จากกรณีวานนี้ที่นางสาวอาย (แหล่งข่าวใช้ชื่อเล่น) อายุ 27 ปี แฟนสาวของหลานเจ้าของบ้าน ร้องนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ตนได้รับความเดือดร้อนหลังซื้อบ้านเมื่อปี 2534 ต่อมาทิ้งร้างไว้30 ปี จนกระทั่งวันที่ 31 สิงหาคม ญาติแฟนหนุ่มให้ตตนและแฟนหนุ่มเข้าไปดูที่บ้านพักที่ได้ซื้อไว้เพื่อจะทำการรีโนเวทเป็นของขวัญการใช้ชีวิตคู่ระหว่างตนและแฟนหนุ่ม แต่ปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวมีเพื่อนบ้านเข้ามาวางของ และมีการต่อเติมตัวบ้านบางส่วน
ภายหลังได้มีการเสิร์ชรูปตัวบ้านที่เกิดเหตุใน Google Maps จนพบบ้านของตนเองมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอาคารตัวบ้านเกือบทุกปีเป็นเวลาประมาณ 4-5 ปี โดยที่ตนซึ่งเป็นหลานเจ้าของบ้านไม่ได้รับการติดต่อและไม่ทราบก่อนหน้านี้
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพูดคุยกับนายซัน (นามสมมติ) อายุ 27 ปีอีกครั้ง ซึ่งเป็นหลานเจ้าของบ้านพักดังกล่าว โดยเปิดใจทุกประเด็นที่เกิดขึ้นและพาทีมข่าวเสิชรูปใน Google Maps ตัวบ้านที่เกิดเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ปี 2555-2566 ให้ทีมข่าวดู
นายซันเล่าว่า ลุงของตนซื้อบ้านดังกล่าววันที่ 14 พ.ย.ปี 2534 ในราคา 490,000 บาท เนื้อที่ 20 ตารางวา จากนั้นไม่ได้มีใครไปพักอาศัยและปล่อยทิ้งไว้นานประมาณ 30 ปี กระทั่งปลายปีนี้ตนมีแพลนที่จะแต่งงานกับแฟนสาว ลุงจึงให้ตอนไปดูบ้านหลังดังกล่าวเพื่อที่จะรีโนเวทเป็นของขวัญการใช้ชีวิตคู่ระหว่างตนและแฟนสาว
เริ่มแรกตนทราบดีว่าบ้านถูกปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 ปี จึงเสิชดูรูปบ้านหลังดังกล่าวใน Google Maps และพบว่ามีลักษณะไม่เหมือนกับที่ลุงบอกตน ว่าบ้านมีสภาพโทรม จึงทำการดูรูปภาพย้อนหลังไปประมาณ 5-6 ปี และพบว่ามีการต่อเติมบ้านเกือบทุกปี
โดยปี 2555 จะเห็นว่าบริเวณในบ้านและนอกรั้วประตูบ้านมีอุปกรณ์ก่อสร้างและอุปกรณ์อื่นกองอยู่ ยืนยันอุปกรณ์เหล่านั้นไม่ใช่ของลุงตนที่เป็นเจ้าของบ้าน
ปี 2560 บ้านของลุงบริเวณชั้นสองมีการเปลี่ยนบานหน้าต่างใหม่2 บาน บริเวณชั้นบนจะเห็นสายไฟฟ้าที่ถูกเอาออกมาจากบ้านเพื่อนบ้าน และมีรั้วประตูบ้านใหม่ที่ไม่เหมือนกับลักษณะเดิม รวมทั้งประตูเข้าบ้านก็ถูกเปลี่ยนใหม่เช่นกัน และหลังคาเชื่อมระหว่างบ้านพักของตนและบ้านพักของเพื่อนบ้านที่บริเวณด้านหลัง
ปี 2563 จะเห็นชัดเจนว่าบริเวณในบ้านพักตนมีใครคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของมาทำกิจกรรมในบ้านพัก โดยมีโต๊ะอาหารและนั่งกินกันอยู่บริเวณด้านไหนอย่างสบายใจ รวมทั้งมีรถจอดในซอยหลายคันซึ่งเป็นซอยระหว่างบ้านพักตนและบ้านพักของเพื่อนบ้าน ต่อมาได้ไปดูบ้านพักของลุงในวันที่ 31 สิงหาคมถึงพบว่าที่ตนเสิชดูข้อมูลใน Google Maps เป็นจริงทุกประการ บ้านของลุงทุกเพื่อนบ้านครอบครองอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ยืนยันในส่วนที่เพื่อนบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง8 เมื่อวานนี้ว่าอยากจะขอซื้อบ้านหลังดังกล่าวกับลุงของตน ลุงของตนไม่ขายบ้านพักดังกล่าวเด็ดขาด และจะไม่ไปพูดคุยหรือเคลียร์ใจกับเพื่อนบ้านที่มาบุกรุกบ้านของตน ต่อจากนี้เป็นเรื่องของทางกฎหมายโดยตนได้มอบหมายให้ทนายเดชาดูแลเรื่องนี้แล้ว
ในเรื่องเพื่อนบ้านมาพักอาศัยที่บ้านของตนในขณะที่ตนไม่ได้ยินยอมแต่เป็นเวลานานประมาณห้าถึงหกปีจะถือว่าตามกฎหมายเป็นผู้ครอบครองโดยปรปักษ์หรือไม่ ส่วนนี้ตอนได้สอบถามทนายเดชาแล้ว ทางทนายยืนยันว่าไม่เข้าข่าย โดยทางตนมีสิทธิ์ชนะคดีนี้แน่นอน ซึ่งคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดเพราะบุกรุกบ้านของตนและไปต่อเติมบ้านของตนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ลุงของตนตอนนี้เครียดมาก ทั้งครองครัวกังวลความเครียดของลุง เพราะลุงมีโรคประจำตัวเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ จึงได้มอบหมายให้ตนและแฟนสาวเป็นคนจัดการเรื่องนี้
ทีมข่าวได้บินโดรนสำรวจบ้านพักที่เกิดเหตุย่านนวมินทร์ 94 โดยพบบ้านพักหลังที่เกิดปัญหาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งสภาพตัวบ้านตรงตามที่นายซันหลานเจ้าของบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวคือมีการทำรั้วประตูบ้านใหม่รวมทั้งต่อเติมบริเวณหลังคาหน้าบ้านพัก และบริเวณหลังบ้านมีหลังคาที่ต่อเติมแล้วเชื่อมระหว่างบ้านพักผู้เสียหายและบริษัทของคู่กรณี
ทีมข่าวช่อง 8 สอบถามข้อมูลกับ นางนิด (นามสมมติ) อายุ 43 ปี คู่กรณี เปิดใจว่า ในส่วนภาพที่ผู้เสียหายเสิร์ชใน Google Maps ปี 2555 ตนยังไม่ได้นำของมาวางไว้ที่บ้านพักผู้เสียหาย ในปีนั้นช่างก่อสร้างที่อยู่ในหมู่บ้านเอาอุปกรณ์ก่อสร้างและชิ้นส่วนบางอย่างมาทิ้งไว้ที่บ้านผู้เสียหายเนื่องจากเห็นว่าเป็นบ้านร้างไม่มีใครพักอาศัยอยู่
ยืนยันตนเอาของมาวางไว้เป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนการประปาภายในบ้านพักผู้เสียหายตั้งแต่ปี 2560 ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าตัวเองบุกรุกคิดแค่เพียงว่าบ้านไม่มีใครอยู่เลยฝากวางไว้ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งต่อมาก็พยายามติดต่อกับทางเจ้าของบ้านว่าตนสนใจที่จะซื้อบ้านพักหลังนี้แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงมีความคิดที่ว่าวางของไว้เรื่อยๆก่อน หากเจ้าของบ้านตัวจริงมาก็จะขอพูดคุยด้วยเพื่อติดต่อซื้อบ้าน
ส่วนเรื่องที่ตัวเองบุกรุกเข้ามาแล้วมีการต่อเติมบ้านบางส่วน ตอนนั้นคิดว่าสภาพบ้านหลังนี้สุดโทรมมากและอาจเป็นอันตรายต่อเพื่อนบ้าน จึงเข้ามาปรับสภาพบางส่วนและเข้ามาต่อเติมบางส่วน ซึ่งใจคิดว่าต่อเติมไว้เพราะอยากจะซื้อบ้านหลังนี้ไว้เท่านั้นแต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอกับเจ้าของตัวจริง ไม่ได้คิดที่จะอยากได้ของคนอื่นหรือยึดไว้ครอบครองเอง
