"เศรษฐา" เผย หารือ ผบ.เหล่าทัพ รับฟังความคิดเห็นแนวทางการทำงานที่ผ่านมา ยอมรับยังใหม่เรื่องกรอบงานกองทัพ เน้นลดช่องว่างกองทัพ-ปชช. และประชาสัมพันธ์การทำงานให้ทั่วถึง พร้อมคุย ทร. สานต่อโครงการเรือดำน้ำ ชี้เงินดิจิทัลวอลเลตจ่ายงวดเดียวจบไม่กระทบงบ 67 แจงภาพโยนปากกา ไม่ได้เกิดจากความไม่พอใจ แค่วางขอเปลี่ยนใหม่เพราะปากกาเขียนไม่ติด จดไม่ทัน
วันที่ 4 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนงานสำคัญที่จะเริ่มดำเนินการภายในอาทิตย์นี้ ว่า มีแผนดำเนินงานทุกวัน โดยในวันนี้จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องกระเป๋าเงินดิจัลถึงขั้นตอนในการทำงาน และการนัดพูดคุยหารือกับหลายภาคส่วน อย่างช่วงเที่ยงวันนี้จะมีการนัดกินข้าวหารือกับว่าที่รัฐมนตรีสัดส่วนพรรคเพื่อไทย 16 คนในเรื่องของนโยบาย การทำงาน เพราะมีหลายคนที่ได้พบและพูดคุยกันเพียงผิวเผิน ซึ่ง การพูดคุยในวันนี้จะพูดคุยสไตล์การทำงาน และความคาดหวังที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้
ส่วนการหารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.66) ร่วมกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เน้นเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งเมื่อวานนี้ขาดว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศที่ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องที่พูดคุยเมื่อวานนี้เน้นการลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน และยังติดตามความคืบหน้าของกองทัพที่ผ่านมาว่าดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว
สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เปลี่ยนนโยบายเป็นเกณฑ์ทหารอย่างสมัครใจ ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพมีความเห็นอย่างไรบ้างนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นการแถลงร่วมกันของผู้นำเหล่าทัพหลังจากนี้ ซึ่งตอนนี้ขอให้เข้าบริหารราชการแผ่นดินก่อน โดยเมื่อวานเป็นการพูดคุยกันเบื้องต้น และรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เข้าพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพอย่างเป็นทางการก่อน ส่วนเรื่องงบประมาณของกองทัพยังไม่ได้พูดคุยถึงขั้นนั้น เมื่อวานเป็นเพียงการพูดคุย รับฟังความเห็นกันเท่านั้น ตัวเองในฐานะที่เข้ามารับตำแหน่งตรงนี้ต้องยอมรับว่ายังใหม่ จึงต้องเข้าไปฟังว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพมีแนวความคิดและการทำงานอย่างไรบ้าง ที่นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคง ปลอดภัย ภายในประเทศ อย่างหน่วยงาน กอ.รมน. ตัวเองก็ยังไม่ทราบว่ามีกรอบการทำงาน ว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง ก็ต้องไปรับฟังจากทุกท่าน ซึ่งยังต้องพูดคุยถึงขอบเขตการทำงานของกองทัพ จึงจำเป็นต้องขอความ อนุเคราะห์จากผบ.เหล่าทัพจากทุกท่าน อย่างว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่จะร่วมเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 กันยายนนี้ด้วย
ส่วนเรื่องการปรับการประชาสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับประชาชน นายเศรษฐา ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดขัด แต่มีหลายอย่างที่กองทัพประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงที่เป็นโครงการดีๆเพื่อประชาชน หลายเรื่องประชาชนอาจจะรับรู้ไม่ทั่วถึง รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่อาจไม่ได้มีการชี้แจง อย่างตรงไปตรงมาและแพร่หลาย เรื่องนี้จึงต้องเข้ามาช่วยดูแล ปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า บางอย่างที่กองทัพทำสิ่งดีๆออกมาแต่ไม่ได้ถูกประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ตนจึงอยากให้ความเป็นธรรมกับกองทัพ เพราะหากเปลี่ยนเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ดีขึ้นประชาชนจะได้รับทราบ
ขณะเดียวกันเรื่องผู้ทรงคุณวุฒิของกองทัพที่มี ประสบการณ์การทำงานจะมีการดึงเข้ามาช่วยงานด้วยหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องเป็นการ ประชุมกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ย้ำว่า เมื่อวานเป็นเพียงการฟังความคิดเห็นเท่านั้น
นายเศรษฐายัง กล่าวถึงงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่รัฐบาลก่อนชะลอไว้ ว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันกับกองทัพเรือ
นายเศรษฐา ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้เดินสายพูดคุย รับฟังกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำนโยบายเตรียมแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้นโยบายนั้นเสร็จสิ้น และส่งพิมพ์แล้ว จากนี้จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังชี้แจงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภาพที่ปรากฏในโซเชียลที่โยนปากกาขณะรับฟังเสียงสะท้อนของกลุ่มวินรับจ้าง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่า ขอโทษหากภาพที่ออกมาจะบ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่ส่วนตัวไม่ได้ไม่พอใจอะไร เนื่องจากวินสะท้อนปัญหาหลายประเด็น ตนเองก็อยากจะจดประเด็นว่ามีปัญหาอะไร พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ขว้างปากกา แค่ปล่อยลงบนโต๊ะ ก็เข้าใจว่าตนเองเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว การจะทำอะไรหลังจากนี้ต้องระมัดระวัง เพราะภาพที่ออกไป ไม่ได้สะท้อนความรู้สึกของตัวเรา แต่คนที่ดูอยู่อาจเข้าใจผิด พร้อมย้ำว่า กราบขอโทษ และจะพยายามระมัดระวังตัวมากขึ้น
นายเศรษฐา ยังระบุว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ได้นัดทานข้าวกับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการพบปะพูดคุยกันปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ต้องการให้พบปะพูดคุย จะได้รู้จัก เข้าใจถึงสไตล์กันมากขึ้น เนื่องจากตนเองนั้นมาจากภาคธุรกิจ อาจจะมีความไม่เข้าใจเพียงพอในการทำงานกับภาคการเมือง และ สส.
นายเศรษฐา ยังเปิดเผยว่า พรุ่งนี้จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า ซึ่งตามกำหนดการจะถึงทำเนียบประมาณ 10.30 น.
ส่วนเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่อาจจะต้องใช้กรอบงบประมาณจากปี 2566 โดยยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล แต่ยอมรับว่า อาจจะมีล่าช้า พร้อมทั้งจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรควันนี้ด้วย ยืนยัน จะไม่กระทบกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท และจะจ่ายแบบครั้งเดียว ไม่มีแบ่งจ่ายตามที่นักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์