จากกรณีโจรถูกจับได้ขณะขโมยกัญชา ชักมีดจะแทงสาวท้อง 8 เดือน แต่สามีกระโดดเข้ามารับมีดปักกลางอกทำให้บาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเกิดเหตุในอ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง ลงพื้นที่หาเบาะแส กระทั่งไปได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นชายที่ นายอนุ อายุ 33 ปี พักอยู่ในซอยซีสาม ห่างจากซอยที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัย ชาวบ้าน ร่วมกันเข้าไปปิดล้อมบ้านพัก โดยทันทีที่ผู้ก่อเหตุเห็นได้หนีออกทางด้านหลังบ้าน แล้วปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างเคียง โดยถือมีดติดตัวไว้ด้วยอย่างน้อย 3 เล่ม และไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้
ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางแรงกดดันจากชาวบ้านจำนวนมากที่ต่างหวาดกลัวเนื่องจากผู้ก่อเหตุเพิ่งไปก่อเหตุฆ่าคนเสียชีวิต ที่สุดเมื่อเวลาเกือบตี 3 พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเตรียมอุปกรณ์ระงับเหตุ ครบมือ ทั้งปืนกระสุนยาง และปืนไฟฟ้า รอจังหวะผู้ก่อเหตุเผลอ เริ่มยิงกระสุนยางใส่ 3 นัด แล้วส่งกำลังบุกจู่โจมเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ แต่กว่าจะควบคุมตัวได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะตอนตำรวจบุกขึ้นไปผู้ก่อเหตุยังถือมีดไว้ในมือ กวัดแกว่งไปมา พร้อมกับตะโกนด่าข่มขู่
เปิดใจภรรยาคนตาย เหยื่อหนุ่มขโมยตัดกัญชา
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางศิริพร ภรรยาของผู้เสียชีวิตที่ตั้งของแปดเดือน ผ่านทางวีดีโอคอล และบอกว่าขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี
ตอนเกิดเหตุนั้นตัวเองกับสามีกลับมาจากซื้อก๋วยเตี๋ยว ขอเข้ามาในซอยก็ขับรถชะลอมาเห็นคนเหมือนยืนทำอะไรอยู่หน้าบ้านของป้าบัวลอง จึงหยุด เพราะอีกสองหลังคาเรือนก็ถึงบ้านตัวเอง ก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุยืนเด็ดใบกัญชาอยู่ นายอานุก็หันมามองพร้อมกับควักมีดออกมาแล้วพูดว่า “พวกมึงเป็นใคร” แล้วก็เอามีดไล่แทงที่สำคัญคือผู้ก่อเหตุพยามเข้ามาแทงนางศิริพรที่กำลังท้องอยู่ด้วย แต่สามีไม่อยากให้สูญเสียลูกจึงพยายามเข้ามาป้องกัน ซึ่งนางศิริพรเล่าให้ทีมข่าวของเราฟังพร้อมน้ำตาเพราะมีนึกว่าจะต้องมาสูญเสียพ่อของลูกไปตั้งแต่ยังไม่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูก
นางสาวศิริพรยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้าผู้ก่อเหตุมาก่อนไม่เคยรู้จักกันและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนแต่น่าจะเป็นเพราะผู้ก่อเหตุมึนเมากัญชา
ตอนนี้แพทย์ได้ทำการตรวจพบว่าลูกในครรภ์ของนางศิริพรยังคงปลอดภัยอยู่ไปก็ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากว่ามีอาการท้องแข็งซึ่งจะต้องคอยตรวจสอบเด็กในครรภ์อยู่ตลอดเวลา เพราะแม่ที่อุ้มท้องเองก็มีอาการบาดเจ็บด้วยเช่นเดียวกัน
เจ้าของห้องพักจุดธูปเรียกคนตายมากินก๋วยเตี๋ยวที่ซื้อเอาไว้ก่อนตาย
นายสมบัติ อายุ 57 เจ้าของบ้านเช่าที่ผู้ตายเช่าพักอาศัยอยู่ นำทีมข่าวช่อง 8 ขึ้นไปบริเวณห้องเช่าของคนตายที่อาศัยอยู่กับภรรยาที่ตั้งของแปดเดือน ซึ่งนายสมบัติบอกว่าสองคนนี้เป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชนและมาเช่าอาศัยอยู่นานกว่าหลายปีแล้ว ตัวเองก็รักและเอ็นดูเหมือนคนในครอบครัว
หลังเกิดเหตุมาดูตอนเช้าก็เห็นว่าก๋วยเตี๋ยวที่นายพรเทพซื้อเอาไว้ยังแขวนอยู่ที่มอเตอร์ไซค์อยู่ จึงนำมาอุ่นใส่ถ้วย วางไว้บริเวณด้านหน้าห้องเช่าของนายพรเทพพร้อมกับจุดธูปหนึ่งดอก เพื่อนเรียกดวงวิญญาณของนายพรเทพให้มากินก๋วยเตี๋ยวที่ตัวเองซื้อเอาไว้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าดวงวิญญาณของนายพรเทพจะสามารถรับรู้ได้ในสิ่งที่เจ้าของบ้านเช่าและคนในชุมชนที่รักและเอ็นดูนายพรเทพทำให้
เจ้าของบ้านเช่าอย่างเปิดเผยอีกด้วยว่าทั้งสองคนมาทำงานโรงงานอยู่ในย่านบางพลีจังหวัดสมุทรปราการแต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตเพิ่งจะตกงานส่วนภรรยาก็ลางาน เพื่อเตรียมคลอด ทำให้ช่วงหลังทั้งคู่ไม่ค่อยมีเงินใช้เท่าไหร่เจ้าของห้องเช่าก็มักจะเรียกทานข้าวอยู่เป็นประจำ
แต่เมื่อคืนช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุนั้นก็เรียกทั้งคู่ลงมาทานข้าวแล้วแต่เชื่อว่าทั้งคู่เกรงใจจึงแอบออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวตอนกลางดึก จนกลับมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ล่าสุดทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อแจ้งมายังเจ้าของห้องพักว่าพรุ่งนี้จะติดต่อขอรับศพและทำพิธีฌาปนกิจศพหรือเผาศพทันที ที่วัดบางโฉลงนอก อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากครอบครัวติดปัญหาขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดงานศพ