ทีมข่าวได้เดินทางที่ร้านดาวเทียมในจ.นครปฐม ซึ่งร้านแห่งนี้ติดตั้งกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ให้กับกำนันนก โดยได้พูดคุยกับนายพงษ์พัฒน์ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านดาวเทียมนครปฐม บอกว่า ตนเป็นคนติดตั้งกล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดให้กำนันนก โดยได้รับการติดต่อจากลูกน้องของกำนันนก และติดตั้ง 2 จุด คือ ที่สำนักงานกำนันนก และบ้านพักกำนันนก
จุดสำนักงานกำนันนกเข้าไปติดตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2566 โดยตอนที่เข้าไปติดตั้งพบว่าทางกำนันนกได้มีได้ติดตั้งวงจรปิดรุ่นเก่าอยู่ภายในสำนักงาน ก่อนหน้านี้ 6 ตัวแล้ว เป็นกล้องวงจรปิดรุ่นเก่าที่บันทึกแต่ภาพไม่สามารถบันทึกเสียงได้และมีเซิร์ฟเวอร์เก่าอยู่แล้ว 1 ตัว
ต่อมาทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 7 ตัว 7 จุด เป็นกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่คุณภาพดี มีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ภาพคมชัดและบันทึกเสียงได้ / 7 จุดที่ติดตั้ง ตัวกำนันนกเป็นคนฟิคจุดให้ คือ
จุด 1 และ 2 ประตูรั้วสำนักงานกำนัน
จุด 3 ป้อมยาม
จุด 4 อาคารจอดรถหรู
จุด 5 อาคารหลังป้อมยาม
จุด 6 หน้าห้องคาราโอเกะ (จุดเห็นมุมจัดโต๊ะจีน)
จุด 7 ห้องพระ หลังสระน้ำ
หลังติดตั้งกล้องวงจรปิดเสร็จก็ได้ทำการเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ตัวเก่าที่มีในสำนักงานกำนันนกเป็น เซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่กล่องดำ ยี่ห้อ ไฮวิว รุ่นซี่รี่ย์ 8500 โดยตกลงราคาในการติดตั้งครั้งนี้เกือบ 50,000 บาท หลังติดตั้งส่งผลให้ภายในสำนักงานกำนันนกมีกล้องวงจรปิดทั้งตัวเก่าและตัวใหม่รวมทั้งหมด 13 ตัวและมีเซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่ที่ควบคุมระบบ1 ตัว
ชี้จุดที่ตำรวจพากู้ภัยไปประดาน้ำหาหลักฐานเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดบริเวณจุดที่หนึ่งคูคลองน้ำข้างถนนตาก้อง-ดอนตูม เป็นเครื่องเดียวกันกับเซิร์ฟเวอร์ที่ตนติดตั้งให้ที่สำนักงานกำนันนกซึ่งเป็นกล่องดำ
ขณะที่จุดที่สองที่ตนได้รับการประสานจากลูกน้องกำนันนกให้ติดตั้งก็คือที่บ้านพักของกำนันนก ได้ทำการติดตั้งเมื่อช่วงปลายปี 2565 เมื่อเดินทางไปถึงที่บ้านพักของกำนันนกก็พบว่ากำนันนกได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณในบ้านพักและรอบบ้านพักจำนวนทั้งหมด 16 ตัว ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดรุ่นเก่าบันทึกได้เพียงภาพเหตุการณ์แต่ไม่สามารถบันทึกเสียงได้ โดยทางกำนันนกต้องการให้ตนเปลี่ยนเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมระบบใหม่เท่านั้น ทำให้ตนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ใหม่กล่องแดง ยี่ห้อ ไฮวิว รุ่นซี่รี่ย์ 8500 ชี้จุดเมื่อคืนทางตำรวจได้มีการค้นหาหลักฐานเพิ่มบริเวณคูคลองน้ำหลังวัดตาก้อง มีลักษณะเป็นเซิฟเวอร์กล่องแดงก็เป็นตัวเดียวกันกับที่ตอนไปติดตั้งให้ที่บ้านกำนันนก
ส่วนประเด็นที่ว่าจะสามารถกู้ภาพวงจรปิดคืนมาทั้งหมดได้หรือไม่หลังจากที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวพยายามทำลายหลักฐานคดีโดยการโยนทิ้งน้ำ ส่วนตัวตั้งประเด็นสงสัยไม่มั่นใจว่าหลังเกิดเหตุคนที่อยู่ในเหตุการณ์สั่งลบภาพวงจรปิดทั้งหมดหรือไม่ก่อนที่จะโยนลงน้ำ หากมีการสั่งลบภาพวงจรปิดทั้งหมดก่อนโยนลงน้ำก็ต้องทำการกู้ไฟล์ทั้งหมดคืนซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาและยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ทั้งหมด 100% หรือไม่ แต่หากไม่มีการสั่งลบภาพวงจรปิดก่อนที่จะโยนลงน้ำ ก็สามารถดูข้อมูลทั้งหมดได้ประมาณ 100%
ทั้งนี้เมื่อโยนเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดลงน้ำ ขณะที่ลงน้ำเครื่องถูกแช่น้ำไว้แต่ยังไม่ได้ชอร์ต เมื่อเอาขึ้นมาต้องทำให้อุณหภูมิของเซิร์ฟเวอร์ยังคงอุณหภูมิเท่าเดิมกับในน้ำ จึงจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อคืนหลังตำรวจนำเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาจากน้ำมีการนำใส่ถุงดำและใส่น้ำลงไปด้วยเพื่อรักษาอุณหภูมิไว้ให้เท่าเดิม เพราะถ้าหากไม่มีการรักษาอุณหภูมิไว้ก็อาจจะทำให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์มีปัญหา จากนั้นต้องรีบล้างเครื่อง คือ มีอุปกรณ์เทคนิคและทำให้น้ำแห้ง โดยใช้ไดร์เป่าผมหรือใช้วิธีอื่น เมื่อเครื่องแห้งปกติดีแล้วถึงเสียบปลั๊กจึงจะสามารถดูข้อมูลตามปกติได้
ส่วนโบ๊ท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำราชบุรีนั้น นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง โดยนายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่าบุคคลดังกล่าว ที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ คือ นายฐิตินันท์ เป็นพนักงานราชการที่มาปฎิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ยังทำงานไม่ถึงปีและมิใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้แล้ว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำฯ ประสานขอหลักฐานการจับกุมและการควบคุมตัวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงยกเลิกสัญญาจ้าง และในส่วนของการดำเนินคดีอาญาขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป โดยกรมราชทัณฑ์ ไม่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงต้องดำเนินการและลงโทษขั้นเด็ดขาด