วันที่ 10 ก.ย. 2566 ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัดจากบ้านกำนันนก ซึ่งคาดว่าเป็นวินาทีในการสังหารสารวัตรแบงค์หรือไม่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 เวลา 21.26 น.

ทีมข่าวลงพื้นที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า หลังเสียงปืนดังขึ้นเวลา 21.26 น. จากนั้นเพียง 2 นาที คือ 21.28 น. มีรถออกจากที่เกิดเหตุ
21.35 น. มีขบวนรถกำนันนกมุ่งหน้ากลับบ้าน
21.41 น. ตำรวจท้องที่ได้รับแจ้งเหตุ
21.46 น. ตำรวจนำคนเจ็บส่ง รพ.
22.12 น. ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทีมข่าวยังได้ภาพวงจรปิดมาเพิ่มด้วย เป็นเวลา 21.34 น. ของวันเกิดเหตุ นอกจากจะเห็นรถกระบะสีดำในขบวนของกำนันนกกลับรถผ่านไป มีรถของกำนันนกเป็นคันที่ 2 และมีจักรยานยนต์ตำรวจขับประกบในลักษณะคล้ายคุ้มกัน เป็นคันที่ 3 คือรถของ ร.ต.ท.นิมิตร และยังมีรถคันอื่นๆ ตามกันมา รวมกว่า 10 คัน

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ภาพวงจรปิดอีกมุม เห็นว่า รถนำขบวนกำนันนกคันแรก เป็นรถจักรยานยนต์ตำรวจซึ่งเป็นรถหลวง เปิดไฟวับวาบ จอดขวางถนนกันพื้นที่ให้ขบวนของกำนันนก หน่อง และเก่ง (คนนำปืนไปฝัง) ผ่านเส้นทาง เพื่อไปที่บ้านของกำนันนก

ล่าสุด เมื่อช่วงประมาณ 20.00 น. วันนี้ (10ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่า จากการสอบปากคำทั้งวัน นายโบ๊ท ที่เป็นพนักงานราชการ กรมราชทัณฑ์ และนายเก่ง คนงานของสำนักงานกำนันนก ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้ง 2 ราย 1 ข้อหา คือทำลายหลักฐาน จากนี้จะขยายผลเพิ่มเติมกับตำรวจที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

สำหรับการไล่ดำเนินคดีจะแบ่งเป็น 3 แถว ซึ่งแถวหน้าได้มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ที่ร่วมกันทำลายหลักฐาน และพาผู้ต้องหาหลบหนี

ส่วนแถวที่ 2 เป็นกลุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ยับยั้งเหตุ หรือไม่จับกุมคนร้าย ตรงนี้ก็อาจจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน

ส่วนแถวที่ 3 คือกลุ่มที่เข้าไปร่วมงาน ต้องสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวได้มีการถามว่า สังคมมีการตั้งข้อสังเกต อาจมีการปรับเปลี่ยนผู้ต้องหา เพราะรูปพรรณสัณฐานที่ไม่ตรงกับที่เผยแพร่ออกมาหลังเกิดเหตุช่วงแรก และด้วยเนื่องจากกำนันนกมีเงิน อาจจะมีการหาแพะมารับบาปแทนตัวเองได้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ก็ได้บอกว่า ตำรวจได้มีการเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องหาทุกคน ยืนยันว่าไม่มีการสับเปลี่ยนได้แน่นอน

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า นครปฐมมีปัญหาลักษณะนี้มานาน ก็จะถือโอกาสนี้กวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล รวมไปถึงการกู้ศักดิ์ศรีตำรวจทุกระดับ

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า ในตอนนี้ในโลกโซเชียลมีการแชร์ข้อความในลักษณะเป็นการชิงตัวกำนันนก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ได้ตรวจสอบแล้ว บุคคลที่โพสต์เป็นบุคคลไม่มีตัวตน แต่ก็เรียกตัวมาตักเตือน แต่ยังไม่เข้าข่ายความผิดใดๆ

