จากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา คนร้ายก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนจ่อยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ตำแหน่ง สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กระสุนถูกเข้าทั่วร่างกาย กว่า 7 นัด เสียชีวิต 1 นาย และ คนร้ายยังยิง พ.ต.ท.วศิน พันปี ตำแหน่งรองผู้กำกับการ 2 ก็บังคับการตำรวจทางหลวง กระสุนถูกเข้าที่บริเวณแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย เหตุเกิดบริเวณบ้านของ กำนันนก
โดยก่อนเกิดเหตุ 2 นายตำรวจทางหลวงที่ถูกยิง ได้รับการติดต่อนัดหมายจาก กำนันนก ที่เป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ให้มาทานข้าว อ้างว่าอยากทำความรู้จักเพราะตำรวจทั้งสองนายปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่เมื่อมาถึง กำนันนก ได้เปิดการเจรจากับสองนายตำรวจ เพื่อต้องการให้ช่วยเหลือวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งให้พรรคพวกของกำนัน ที่อยู่ในสายงานสังกัดของ พ.ต.ต.ศิวกร (ผู้เสียชีวิต ) แต่ถูกปฏิเสธจากนายตำรวจที่เป็นคนตรงไปตรงมา กำนันนก จึงเกิดความไม่พอใจจนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ กำนันนก จะลุกออกจากโต๊ะอาหารไปด้วยท่าทีโกรธไม่นานนักก็มี นายธนัญชัย มั่นมาก หรือ หน่อง อายุ 45 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นลูกน้องของกำนัน เดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารที่ตำรวจสองนายนั่งอยู่ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ตำรวจและหลบหนีไปทันที ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติออกหมายจับ นายหน่องแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัว
กำนันนก มอบตัวแล้วไม่ยอมปริปากพูดสาเหตุยิงสารวัตรเสียชีวิต
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.20 น นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับทนายความโดยเมื่อมาถึงที่สภ.เมืองนครปฐม ด้วยรถเก่งวีออส สีขาว กำนันนกสวมเสื้อสีขาวมีใบหน้าอิดโรย นั้งอยู่ด้ายซ้ายของรถ และเมื่อรถจอดพันตำรวจเอกพรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการกองปราปบราม ไปเปิดได้เข้าไปเปิดประตูและดึงตัวลงมาจากรถทันที
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกำนันนก แต่กำนันนกปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ก่อนเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเข้าไปห้องงานสืบสวนสภ. เมืองนครปฐมทันที ซึ่งต่อมาพ่อและแม่ของกำนันกเดินทางตามมาที่สภ.เมืองด้วย
กำนันนก เขียนจดหมายให้ทนายยื่นต่อตำรวจ ก่อนมอบตัว ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนวงการให้ “หน่อง” ยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต
ตำรวจได้นำหลักฐานในที่เกิดเหตุ ประกอบไปด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะและแก้ว นำมาที่สภ.เมืองนครปฐม เพื่อนำมาตรวจสอบพยานหลักฐานประกอบในสำนวนคดี
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับทนายความนั้น ทางทนายความได้ยื่นหนังสือต่อ ผู้กำกับสภ.เมืองนคนปฐม โดยมีใจความประมาณว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยไม่ได้ยุยงหรือให้นายหน่องก่อเหตุยิงสารวัตรทางหลวง
ตำรวจออกหมายจับ กำนันนก พร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักแต่ไร้เงา เชื่อหลังก่อเหตุกำนันและนายหน่องกลับมาที่บ้านก่อนหลบหนี
ต่อมาในช่วงบ่าย ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นายประวีณ หรือ กำนันนก ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจากตำรวจภูธรภาค7 และตำรวจสอบสวนกลาง และชุดหนุมาน นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายประวีณ ในหมู่1 บ้านดงยาง ตำบลตากล้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อติดตามตัวกำนันนกและตรวจค้นเพื่อหาหลักฐาน วัตถุพยาน เพิ่มเติม
ภายหลังการตรวจค้น ประมาณ 1ชั่วโมง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า จากการตรวจค้นไม่พบตัวของกำนันนก มีเพียงครอบครัวและญาติ รวมถึงลูกๆ อยู่ภายในบ้านพักแต่ไม่ตอบว่าพบปืนหรือพยานหลักฐานใดภายในบ้านพักหรือไม่
ทั้งนี้ ชุดตรวจค้น ระบุอีกว่า หลังเกิดเหตุ กำนันนก และนายธนัชชัย หรือ หน่อง มือปืนภายหลังก่อเหตุยิงตำรวจทางหลวง ทั้งสองคนได้เดินทางกลับมาที่บ้านหลังดังกล่าวสักระยะหนึ่ง ก่อนจะหลบหนีออกไปทั้งสองคน และจากการตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนสั้นหนึ่งกระบอก แต่มีทะเบียนอยู่ระหว่างการนำไปตรวจสอบซึ่งคาดว่าจะไม่ใช่กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบ้านของกำนันนกมีสระว่ายแบบพูลวิลล่า มีการทำที่จอดรถเป็นห้องกระจก คล้ายโชว์รูมรถ ซึ่งภายในมีรถหรูหลายคันจอดอยู่ ทั้งรถเบนท์ลีย์ รถมินิ รถเบนซ์ นอกจากนี้ ยังมีรถบดถนน