จากกรณีหญิงคนหนึ่ง ชื่อ นางหญิงน้อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บโหนกแก้มด้านซ้าย มีบาดแผลเลือดไหลอาบหน้า เป็นชาวไทใหญ่ อยู่บ้านสันป่าตึง ต.แสนไห อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
โดยหญิงน้อยได้แต่งงานอยู่กินกับนายสุ อายุ 46 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาทราบว่านายสุ สามีได้ไปมีความสัมพันธ์ กับนางเล็ก อายุ 40 ปี (ภรรยาอีกคน) ชึ่งเป็นเพื่อนกันกับหญิงน้อย และมีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันมาปีกว่าแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่นายสุกับนางเล็กมีความสัมพันธ์กัน ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งตบตีกับหญิงน้อยเรื่อยมา
กระทั่งเมื่อนายสุ มาอยู่ที่บ้านหญิงน้อย ทางนางเล็กก็จะมาตามหานายสุ โดยยืนอยู่นอกรั้ว ตะโกนด่าหญิงน้อยต่างๆ นานา ทำให้วันที่ 4 ก.ย. 2566 หญิงน้อยไปตามหานายสุที่บ้านของนางเล็ก เพื่อขอโทรศัพท์มือถือจากนายสุที่เอาของลูกสาวไปคืนมา โดยยืนอยู่นอกรั้วบ้าน ซึ่งทำให้นางเล็กไม่พอใจ และเดินออกมาหาจึงเกิดการทะเลาะตบตีกัน พร้อมกันนี้นางเล็กได้ลากหญิงน้อยเข้าไปในบ้าน จากนั้นนายสุและลูกชายของนางเล็ก ก็เข้ารุมสกรัมหญิงน้อย แล้วถูกฟันเข้าที่โหนกแก้มเลือดไหลอาบ ชาวบ้านใกล้เคียงได้ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
นางหญิงน้อย เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ก่อนหน้านี้นางเล็กก็เป็นเพื่อนกับตนเองที่โตมาด้วยกันในหมู่บ้านตั้งแต่เด็กๆ ส่วนพฤติกรรมที่นายสุสามีแอบไปคบกับนางเล็ก เท่าที่รู้เขาแอบคบหากันมาประมาณ 2 ปี แต่ตนเองเพิ่งจะมาจับได้เมื่อประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากจับได้ ตนเองก็ถามสามีว่าจะมีเมียสองคนไม่ได้นะ ต้องเลือก แต่ปรากฏว่า สามีไม่ยอมเลิกกับนางเล็ก โดยให้เหตุผลว่า อยากมีเมียสองคน ที่สำคัญนายสุยังเคยขู่ตนเองไว้ว่า หากเอาเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร ก็จะไม่แบ่งที่ดินทำกินให้ ตนเองก็เลยปล่อยเลยตามเลยมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ในขณะที่นายสุไปหานางเล็ก เขาดันหยิบโทรศัพท์ของลูกติดตัวไปด้วย ตนเองก็เลยเดินไปที่บ้านนางเล็กเพื่อจะขอโทรศัพท์กลับไปให้ลูก จากนั้นเมื่อไปถึง ตนเองก็ถามกับนายสุว่าจะกลับบ้านไหม ทำไมไม่กลับบ้าน ถ้าไม่กลับก็เอาโทรศัพท์ลูกคืนมา แต่ปรากฏว่า จู่ๆ นางเล็ก ซึ่งเป็นเมียน้อยก็เดินออกมาขว้างรองเท้าบูทใส่ขาจนตนเองล้มไปกับพื้น จากนั้นนางเล็กกับสามีก็ลากตนเองเข้าไปรุมทำร้ายในบ้าน โดยลูกของนางเล็ก เอาไม้มาตีที่ขา ส่วนสามีเอาไม้มาตีที่แขน จากนั้นนางเล็กก็ใช้มีดฟันที่หัวคิ้วจนได้รับบาดเจ็บแล้วก็ไม่รู้ว่าใครพาไปส่งโรงพยาบาล
ทีมข่าวชได้ถามกับนายสุ ว่าไปช่วยนางเล็กทำร้ายร่างกายเมียหลวงจริงหรือไม่ โดยนายสุชี้แจงว่า ตอนเกิดเหตุตนเองอยู่บ้านนางเล็กจริง กระทั่งประมาณ 6 โมงกว่าๆ นางหญิงน้อยซึ่งเป็นเมียหลวงก็โทรศัพท์เข้ามา แต่ตนเองไม่ได้รับสาย จากนั้นนางหญิงน้อยก็ได้เดินมาที่บ้านนางเล็ก เพื่อเรียกตนเองกลับ ยืนยันตอนเกิดเหตุตนเองไม่ได้ช่วยตีเมียหลวง ซึ่งตอนเกิดเหตุเท่าที่เห็นเมียทั้งสองคนชุลมุนกันอยู่หน้าบ้าน ส่วนที่นางหญิงน้อย อ้างว่า ตอนเกิดเหตุมีลูกของนางเล็กเข้ามารุมทำร้ายด้วย ยืนยันว่าตนเองไม่เห็น
ที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่มีเมียสองคน ยืนยันว่า นางเล็กไม่เคยยุแยงให้ตนเองทิ้งนางหญิงน้อยเพื่อไปอยู่กับเขาซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองยืนยันว่า ไม่ได้หนีไปไหน ที่ขับรถออกจากบ้าน ตนเองไปโรงพยาบาลมา และวันนี้ก่อนนักข่าวจะมาถึง ตนเองยืนยันว่าขอโทษทุกคนในบ้านไปแล้วที่เป็นต้นเรื่องให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา
โดยทีมข่าวถามว่า หลังจากนี้จะทำยังไงต่อไป จะเลิกกับนางเล็กหรือไม่ ปรากฏว่า นายสุยืนยันเสียงแข็งว่า "ผมเลิกไม่ได้ ผมอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน "
ต่อมา ทางตำรวจก็ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ และเริ่มจำลองเหตุการณ์ โดยให้นางหญิงน้อยเดินมาจากบ้าน จากนั้นเมื่อเดินมาถึงก็ให้นางหญิงน้อย ชี้ว่าตอนเกิดเหตุอยู่ตรงไหน ซึ่งนางหญิงน้อยก็ชี้ว่ายืนอยู่ที่หน้าบ้าน แต่ปรากฏว่าระหว่างชี้ก็เกือบจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากนางเล็กทนไม่ได้ที่นางหญิงน้อยพูดให้ตำรวจฟังฝ่ายเดียว ทางตำรวจจึงจับทั้งสองคนแยกออกจากกัน โดยขอให้ทางนางหญิงน้อยจำลองเหตุการณ์ก่อน ซึ่งหลังจากแยกกัน นางเล็กก็ไปนั่งคู่กับนายสุ ดูการจำลองเหตุการณ์ในบ้าน
จากนั้นเมื่อจำลองเหตุการณ์ทางฝั่งเมียหลวงเสร็จ ทางตำรวจก็ปิดประตูรั้ว และขอให้ทางญาติเมียหลวงไปรอที่โรงพัก เนื่องจากต้องให้นางเล็ก และนายสุจำลองเหตุการณ์บ้าง ซึ่งในการจำลองเหตุการณ์ นางเล็กก็ชี้ให้ตำรวจดูว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่กับนายสุ ที่หน้าบ้าน กระทั่งเมื่อนางหญิงน้อยมาถึง ก็ถูกนางหญิงน้อยตะโกนด่าก่อน ซึ่งนางเล็กทนไม่ไหวก็เลยหยิบรองเท้าบูทขว้างใส่นางหญิงน้อย ซึ่งนางเล็ก ยืนยันกับตำรวจว่า ตอนนางหญิงน้อย เดินมาที่บ้าน นางหญิงน้อยพกอาวุธติดตัวมาด้วย ก็เลยเกิดเหตุการชุลมุนกันเกิดขึ้น
ต่อมาเป็นการจำลองของนายสุ ซึ่งนายสุก็บอกตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่หน้าบ้าน พอเมียทั้งสองคนตีกัน ตนเองก็ยืนดู โดยปฏิเสธกับตำรวจว่าไม่ได้ร่วมรุมทำร้ายเมียหลวง
โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงเคยมีการทำสัญญาข้อตกลงร่วมกัน โดยมีใจความระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะไม่ไปยุ่งและหาเรื่องกันและกัน หากใครผิดข้อตกลงจะถูกอีกฝ่ายดำเนินคดี และบอกว่าจะอยู่ด้วยกัน 3 คนโดยไม่ทะเลาะกัน แต่เกิดเหตุการณ์ด่าทอกันหยาบคาย นางเล็กจึงอ้างว่ารู้สึกฟิวส์ขาดจนขว้างรองเท้าใส่ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เอามีดฟันนางหญิงน้อย
ด้านนางเล็ก ซึ่งเป็นคนไทย บอกว่า เมื่อก่อนเคยยืนยันตกลงกันว่าจะไม่มารังควาน แต่หญิงน้อยก็มารังควานด่าทอ ที่ผ่านมายอมรับว่านายสุมาหาที่บ้าน แต่ตนไม่เคยกั๊กให้นายสุอยู่กับตัวเอง ไม่ไปหาหญิงน้อยแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น หากนายสุจะเลือกมีเมียทั้งสองคนตนก็ไม่ติดใจ