได้ชวนเพื่อนให้มาอยู่วัดด้วย ก็ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเธอเคยชวนแม่ขึ้นไปบริเวณที่พักชีเพียงแค่ 1 ครั้ง เนื่องจากเธอรู้สึกกลัว และให้เพื่อนไปช่วยเฝ้าประตูขณะอาบน้ำเพราะประตูล็อกไม่ได้ หลังจากนี้ขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องเจ้าอาวาสดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว อ.พิปูน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่า เจ้าอาวาสไม่ได้อยู่ที่วัด แต่ได้ออกไปทำกิจธุระที่จังหวัดภูเก็ต ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับนายประเสริฐ อายุ 62 ปี ซึ่งได้เข้ามาทำงานก่อสร้างกุฏิภายในวัดเป็นเวลากว่า 1 เดือน โดยนายประเสริฐเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "ไม่เป็นเรื่องจริง" และคิดว่าเจ้าอาวาสถูกแม่ชีคนดังกล่าวใส่ร้ายเพื่อหวังรีดไถเงิน โดยก่อนเกิดเหตุ ทางวัดได้มีการเชิญชวนให้ชาวบ้านมาบวชชีพราหมณ์เนื่องในวันแม่ ก็มีหญิงสาวราว 20 คนมาเข้าร่วมการบวชชีพราหมณ์ เมื่อครบกำหนดวันเวลา หญิงสาวคนอื่นๆ ก็ทยอยลาสิกขาออกจากวัด แต่ปรากฏว่า นางสาวเจนที่ได้เข้าร่วมบวชชีพราหมณ์ไม่ยอมสึกตามกำหนด ซ้ำยังมีการชวนเพื่อนและลูกๆ เข้ามาอยู่อาศัยภายในวัด โดยแอบขึ้นไปใช้ห้องรับรองสงฆ์อาศัยหลับนอน ทางเจ้าอาวาสเห็นจึงเข้าไปว่ากล่าวตักเตือน และขอให้นางสาวเจนสึกออกจากวัดไป เพราะนางสาวเจนไม่ปฏิบัติตามกฎของวัดเลย จึงอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้นางสาวเจนเกิดความไม่พอใจเจ้าอาวาส
จนกระทั่งวันที่ 20 ส.ค.66 ได้มีพิธีบำเพ็ญกุศลศพจัดขึ้นที่วัด ทำให้ชาวบ้านเข้ามาภายในวัดกันอย่างล้นหลาม ซึ่งก็เป็นวันเกิดเหตุที่นางสาวเจนได้เข้าไปหาชาวบ้าน และพูดว่า "โดนเจ้าอาวาสลวนลาม พังประตูบุกเข้ามาหาในห้องน้ำ" ทำให้ชาวบ้านบางส่วนที่ได้ยินรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าอาวาสทันที เจ้าอาวาสได้ยินดังนั้นจึงเกิดความไม่พอใจ เลยไปแจ้งความต่อ น.ส.เจน ที่ สภ.พิปูนในข้อหาหมิ่นประมาท จากนั้นในวันที่ 23 ส.ค. 2566 น.ส.เจนก็ได้ตามไปแจ้งความต่อเจ้าอาวาสในคดีลวนลาม
ทีมข่าวสอบถามนายชัยรัตน์ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้เผยกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ประสานเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เร่งติดตามเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยส่วนตัวมองว่าข่าวลือที่เกิดขึ้น "เป็นเรื่องจริง" เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยมีหญิงสาวในหมู่บ้านเคยมาปรึกษาถึงพฤติกรรมเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ว่ามีการกระทำลวนลามที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิง บางคนไปบวชชี บางคนเข้าวัดไปทำบุญเฉยๆ ก็ยังโดน แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปแจ้งความหรือเอาเรื่องเจ้าอาวาสรูปนี้เลย
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้วัด โดยนางสุนี (นามสมมติ) อายุ 74 ปี เปิดเผยว่า ได้ยินข่าวที่เป็นประเด็นหนาหูในตอนนี้แล้ว ซึ่งส่วนตัวคิดว่า "ไม่เป็นความจริง" เพราะเท่าที่ตนเคยไปทำบุญที่วัด ก็ไม่เคยเห็นเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมที่ไม่ดี จะมีก็แต่เรื่องคำพูดจาที่ค่อนข้างจะปากแรง เจ้าอาวาสมักจะด่าคนนู้นทีคนนี้ที อาจทำให้ใครหลายคนเกิดความไม่พอใจต่อเจ้าอาวาสรูปนี้ ถ้าถามถึงเหตุการณ์ที่มีแม่ชีพราหมณ์โดนลวนลาม นางสุนีมองว่า อาจจะมีใครจ้างมาหรือเปล่า จ้างให้มายั่วยุเจ้าอาวาสเพื่อทำลายชื่อเสียง เพราะคนที่จ้องจะทำลายเจ้าอาวาสก็มีเยอะ