วันที่ 6 ก.ย. 2566 จากกรณีนายอานุ ขโมยเด็ดกัญชา แล้วนายพรเทพ พานางศิริพร ภรรยา ขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนกันมา โดยภรรยาท้อง 8 เดือน ขณะที่นายพรเทพถามนายอนุว่ามาทำอะไร ปรากฏว่า นายอนุไม่พูดพร่ำทำเพลงจะเอามีดแทงภรรยา แต่นายพรเทพขวางเอาไว้จนตัวเองเสียชีวิต

ทีมข่าวช่อง 8 ได้วิดีโอคอลไปพูดคุยกับภรรยาของนายพรเทพที่โรงพยาบาล ทำให้ทราบว่า หลังเกิดเหตุการณ์สุดช็อก ฝ่ายหญิงเกิดเจ็บท้อง เหมือนจะคลอดลูกก่อนกำหนด ขณะที่ศพของสามีก็นำออกมาไม่ได้เพราะไม่มีเงิน

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวของนายพรเทพ ได้นิมนต์พระสงฆ์มายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ โดยมีแม่ของนายพรเทพและเพื่อนของนายพรเทพที่อาศัยอยู่ในชุมชนมาร่วมทำพิธีด้วย

ระหว่างที่พระสงฆ์กำลังทำพิธี มีช่วงจังหวะหนึ่งที่จู่ๆ ขันน้ำมนต์ที่พระสงฆ์กำลังใช้ประพรมบริเวณจุดที่นายพรเทพเสียชีวิต เกิดหลุดจากมือพระคว่ำลงกับพื้น จนพระสงฆ์รวมถึงคนที่มาร่วมทำพิธียังตกใจ

นางสำลี รักษ์มณี เจ้าของห้องเช่าที่นายพรเทพเช่าอาศัยอยู่บอกว่าเมื่อตอนเช้าที่กำลังทำพิธีอยู่นั้นตัวเองก็รู้สึกตกใจมากที่หยุดอยู่ขันน้ำมนต์ก็คว่ำ ซึ่งตามความเชื่อก็เชื่อกันว่า วิญญาณของนายพรเทพยังไม่อยากจะไปไหน เพราะเป็นห่วงลูกและเมีย ตอนที่นายพรเทพยังมีชีวิตอยู่เคยบอกกับนางสำลีว่า จะอยู่เลี้ยงลูกที่นี่ ซึ่งการที่นายพรเทพเสียชีวิตกะทันหันแบบนี้ดวงวิญญาณอาจจะยังไม่รู้ตัว และคงไม่อยากจะถูกเชิญไปไหน จนกว่าลูกและเมียจะกลับมา

นางสำลี ยังบอกอีกด้วยว่า การพี่นายพรเทพยอมเสียชีวิตเองนี้ เหมือนเป็นการเอาหนึ่งชีวิตแลกสองชีวิต คือชีวิตลูกกับเมีย นายพรเทพเป็นคนรักลูกรักเมียมาก และเป็นคนดีที่มีชีวิตน่าสงสาร เนื่องจากว่าตกงานช่วงโควิด พอจะหางานทำใหม่ ทราบว่าเมียท้องก็รักลูกในท้องมาก เนื่องจากเป็นลูกคนแรก จึงไม่อยากจะไปทำงานก่อน กลัวว่าเดี๋ยวเมียคลอดแล้วไม่มีคนดูแล ไม่นึกว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ด้านนางสาวอัชรี เพื่อนของนางศิริพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุนางศิริพรก็ยังตัดพ้อฟูมฟาย บอกว่าตัวเองเป็นสาเหตุทำให้สามีต้องเสียชีวิต เนื่องจากสามีพยายามเข้ามากันไม่ให้คนร้ายแทงตัวเอง แต่กลับทำให้ผัวโดนแทงเสียเอง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมานางศิริพรบอกว่า อยากจะมางานศพสามีด้วยตัวเอง ซึ่งได้บอกกับนางศิริพรไปแล้วว่า ขอให้รักษาตัวเองให้ดีก่อน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่สาวของนางศิริพร ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า นางศิริพรได้คลอดลูกแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05:00 น. ซึ่งวันที่คลอดลูกวันนี้เป็นวันที่เผาศพนายพรเทพผู้เป็นพ่อ ทำให้นางศิริพรไม่สามารถมาร่วมงานศพได้ เพราะเพิ่งจะคลอดลูกออกมาได้ไม่ถึง 12 ชั่วโมง

ด้านศพของนายพรเทพ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้นำมาประกอบพิธีกรรมที่วัดบางพลีใหญ่กลาง จังหวัดสมุทรปราการ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางศิริกุล แม่ของนายพรเทพ ผู้เสียชีวิต บอกว่า ทันทีที่ทราบข่าวหัวใจแม่สลาย ตัวแม่เองก็ลำบาก ไม่ได้มีเงินมากนัก จึงขอยืมเงินเพื่อนขึ้นรถโดยสารประจำทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ดเพียงลำพังคนเดียว เนื่องจากที่บ้านมีฐานะยากจน จึงอยากจะรีบทำพิธีฌาปนกิจลูกชายก่อนที่จะนำกระดูกกลับไปทำบุญที่บ้านเกิดจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

แม่ของนายพรเทพ ร้องไห้บอกว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชาย ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายเพิ่งโทรไปบอกว่า ตอนนี้กำลังจะได้ลูกแล้ว อยากจะให้แม่ช่วยมาเลี้ยงหลานให้หน่อย ในเดือนตุลาคมที่กำลังจะคลอดตามกำหนดเดิมนี้ ซึ่งแม่ก็รับปากว่าจะมาเลี้ยงหลานให้ และรู้สึกได้เลยว่าลูกชายคนนี้เห่อลูกในท้องเป็นอย่างมาก

เนื่องจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีฐานะยากจน ทีมข่าวจึงประสานไปยังเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ซึ่งทางเจ้าเอาวาดวัดได้ให้ความอนุเคราะห์ให้มาประกอบพิธีฌาปนกิจโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ทางวัดเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช่จ่ายเองทั้งหมด

ขณะที่ ทีมข่าวของเรา ได้พูดคุยกับแม่ของนายพรเทพพร้อมยื่นมือไปให้การช่วยเหลือ เนื่องจากแม่ของนายพรเทพยังไม่มีเงินกลับบ้านเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด และยังไม่มีเจ้าภาพจัดงานทำบุญกระดูกที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทางทีมข่าวช่อง8 โดยคุณพุทธ อภิวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายข่าวช่อง 8 ได้ร่วมสนับสนุนค่าเดินทางกลับร้อยเอ็ด และเป็นเจ้าภาพจัดงานทำบุญศพที่จังหวัดร้อยเอ็ดด้วย

ด้านแม่ของนายอานุ ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามายกมือไหว้ขอโทษแม่ของนายพรเทพ ซึ่งแม่ของนายพรเทพก็ได้พูดคุยด้วยความเข้าอกเข้าใจในหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกัน และบอกว่าไม่ได้โคตรติดใจเอาความอะไรครอบครัวของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากทราบดีว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช

ด้านแม่ของนายอานุ เปิดเผยว่าคงไม่มีคำพูดไหนพูดได้ดีไปมากกว่าคำว่าขอโทษ และนับว่าแม่ของผู้เสียชีวิตเป็นคนที่มีจิตใจกว้างมากที่ไม่ถือสาเอาความอะไร

ส่วนลูกชายตัวเองนั้นก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ถ้าหากสมมุติว่าจะต้องออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ก็อยากจะร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปรักษา เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบกับเพื่อนที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน