วันที่ 3 ก.ย. 2566 ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิดนาทีที่น้องปุ๊กลุก อายุ 6 ขวบ ซึ่งน้องอยู่กับพ่อที่เป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่า พ่อของน้องน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยน้องปุ๊กลุกไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิต น้องเดินออกมาจากบ้านพร้อมตุ๊กตาหมี แล้วก็เดินไปขอข้าวกับชาวบ้าน น้องพูดกับเจ้าของบ้านว่า "หนูหิวข้าว หนูไม่มีอะไรกิน ที่บ้านหนู" โดยเจ้าของบ้านก็ถามว่า "หนูเดินมาจากไหน บ้านหนูอยู่ไหน" ซึ่งน้องปุ๊กลุก ตอบว่า "หนูไม่มีบ้านหนูมีแต่พ่อ พ่อหนูยังไม่ตื่นตั้งแต่เมื่อคืน พ่อหนูนอนอยู่ในห้องนั่งเล่น พาหนูไปซื้อข้าว ร้านที่พ่อเคยพาหนูไปซื้อได้ไหม"
จากนั้นเจ้าของบ้านก็ถามย้ำอีกว่าหนูเดินมาจากไหน ซึ่งน้องปุ๊กลุกก็ชี้ไปตรงถนน แล้วก็บอกว่าเดินมาจากตรงนั้น กระทั่งเจ้าของบ้านได้พาน้องเข้าไปในบ้าน แล้วก็หาน้ำให้กิน ซึ่งในเสียงยังได้ยินอีกว่า น้องปุ๊กลุกบอกว่า พ่อหนูขี่มอเตอร์ไซค์ จำได้ไหม กระทั่งเจ้าของบ้านก็ร้องอ๋อขึ้นมา ถามว่าขับแกร็บใช่ไหม แล้วก็ถามว่าแล้วแม่หนูอยู่ไหน ซึ่งน้องปุ๊กลุกตอบเรื่องแม่ว่า แม่หนูเลิกกับพ่อไปนานแล้ว
หลังจากที่เจ้าของบ้านคุยกับน้องปุ๊กลุกเสร็จแล้ว แม่เจ้าของบ้านได้พาน้องปุ๊กลุก ขึ้นรถออกไปซื้อข้าว ซึ่งไปไม่นานก็ขี่รถกลับมาที่บ้าน โดยระหว่างที่น้องปุ๊กลุก นั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านก็ได้ขี่รถเพื่อออกไปตามหาบ้านของน้อง กระทั่งไปได้กลิ่นโชยออกมาจากบ้านจึงโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจจนพบว่านายอภิราช พ่อน้องปุ๊กลุกเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน
ทีมข่าวได้ไปพบนายอภิชาติ ทายะนา อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านที่น้องปุ๊กลุกไปขอความช่วยเหลือ เล่าว่า เมื่อวานนี้ประมาณ 16.00 น. ตนเองนั่งทำงานอยู่กับพ่อและแม่ที่บ้าน จากนั้นประมาณ 4 โมงกว่าๆ น้องปุ๊กลุก ก็เดินเข้ามาที่บ้าน พอมาถึงน้องก็บอกว่า อยากกินข้าว ขอข้าวกินหน่อย จากนั้นตนเองก็ให้แม่พาน้องออกไปซื้อข้าว ซึ่งพอแม่พาน้องกลับมานั่งกินข้าวที่บ้าน ตนเองก็ถามว่าพ่ออยู่ไหน โดยน้องตอบมาว่า พ่อนอนหลับอยู่ที่บ้าน ปลุกแล้วพ่อไม่ยอมตื่น
ด้วยความข้องใจก็เลยขี่รถออกไปตามหาพ่อของน้อง กระทั่งไปเจอเพื่อนบ้านชี้ให้ดูว่าบ้านน้องหลังไหน ซึ่งเมื่อไปถึงตนเองก็ตะโกนเรียกพ่อของน้องปุ๊กลุก แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู ตนเองจึงตัดสินใจเดินไปดูตรงหน้าต่างที่น้องปุ๊กลุกปีนออกมาจากบ้าน ปรากฏว่า ยังไม่ทันเดินไปถึง กลิ่นศพก็โชยออกมา ยอมรับว่าตกใจมาก ก็เลยโทรไปแจ้งตำรวจ กระทั่งเมื่อตำรวจมาถึงก็พบศพนายอภิราชเสียชีวิตอยู่ในบ้าน โดยหลังจากเคลียร์ศพออกเรียบร้อยตนเองก็ให้แม่ไปส่งน้องกับตำรวจ เนื่องจากในหมู่บ้านไม่มีใครรู้ว่าแม่และญาติของนายอภิราชคือใคร ซึ่งที่ผ่านมาเท่าที่เห็น พ่อจะขี่รถออกไปส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า พอตอนเย็นก็รับกลับมาที่บ้าน และไม่เคยเห็นแม่หรือผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้านหลังดังกล่าว
