"สว. วันชัย" แย้มรัฐบาลอยู่นาน สิ้นปีมีเปลี่ยนแปลงใหญ่ ศิวิไลย์อย่างคาดไม่ถึง บ้านเมืองปรองดอง เปรียบเหมือนหนัง "มนต์รักสีชมพู" หลายฝ่ายทุ่มทุนสร้าง ติงคนติดหล่มพูดรัฐประหารเป็นพวกหลงยุค แนะรัฐบาลเร่งสร้างผลงาน เสียง "ก้าวไกล" จะเป็นเสียงไกลๆ
วันที่ 6 กันยายน 2566 นายวันชัย สอนสิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงแนวโน้มอายุของรัฐบาลใหม่จะสามมรถบริหารอยู่ได้หรือไม่ว่าต้องอยู่ให้ได้และต้องอยู่ให้นาน เพราะถ้าแตกกัน ทะเลาะกันตั้งแต่บัดนี้ แปลว่าแพ้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นด้วยเหตุปัจจัย-สถานการณ์ ตนเชื่อว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะทำงานให้มีผลงานออกมามากที่สุดและเร็วที่สุด ประชาชนยอมรับมากที่สุด เพื่อลดข้อครหาและเพื่อเป็นข้อต่อสู้กับฝ่ายค้านให้ได้ หากอยู่ได้ไม่นานแล้วไป ยุบสภาเร็วเมื่อไหร่ ฝ่ายค้านก็เอาไปกิน
นายวันชัย ยืนยันว่า บ้านเมืองในขณะนี้ ไม่ว่าจะเท่าที่เห็นในปัจจุบันหรือหลักโหราศาสตร์ก็ตาม เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ชนิดที่ประชาชนคนไทยคาดไม่ถึง ที่ตนใช้คำว่าเป็นศิวิไลย์ของประเทศ โดยปลายปี 2566 นี้ เชื่อว่าจะเห็นสิ่งใหญ่ๆ ใหม่ๆ ที่เราคิดไม่ถึง บ้านเมืองจะเกิดความรักความปรองดองกันมากขึ้นชนิดที่เราคิดว่าเปลี่ยนได้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ ดังนั้นหากใครยังติดหล่มกับเรื่องเก่าๆ ยังดูหนังเรื่องแผลเก่าอยู่ต้องเลิกดูได้แล้ว ตอนนี้ต้องดูเรื่องความรักหรือมนต์รักสีชมพูได้แล้ว เชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่จริงๆ
"ผมบอกว่าใครที่ติดอยู่กับหนังเรื่องเดิมๆ บทเดิมๆ คนพวกนี้จะถือว่าตกยุคตกสมัย กาลเวลามาคร่ากินไป ต้องเตรียมดูภาพยนตร์เรื่องใหม่ และมีการอำนวยการสร้างโดยหลายฝ่ายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เป็นความหวังใหม่ของสังคมไทย ผมเองก็พอจะได้ข้อมูลของการสร้างภาพยนตร์เรื่องมีมาบ้าง เพราะฉะนั้นราหูยังต้องไป อย่างที่ผมบอกมันเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองมาถึงวันนี้ไม่ได้"
ส่วนเมื่อถามย้ำว่าแปลว่าหมดยุคของ คสช.แล้วใช่หรือไม่ นายวันชัยกล่าวว่ามันจบไปตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าใครยังถามเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร ก็แปลว่ายังตกยุคอีกเหมือนกันและหากจะปฏิวัติรัฐประหารได้ ก็แปลว่ารัฐบาลชุดนี้ทำให้เกิดขึ้น แปลว่าบริหารงานไม่ดี ทะเลาะกัน แตกแยกกัน หรือมีการโกงกินทุจริตและไม่มีผลงาน ซึ่งเชื่อว่าไม่ต้องรอให้มีการปฏิวัติ ประชาชนก็ลุกขึ้นมาไล่เอง แต่ก็ยังเชื่อว่าเท่าที่ติดตามเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 สิงหาคม พบว่าบ้านเมืองเปลี่ยนแล้ว และมนต์รักสีชมพูก็เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนทิศทางของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีบทบาทเป็นฝ่ายค้านจะเป็นอย่างไร นายวันชัย กล่าวว่า ความเห็นต่างระหว่างวัย เป็นเรื่องที่มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย และต้องถือว่าไม่ใช่ส่วนของความแตกแยก แต่คนสีเหลือง สีแดง อายุเท่ากันแล้วมาทะเลาะกัน ถือเป็นความแยกแตก แตกสามัคคี กลุ่ม นปช. กปปส. อายุเท่ากันแล้วมาทะเลาะกันถือว่าแตกแยก แต่ถ้าคนอายุ 20 กว่า 30 กว่า มีความเห็นต่างระหว่างวัย ไม่ถือว่าเป็นความแตกแยก ดังนั้นดังถือว่าพรรคก้าวไกลไม่ใช่ส่วนของความแตกแยก แต่เป็นความเห็นต่างระหว่างวัย ที่จำเป็นต้องมี แต่ถ้าผู้ใหญ่และรัฐบาลทำงานดี ประชาชนยอมรับ ความเห็นต่างระหว่างวัยก็เป็นเพียงความเห็นเท่านั้น ไม่สามารถสร้างความแตกแยกได้ และถ้าผลงานดี ประชาชนยอมรับมาก เสียงของความเห็นต่างก็จะเบาบางและลดน้อยถอยลงในที่สุด คนก็จะกลับมานิยมชมชอบรัฐบาลที่สร้างผลงานเป็นที่ปรากฏ และมีผู้แสดงใหม่ๆ นายกฯคนใหม่ เชื่อว่านำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง แล้วเปลี่ยนแปลงคู่ขัดแย้งรวมทั้งพรรคก้าวไกลไปด้วย เสียงของก้าวไกลในที่สุดก็จะเป็นเสียงไกลๆ แต่ไม่ใช่เสียงที่มากระหึ่มกึกก้องเหมือนตอนการเลือกตั้งที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าการแถลงนโยบายของนายเศรษฐา มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ซ้ำรอยกับนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในประเด็จทุจรติเชิงนโยบายหรือปัญหาการบริหาร นายวันชัยกล่าวว่าบาดเจ็บลึก สาหัส สากรรจ์มา 20 ปี มีคนบาดเจ็บ ล้มตาย มีคนติดคุกติดหนีไปต่างประเทศอยู่แผ่นดินนี้ไม่ได้ ถ้ายังไม่สำนึก ยังไม่นำบทเรียนนี้ในอดีตมาใช้ แปลว่าไม่ต้องผุดต้องเกิดกันอีกแล้ว ตนเชื่อว่าความสาหัสสากรรจ์ดังกล่าวจบไปแล้ว และคนไม่มีใครเอาเรื่องนี้หรือบทเรียนในอดีตมาทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะเจ็บทั้งตัว แตกแยกทั้งแผ่นดิน สร้างรอยร้าวลึกให้กับสังคม ซึ่งไม่ควรจะมีอีกแล้ว และเท่าที่ตนทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม จะเป็นปฐมบทของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ และปัญหาดังกล่าวจะจบไปจากประเทศไทย
นายวันชัย ยังกล่าวถึงผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ว่ามีหลายคนหลายฝ่าย หากดูจากการโหวตเลือกนายกฯก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ดี การกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร ก็ดี แปลว่าผู้อำนวยการสร้าง ผู้แสดง ผู้กำกับ ประกอบกันหลายส่วน หลายคน หากสร้างกันขนาดนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่คนดู หรือเจ๊ง ก็ไม่ควรสร้าง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่การเทหมดหน้าตัก แต่การเป็นการเททั้งชีวิต จิตใจ อนาคต และตนก็เป็นส่วนแสดงเล็กๆ
เมื่อถามย้ำว่าผู้อำนวยการสร้างอยู่โรงพยาบาลใช่หรือไม่ นายวันชัย หัวเราะพร้อมกล่าวว่าไม่เกี่ยวกับโรงพยาบาลและย้อนต่อว่าสื่อมวลชนว่าถามเกินไป พร้อมย้ำว่าภาคนี้จะเป็นภาคสุดท้ายและจะจบอย่างสวยงามตามท้องเรื่อง ทุกคนที่สู้กันมา 20 ปี นึกไม่ถึงว่าจะจบอย่างนี้ และตนก็อยู่มาหลายเหตุการณ์ก็ยังนึกไม่ถึง เพราะฉะนั้นตนยังเขียนในเฟซบุ๊กว่าอิทธิฤทธิ์ของพระสยามเทวาธิราชมีอยู่จริง ทำให้ประเทศไทยอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้และเดินหน้าได้ต่อไปได้