คุมตัว กำนันนก ฝากขัง คัดค้านประกันตัว

วันนี้ช่วงเวลาประมาณ 09.10 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม 3 นาย เข้าไปทำการเบิกตัว นายประวีณ จันทร์คล้าย” หรือ “กำนันนก” เพื่อเจรียมนำตัวฝากขังหลังพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัว ผู้ต้องหาไว้เพียง 48 ชั่วโมง พร้อมคัดค้านการให้ประกันตัวในขั้นพนักงานสอบสวน

จาดนั้นในช่วงเวลา 09.40 น. ใช้เวลา 30 นาที ชุดปฏิการพิเศษหนุมาน กองปราบ นำตัวกำนันนก ออกจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อส่งต่อศาลเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขัง

ทันทีที่ออกจากห้องคุมขัง เพื่อเดินขึ้นรถ กำนันนกมีสีหน้าเคร่งเคลียด สื่อมวลชนพยายามสอบถามว่ายังคงยืนยันอยู่หรือไม่ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ กำนันนกนิ่งเฉยและไม่ตอบคำถามใดๆ

เปิดคำร้องคัดค้านประกันตัว กำนันนก

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 84 ชั้นสอบปากคำและจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องหาปฏิเสธข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก 30 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาอื่น ๆ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว จึงขอหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 9-20 ก.ย.66

 

ท้ายคำร้องหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกำนัน ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม มานานประมาณ 9 ปี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปกครองมีอำนาจหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดและมีอำนาจสืบสวนเฉพาะในเขตพื้นที่ของตน แต่กลับกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพลมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่

สามารถโน้มน้าวชักชวนให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และระดับต่าง ๆ รวมถึงข้าราชการอื่นมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างบารมีของตน ซึ่งบางนายอยู่ในที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ อีกทั้งสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติ มีการใช้อำนาจบารมีขอให้ผู้ตายย้ายข้าราชการตำรวจที่ตนรู้จัก

เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จึงมีพฤติกรรมอุกอาจใช้ให้ผู้อื่นยิงผู้ตายซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่อหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายนาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ภายหลังเกิดเหตุยังได้มีการสั่งให้ทำลายพยานหลักฐานโดยการล้างคราบเลือด เก็บปลอกกระสุนปืน ถอดเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดและหลบหนีไป

ประกอบกับเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึงประหารชีวิต และพนักงานสอบสวนจำต้องทำการสอบสวนสอบพยานที่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหลายปาก หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่า จะเป็นอุปสรรคหรือเกิดความเสียหายต่อการ สอบสวนผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยานหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังได้

ด้าน นายเชาว์ แก่นสวาท ทนายของกำนันนก เปิดเผยสั้น ๆ ว่า วันนี้ไม่มีการยื่นประกันตัวกำนันนก เพราะเจ้าตัวไม่ประสงค์จะขอประกัน โดยไม่ระบุเหตุผล

คาดการณ์ กำนันนก อาจสู้คดีเรื่องแสงไฟและอาวุธปืน

รายงานข่าวระบุว่า กำนันนก อาจจะสู้คดีกรณียิงสารวัตรแบงค์โดยเรื่อง แสงไฟในที่เกิดเหตุบริเวณบ้านกำนันนก, เรื่องอาวุธปืนที่หายไป และอาวุธที่ใช้ก่อเหตุยิงสารวัตรแบงค์เสียชีวิต, พยานแวดล้อม ซึ่งเป็นตำรวจ

โซเชียลเทียบหน้า กำนันนก ก่อนถูกจับและหลังถูกจับแค่วันเดียว

โซเชียลตั้งข้อสงสัย ถึงหน้าตาของ “กำนันนก” พร้อมโพสต์ข้อความว่า “สงสัย อีกนิด 1.ทำไมตอนเกิดเหตุกำนันไว้หนวด แต่ตอนมอบตัวโกนหนวด คนที่กำลังหนี มันไปโกนหนวดตอนไหน เท่าที่ดูภาพเก่าๆ กำนันไม่เคยโกนหนวด และ กำนันสูง 180 แต่ตอนมอบตัวสูง185”

พยานในเหตุการณ์งานเลี้ยงกำนันนกเขยกำนันนกและพันตำรวจตรีศิวกรมีปากเสียงกันจริงก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ข้อมูลอีกว่า มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ปากคำกับตำรวจระบุว่า ทั้งกำนันนกและพันตำรวจตรีศิวกร มีปากเสียงเรื่องก่อนหน้านี้มีการจับกุมรถบรรทุกดินของกำนันนก โดย "กำนัน" ได้เอ่ยปากขอให้รถบรรทุกสามารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ และขอวิ่งผ่านทางได้ตามปกติ โดยขอไม่ให้ตำรวจทางหลวงจับกุม แต่ทางพันตำรวจตรีศิวกรตอบไปว่าไม่สามารถทำได้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ยังคงอยู่ระหว่างการที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุยังให้การไม่ตรงกัน

กำนันนกกลัวถูกเก็บสั่งห้ามประกัน คนสงสัยจับคนหน้าเหมือน?