จากกรณีที่หญิงวัย 63 ปี ร้องเรียนมาว่า ถูกสามีพาเด็กหนุ่มอีกคนเข้ามาอยู่ที่บ้าน คบหาเชิงชู้สาวกัน ทำให้ต้องอยู่กันด้วยกัน 3 คนในบ้านเดียวกัน บางทีก็เห็นสามีกับเด็กหนุ่มไปแก้ผ้าอาบน้ำในห้องเดียวกัน นอนกอดกัน

ล่าสุด ทีมข่าวไปที่บ้านของผู้ร้องเรียน แต่ไม่เจอหญิงวัย 63 ปี ที่เป็นผู้ร้องเรียน

สอบถามนายวิสุทธิ์ นามสมมติ สามีที่ถูกกล่าวหาว่าคบชู้กับชายหนุ่มที่ชื่อ สุพจน์ นามสมมติ วันนี้ทั้งคู่พร้อมเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 โดยนายวิสุทธิ์บอกว่าตัวเองมีปัญหากับภรรยาคนนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากภรรยามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่สนใจสามี และไม่ยอมดูแลตัวเองด้วย

และเมื่อทีมข่าวถามว่า ที่ภรรยาร้องเรียนมาอ้างว่านายวิสุทธิ์มีพฤติกรรมรถสนิยมทางเพศเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ก็เป็นเพราะตัวภรรยานั่นแหละ แต่ยืนยันว่าเรื่องที่ตัวเองคบชู้กับชายหนุ่มหรือว่านายสุพจน์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริง เพราะตัวเองมองว่านายสุพจน์เป็นเหมือนลูกอีกคนนึงและอยู่กันแบบคนในครอบครัวเดียวกัน

ที่ผ่านมา พยายามอดทนใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่กับภรรยามาโดยตลอด แม้ว่าจะอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็ตามแต่ก็พยายามไม่ยุ่งกัน แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกว่ารับไม่ได้ หลังจากนี้ก็คงต้องหย่าร้างกันจริงๆ และใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่

ด้านนายสุพจน์ ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับสามีคนอื่น บอกกับทีมข่าวว่า ตัวเองเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เนื่องจากคุณรู้จักกับนายวิสุทธิ์ตั้งแต่สมัยที่วาดภาพ จนเมื่อปี 2563 ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายวิสุทธิ์และนายวิสุทธิ์บอกว่าป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ในฐานะคนรู้จักและสนิทกันจึงอาสาไปช่วยดูแล

จังหวะนั้นเป็นช่วงที่มีสถานการณ์โควิดพอดี ทำให้ตัวเองไม่มีงานจึงขอมาอาศัยอยู่ที่บ้านกับนายวิสุทธิ์ โดยจ่ายค่าเช่าบ้านให้ด้วย ช่วงนั้นคนในบ้านซึ่งมีทั้งนายวิสุทธิ์ ภรรยานายวิสุทธิ์ และลูกชายรวมถึงลูกสะใภ้ทุกคนติดโควิดทั้งบ้าน ยกเว้นตัวเอง

นายสุพจน์จึงทำหน้าที่ช่วยดูแลคนในบ้านจนผ่านพ้นช่วงที่ติดโควิด รวมถึงช่วยดูหลานของนายวิสุทธิ์ที่อายุหนึ่งขวบด้วย จึงได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านนี้ถาวรแบบลักษณะกับคนในครอบครัวเดียวกัน

ส่วนเรื่องที่ผู้ร้องเรียนอ้างว่า ทั้งคู่อาบน้ำด้วยกันนอนกอดกันนั้น นายสุพจน์บอกว่า อาจจะเป็นจริง แต่เป็นลักษณะของพฤติกรรมแบบลูกผู้ชายไม่ใช่เชิงชู้สาว

ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มีรสนิยมทางเพศแบบชอบเพศเดียวกัน และที่มาอาศัยอยู่ก็เพราะสนิทกัน นับถือกันเป็นพ่อลูกจริงๆ ถ้าหากวันนี้จะให้เรื่องจบแล้วตัวเองออกจากบ้านหลังนี้ก็ยินดี แต่ต้องเป็นฝ่ายนายวิสุทธิ์ที่ขอให้ออก ขณะที่นายวิสุทธิ์ก็พูดออกมาเลยว่าไม่อยากให้ไปไหน

นอกจากนี้ นายสมปอง นามสมมติ อายุ 36 ปี ลูกชายของผู้ร้องเรียน เปิดใจกับทีมข่าวบอกว่า พอทราบเรื่องที่คุณแม่พยายามไปร้องเรียนมาได้สักพักนึงแล้ว และคุณพ่อกับคุณแม่ก็มีปัญหากันมานานกว่า 10 ปี แต่เรื่องราวก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่คุณแม่พูดทั้งหมด เพราะตัวเองก็อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย

นายสมปอง ยอมรับว่า ในระยะหลังคุณพ่อมีพฤติกรรมเกี่ยวกับรถสนิยมทางเพศเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ยืนยันว่านายสุพจน์ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่กับพ่อนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเหมือนอย่างที่แม่เข้าใจผิด แต่เป็นคนสนิทคนนึงที่นับถือเหมือนเป็นคนในครอบครัว เพราะนายสุพจน์เข้ามาช่วยดูแลคนในครอบครัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พ่อป่วยหรือไม่สบาย

ที่ผ่านมา พ่อกับแม่มีปัญหาถึงขั้นจะหย่าร้างกันมาหลายครั้ง แต่เนื่องจากคุณพ่อเป็นอดีตข้าราชการบำนาญ การหย่าร้างกันอาจจะทำให้แม่เสียสิทธิ์การรักษาพยาบาล แต่ในทางพฤติกรรมนั้นพ่อกับแม่แยกกันนอนคนละห้องมานานกว่า 10 ปีแล้ว

ตัวเองไม่ได้อยากจะมาเข้าข้างพ่อกับนายสุพจน์ที่เข้ามาอยู่ในครอบครัว แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องชู้สาวจริง แต่เป็นการดูแลเอาใจใส่กันเหมือนคนในครอบครัวมากกว่า อาจจะทำให้แม่คิดเกินเลย