ครม.ใหม่ตบเท้าเข้าทำเนียบคึกคัก
บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1 เข้ามา ถ่ายรูปภาพติดบัตร ใน เวลาประมาณ 10.30 น. ก่อนจะเดินทางโดยรถตู้พร้อมกัน ออกจาทำเนียบในเวลา 11.30 น. เพื่อไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในเวลา 14.00 น. จากนั้นจะกลับมาถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรี ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และคาดว่าจะมีการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี
โดยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ในเวลา 09.30 ตามมาด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางพวงเพชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ
ขณะที่ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาในเวลา 10.19 น. ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากเคยถูกให้พ้นจาก ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เมื่อปี 2564
โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามว่าได้กลับมาอีกครั้งรู้สึกอย่างไร แต่ร้อยเอกธรรมนัส ตอบว่า เฉยๆ
ด้ายนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลพร้อมสวมนาฬิกา Smart Watch สายสีชมพู ซึ่งใส่ประจำขณะลงพื้นที่หาเสียง ก่อนที่กล่าวติดตลกว่าบังเอิญ ตรงกับสีประจำพรรคชาติไทยพัฒนาและสีประจำกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ระบุสั้นๆต่อสื่อมวลชน ว่ารู้สึกตื่นเต้น
ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล โดยขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าก่อนที่จะเดินทางเชื่อมมายังตึกสันติไมตรีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนที่จะยกมือไหว้ทักท้ายสื่อมวลชน และเดินเข้าไปถ่ายรูปทันที
จากนั้นเวลา 11.35 น.คณะรัฐมนตรี ได้เดินขึ้นรถตู้ 9 คัน ออกจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อเดินทางไปที่พระที่นั่งอัมพรสถาน
นายกรัฐมนตรี นำ ครม.ชุดใหม่ แถลงน้อมนำกระแสพระราชดำรัสในหลวง เป็นแนวทางปฏิบัติงาน ย้ำ เป็นรัฐบาลของประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการนำคณะรัฐมนตรี เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า วันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ยืนยัน รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกคนที่มาที่นี่มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน รัฐบาลนี้มีความตั้งใจ ปัญหามีมากมาย เราจะทำงานลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวัน ทุกนาที จะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง โดยวันศุกร์ และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชน มาเป็นเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และวันจันทร์หน้า ที่ 11 กันยายนนี้ จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน ในอนาคต
สำหรับการประชุม ครม. นัดพิเศษในวันพรุ่งนี้ จะพูดคุยเรื่องเดียว คือ การเตรียมตัวแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เมื่อถามถึง การพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในวงรับประทานอาหารเที่ยงวานนี้ ที่ช่วงหนึ่งระบุว่า “งานไหนทำไม่ได้ ให้เปลี่ยนคน” นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่หมายความว่า อะไรที่ทำได้ ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดอยู่บ้างก็ทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยัน ว่า ไม่มีช่วงฮันนีมูน เพราะตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล ก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูล รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน แต่ยังไม่สามารถสั่งการได้ ต้องรอให้แถลงนโยบายรัฐบาลก่อนจึงจะสั่งการได้ และในวันศุกร์นี้จะลงพื้นทีาภาคอีสานเก็บข้อมูลอีก
ส่วนจะนอนพักที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พร้อมระบุว่า ขอดูก่อน
เมื่อถามว่า หากจะให้นายกรัฐมนตรีพูดให้ดังที่สุดหนึ่งประโยคไปถึงประชาชนอยากพูดอะไรที่สุด นายกรัฐมนตรี นิ่งคิด ก่อนกล่าวว่า เป็นอะไรที่ยากถ้าให้พูดประโยคเดียว โดยขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง พวกเราตระหนักถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางความคิด รัฐบาลจะให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม และพยายามเดินไปข้างหน้าจัดการกับปัญหานี้ให้เร็วที่สุด และมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไป เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
"วราวุธ" กราบ "แม่-พี่สาว" หลังได้รับแต่งตั้งรมว.พม. “คุณหญิงแจ่มใส-หนูนา” ให้พร มีสติปัญญาในการทำงานเพื่อชาติ ถึงจุดสูงสุดทางการเมืองเหมือน "บรรหาร"
ก่อนเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวคณะรัฐมนตรี และขึ้นรถตู้ไปเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ในช่วงบ่ายนั้น โดยเมื่อเวลา 09.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เดินทางไปยังบ้านศิลปอาชา ย่านจรัญสนิทวงศ์ เพื่อนำพวงมาลัยไปไหว้ขอพรคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา และนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา พี่สาว เนื่องในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยคุณหญิงแจ่มใส ได้ให้พรกับนายวราวุธ ให้มีสติปัญญาในการทำงาน ให้เจริญในหน้าที่การงาน ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน อายุมั่นขวัญยืนให้มีตำแหน่งสูงขึ้นๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ขณะที่นางสาวกัญจนา อวยพรว่า ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสติปัญญาเฉียบแหลม สามารถทำการงาน ทั้งทางการเมืองและทุกด้านให้สำเร็จลุล่วงทุกอย่าง ขอให้เจริญก้าวหน้าในเส้นทางทางการเมืองอย่างไร้อุปสรรค หรือถ้ามีอุปสรรคก็เอาชนะได้หมดทุกอย่าง ให้มีผู้สนับสนุนค้ำจุนที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะทำงานตรงจุดไหนให้ได้รับความร่วมมืออย่างดี สำเร็จลุล่วงทุกเป้าหมาย ให้ประทับใจคนทั่วไป สามารถช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติให้ได้ทั้งหมด และขอให้เส้นทางทางการเมืองถึงจุดสูงสุดที่พ่อบรรหารเคยเป็น ตัวเองจะคอยช่วยดูแลสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้มีความเจริญรุดหน้า พระคุ้มครอง พ่อบรรหารและแม่แจ่มใสคุ้มครอง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้จนถึงจุดสูงสุดของการเมือง ขอให้น้องรักโชคดี เราทำดีพระย่อมคุ้มครอง ทำงานเพื่อประเทศชาติ ให้เป็นที่รักเอ็นดูของ ผู้ใหญ่ ทำอะไรมีแต่คนสนับสนุน จากนั้นนายวราวุธได้ออกจากบ้านมายังทำเนียบรัฐบาล
ศรภ.ส่งทีมรักษาความปลอดภัยดู “สุทิน” รมว.กลาโหม
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จัดทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ารายงานตัวกับ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ “สนามไชย 1" พร้อมแนะนำทีมดูแลรักษาความปลอดภัยที่บ้านพักส่วนตัว โดย กลับชุดรักษาความปลอดภัย จำนวน2 ชุด รวม 14 นาย ให้สับเปลี่ยนกันเข้าเวรรักษาความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้นายสุทิน เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปติดบัตรปรจำตัวคณะรัฐมนตรีโดยมีรถนำมอเตอร์ไซค์จำนวน 2 คัน และรถปิดท้ายขบวน