หากสุดท้ายเจอเจ้าของบ้านแล้วเจ้าของบ้านไม่ขาย ก็พร้อมจะยอมย้ายของออกจากบ้านพักหลังนี้ทันที และในส่วนที่ตนเองได้มีการต่อเติมและรีโนเวทก็จะไม่คิดเงินกับเจ้าของบ้านตัวจริงสักบาท ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของบ้านจะรื้อออกหรือจะเก็บไว้ก็ได้ ยอมรับเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตกใจที่ทราบว่าทางผู้เสียหายก็ได้แจ้งความไว้ และมีทนายเพื่อดำเนินคดีกับตน ยืนยันว่าเรื่องนี้หากมีการเคลียร์ใจ และปรับความเข้าใจกันมันก็สามารถทำได้ แต่หากอีกฝ่ายอยากจะดำเนินคดีกับตน ตนก็มีทนายความ เพื่อที่จะขอชี้แจงข้อเท็จจริงเช่นกัน
ทั้งนี้ ขอเปิดเผยคลิปวงจรปิดเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าของบ้านตัวจริงเข้ามาดูบ้านพักที่เกิดเหตุในวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ในคลิปจะเห็นญาติเจ้าของบ้านพักมาด้วยกันสามคนซึ่งมีตัวเองพูดคุยด้วย และเจรจาขอคุยกับเจ้าของบ้านตัวจริง เพราะตนเองอยากซื้อบ้านหลังนี้และอยากติดต่อเพื่อเคลียร์ใจ แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายพยายามบ่ายเบี่ยงขอปฏิเสธที่จะคุยกับตน ยืนยันตนพยายามที่จะติดต่อกับเจ้าของบ้านตัวจริง
และขอฝากถึงเจ้าของบ้านว่าตนอยากให้มาเคลียร์ใจกับตนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากจะให้ตอนย้ายออกจากบ้านพักตนก็ยินยอมแต่ให้มาพูดคุยและระบุวันที่แน่ชัดว่าจะให้ย้ายออกวันไหน
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางมะนาว (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างเพื่อนบ้านที่อยู่ในชุมชนสามารถพูดคุยกันและเคลียร์ใจได้ไม่ต้องถึงกับร้องทนายหรือช่อง 8 ให้เป็นข่าวใหญ่โต โดยเริ่มแรกบ้านพักที่เกิดเรื่องเป็นบ้านร้างถูกปล่อยทิ้งไว้นานหลายปี แล้วมีคนงานก่อสร้างที่อยู่ในละแวกนี้เอาอุปกรณ์ก่อสร้างมาเก็บไว้ภายในบ้านร้างแห่งนี้ และยังได้นำขยะมาทิ้งไว้ด้วย ตอนนั้นในบริเวณบ้านร้างมีต้นไทรใหญ่มากและต้นกล้วยที่เห็นใน Google Maps ขึ้นมาทีหลัง
ซึ่งคุณนิดซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ที่เป็นเพื่อนบ้านเห็นว่ามันรก เลยเข้าไปตัดต้นไทรและต้นกล้วย และจ้างรถ 6 ล้อ มาขนขยะที่คนงานก่อสร้างทิ้งไว้เอาไปทิ้งที่อื่น โดยจ้างรถไปทิ้งหลายรอบ รอบละ 700-800 บาท ต่อมาคุณนิดก็เอาชิ้นส่วนการประปามาวางไว้บริเวณหน้าบ้านดังกล่าวแต่ยังไม่ได้ต่อเติม แล้วคุณนิดก็ไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อที่จะสืบหาว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นใคร เพราะคุณนิดอยากจะเช่าบ้านพักหลังนี้ แต่ก็หาไม่เจอ
ต่อมาด้วยสภาพบ้านที่สุดโทรมหน้าต่างบริเวณชั้นสองพัง คุณนิดก็เลยเข้าไปเปลี่ยนหน้าต่างที่บริเวณชั้นสอง พอตอนหลังก็ต่อเติมทำหลังคาหน้าบ้านพัก ตนก็ได้ยินคุณนิดบ่นให้ตนฟังตลอดว่า “คุณนิดอยากซื้อ แต่หาเจ้าของบ้านไม่ได้” ส่วนตัวก็เชื่อคุณนิดที่บอกว่าหากเจ้าของบ้านไม่ขาย และจะให้คุณนิดย้ายของออก คุณนิดก็พร้อมย้ายของออก อีกทั้งเป็นเพื่อนบ้านกันน่าจะมาพูดคุยกันก่อนไม่ต้องไปถึงทนายความหรือร้องช่อง 8 ยืนยันคุณยิดเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เพื่อนบ้านรักทุกคน ไม่มีเจตนาจะไปครอบครองบ้านพักผู้เสียหาย