ขณะที่วันนี้ น.ส.เนย อายุ 26 ปี ภรรยาของนายอภิราช แม่แท้ๆ ของน้องปุ๊กลุก บอกว่า ตนเองเลิกรากับนายอภิราชไปตั้งแต่ลูกมีอายุประมาณ 1 ขวบ โดยเมื่อวานนี้ ภรรยาคนที่ 2 คือ น.ส.วุ้นเส้น เป็นคนโทรศัพท์มาบอกให้ไปรับลูกที่โรงพัก ยืนยันตั้งแต่เลิกรากับนายอภิราช ตนเองไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ซึ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เท่าที่รู้นายอภิราชเป็นคนจังหวัดภูเก็ต และพ่อกับแม่ของเขาก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเองคบหากับนายอภิราช นายอภิราชไม่เคยพาไปรู้จักกับญาติคนอื่นๆ ส่วนเรื่องอาการป่วยของนายอภิราชยืนยันว่าไม่เคยรู้มาก่อน เนื่องจากประมาณ 4 ปีที่เลิกรากัน นายอภิราชไปใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาใหม่คือ น.ส.วุ้นเส้น ส่วนบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นจุดพบศพ เท่าที่รู้คือนายอภิราชหลังแยกทางกับ น.ส.วุ้นเส้น ได้มาซื้อบ้านหลังดังกล่าวอยู่กับลูกแค่สองคนเท่านั้น ส่วนเรื่องลูกหลังจากนี้ก็คงต้องรับไปอยู่ด้วย หากญาติของนายอภิราชดูข่าวอยู่ก็อยากให้มาติดต่อรับศพนายอภิราชกลับไปบำเพ็ญกุศล
ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้ภาพวงจรปิดภายในบ้าน ซึ่งจะเห็นความรักความผูกพันระหว่างพ่อกับน้องปุ๊กลุก โดยมีการนั่งกินข้าวด้วยกัน สอนการบ้านให้ลูก แต่งตัวให้ลูกไปโรงเรียน แล้วก็จะมีภาพหากน้องปุ๊กลุกอยู่ตรงห้องนั่งเล่นคนเดียว น้องก็จะเล่นกับตุ๊กตา บางครั้งก็เต้นไปตามเสียงเพลงในทีวี
ส่วนช่วงวันเช้าวันอังคารก่อนที่นายอภิราชจะเสียชีวิต ช่วงเช้าได้ซื้อข้าวเหมียวหมูปิ้งมาให้ลูกกิน จากนั้นช่วงเย็นก็จะเห็นว่าพ่อลูกก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเหมือนเดิม จากนั้นนายอภิราชก็หายออกไปจากกล้อง กระทั่งเช้าจะเห็นว่าน้องน้องปุ๊กลุกใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ซึ่งจากภาพวงจรปิดภายในบ้านจะเห็นว่าก่อนที่นายอภิราชเสียชีวิต ไม่มีใครเข้ามาในบ้าน
โดยลูกสาวบอกกับชาวบ้านตามประสาเด็กว่า อยู่ด้วยกันกับพ่อในบ้านมาตลอดโดยไม่ทราบว่าพ่อเสียชีวิต แต่เข้าใจว่านอนหลับ และได้พยายามปลุกแล้วหลายครั้งให้ไปฉีดน้ำหอมเพราะเหม็น แต่พ่อไม่ยอมตื่น จึงคิดว่าเหนื่อยจากการทำงาน จนกระทั่งมีผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ด้านนายธนกฤษ อายุ 28 ปีเพื่อนบ้าน บอกว่า นายอภิราช ผู้ตาย มาซื้อบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านตนเองได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ นายอภิราช จะใช้ชีวิตอยู่กับลูกแค่ 2 คน ไม่เคยมีเพื่อนหรือมีญาติรวมถึงผู้หญิงที่เป็นภรรยาเข้ามาที่บ้าน ซึ่งกิจวัตรประจำวันของนายอภิราชเท่าที่เห็น ช่วงเช้าจะขี่รถไปส่งลูก ตกเย็นก็รับกลับมาบ้าน ส่วนช่วงเวลาที่ลูกอยู่ที่โรงเรียน นายอภิราชก็จะไปขับรถส่งของ และจะหยุดอยู่บ้านไม่ออกไปไหนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เนื่องจากต้องดูแลลูก ยอมรับว่าตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนเองเห็นนายอภิราชครั้งสุดท้ายประมาณ 4 - 5 วัน กระทั่งมาพบศพ