สำหรับขบวนรถกำนันนก 11 คัน ที่ออกจากจุดเกิดเหตุ มีรถคันที่ 1 เป็นรถกระบะ สีดำ นำขบวน, คันที่ 2 รถกระบะกำนันนก เป็นรถ SUV สีขาว, คันที่ 3 เป็นรถจักรยานยนต์ตำรวจคุ้มกัน, คันที่ 4 รถกระบะ สีดำ, คันที่ 5 รถกระบะสีขาว, คันที่ 6 ยังระบุไม่ได้ว่ามีใครอยู่ในรถ, คันที่ 7 รถกระบะสีดำ, คันที่ 8 คล้ายรถอเนกประสงค์สีขาว, คันที่ 9 กระบะสีบรอนซ์เทา, คันที่ 10 รถจักรยานยนต์ปิดท้ายขบวน และคันที่ 11 รถจักรยานยนต์อำนวยความสะดวกปิดจุดยูเทิร์น

นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณทางโค้ง หน้าวัดตาก้อง ก่อนถึงบ้านของกำนันนก ซึ่งจับภาพรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของกำนันนก มีรถตำรวจ 2 คันขับตามมาติดๆ ก่อนที่จะเห็นรถฟอร์ดของนายหน่อง ท่าผา ขับตามหลัง และปิดท้ายที่รถฟอร์จูนเนอร์สีขาวหลังคาดำตามหลังไปติดๆ และภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวยังจับภาพรถจักรยานยนต์ของนายเก่ง ซึ่งมีคนซ้อนท้ายไปรับเอาปืนจากรถกำนันเพื่อที่จะนำไปขุดหลุมฝัง พร้อมกับปิดท้ายขบวนที่รถจักรยานยนต์ของนายโบ๊ท ซึ่งอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ และขับตามหลังเพื่อที่จะไปนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทำลายหลักฐานโยนทิ้งน้ำ โดยกล้องวงจรปิดดังกล่าวจะเห็นขบวนขับตามกันมาก่อนที่จะไปบ้านของกำนัน

จากนั้น ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโรงเรียนวันตาก้อง ซึ่งเป็นกล้องชุดสุดท้ายที่จะเห็นขบวนและความเคลื่อนไหวก่อนถึงบ้านกำนันเพียง 50 เมตร สามารถจับภาพความเคลื่อนไหวทางรถที่ผ่านเข้าออกในคืนวันเกิดเหตุ 6 ก.ย. ได้ชัดที่สุด

โดยในคืนดังกล่าว (6 ก.ย.) เวลาประมาณ 21.35น. (เวลากล้อง 21.30น. ช้าไป 5 นาที) จับภาพกลุ่มขบวนรถของกำนันซึ่งขับนำเป็นคันแรกเข้าไปที่บ้านของตัวเอง ก่อนที่จะเห็นรถของ ร.ต.ท.นิมิตรตามไปติดๆ และจะมีรถมอเตอร์ไซต์ของตำรวจจราจรอีกคันขับตามหลัง ก่อนที่จะเห็นกลุ่มขบวนรถของนายหน่องและพรรคพวกขับตามหลัง และปิดท้ายที่รถของกลุ่มทำลายหลักฐานทั้งทิ้งอาวุธปืนและเซิร์ฟเวอร์ ขับตามเข้าไปท้ายสุด

จากนั้น กล้องวงจรปิดชุดดังกล่าวจะภาพเลยต่อเวลาประมาณ 21.48น. (เวลากล้อง 21.43 น ช้า5นาที) จับภาพรถเก๋ง คันเดียวกันกับที่กำนันนั่งไปมอบตัว และอยู่ในกลุ่มรถขบวนที่หลบหนีที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ที่บ้านของนายหน่อง โดยรถคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าไปที่บ้านกำนัน และมีรถมอเตอร์ไซต์ขับตามหลัง

และกล้องวงจรปิดตัวเดิม เวลาประมาณ 22.19 น. จับภาพกลุ่มขบวนรถซึ่งมีทั้งรถเก๋งและรถกระบะ อีก3คน โดยคาดว่าเป็นบรรดากลุ่มรถของพรรคพวกกำนัน (กลุ่ม ตร.ที่เป็นกุนชือ) ขับเข้าไปภายในบ้านของกำนัน