เพื่อนร่วมรุ่นนรต.ร่ำไห้ร้องเพลงส่งวิญญาณสารวัตรแบงค์
ก่อนเริ่มพิธีพระราชธานเพลิงศพ เพื่อนนักเรียนในร้อยตำรวจรุ่นที่ 67 รุ่นเดียวกับผู้ตาย เป็นตัวแทนร่วมกันร้อง “เพลงสนสามพราน” ซึ่งเป็นเพลงของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับเพื่อน โดยยืนร้องเพลงตั้งแถวหน้าเมรุ ท่ามกลางฝนที่โปรยปราย มีเพื่อนตำรวจร่วมรุ่นหลายคนยืนร้องเพลงน้ำตาซึม และมีเสียงสะอื้น จนร้องจบเพลง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าผู้ที่มาร่วมงานหลายคนยืนร้องไห้ไปด้วย
ลูกน้องอ่านกลอนอำลาสารวัตรแบงค์กน้าเมรุ
จ่าสิบตำรวจพิทักษ์ มาลาทอง สังกัดกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ทำงานกับสารวัตรตั้งแต่ยศร้อยตำรวจเอก คือ ผู้กอง 4-5 ปี ตนเคยทํางานร่วมสุขร่วมทุกข์กับ สารวัตรศิว ก่อนจะย้ายไปดํารงตําแหน่งที่หน่วยงานตํารวจทางหลวง
พร้อมกับบอกว่าสารวัตรแบงค์เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนทำงานมุ่งมั่นและมีความซื่อสัตย์ต่อองค์กรตำรวจ และผู้บังคับบัญชา เวลาได้รับมอบหมายภารกิจอะไรก็จะทำทุกอย่างจนสำเร็จไม่วอกแวก ส่วนคดีก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พวกผมในฐานะลูกน้องขอสานต่องานตามนโยบายที่ลูกพี่ได้สั่งไว้ และจะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามที่สารวัตรได้สั่งสอนมา พวกเราลูกน้องรักสารวัตร เหมือนเดิมถึงแม้จะหารแค่กาย แต่ว่าจิตใจ เลือดความ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป ก่อนจะสะอื้น
ระหว่างพิธีในวันนี้ มีช่วงที่มีการอ่านประวัติการทำงานของสารวัตรแบงค์ แล้วมีคำพูดสุดท้ายก่อนที่สารวัตรจะสิ้นใจได้พูดคำว่าผมยังไม่อยากตายยังมีลูกน้องที่ต้องดูแล ลูกน้องคนนี้บอกว่าสารวัตรเป็นคนมุ่งมั่นทำหน้าที่สืบสวนมานาน และดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุล สารวัตรแบงค์
เวลา 13.15 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบตร. เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุล ทั้งหมด 3 ไตร โดยมีพระเจ้าคณะชั้นผู้ใหญ่ เป็นตัวแทนสงฆ์สวดบังสุกุล จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นประธานวางดอกไม้จันท์ โดยมีฝนโปรยปรายลงมาตลอด
ก่อนที่จะให้ผู้มาร่วมงานถือดอกไม้จันทน์ขึ้นไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ญาติตั้งแถวขอบคุณผู้ร่วมงาน โดยมอบของที่ระลึกคือ หนังสือสวดมนต์ และมีรูปหน้าปกพ.ต.ต.ศิวกร และข้างในมีรูป และบทกลอน
เปิดข้อความจากหนังสือที่ระลึกงานศพสารวัตรแบงค์
ในหนังสือที่ระลึกงานศพ มีบทสวดมนต์พร้อมกับประวัติของสารวัตรแบงค์อายุ 31 ปี
ช่วงท้ายหนังสือมีถ้อยคำไว้อาลัย เขียนว่า น้องชอบพูดตลอด “ บ้านเราทุกคนถูกสอนมาให้เป็นคนแข็งแกร่งทั้งกายทั้งใจทุกคนในบ้านเรามอบความรักความห่วงใยให้กันตลอดทำให้เรารู้จักเสียสละแบ่งปัน บ้านเราดูแลกันเองได้ดีมาก แบงค์อยากให้คนข้างนอกได้รับความรู้สึกความอบอุ่นนี้บ้าง ทุกคนอย่าน้อยใจ ถ้าแบงค์ไม่มีเวลาให้ แบงค์ขอเอาสิ่งที่ครอบครัวสอนและความรักความห่วงใยที่ครอบครัวมอบให้แบงค์ส่งต่อคนนอกบ้านนะแบงค์รักทุกคนเลย”
ท้ายคำไว้อาลัยมีสิ่งที่ครอบครัวอยากพูดถึงสารวัตรแบงค์ โดยมีข้อความว่า “ครอบครัวภูมิใจในตัวแบงค์ ไม่ใช่จากยศและตำแหน่ง แต่จากเกียรติที่มีในตัวแบงค์เองเธอคือความภูมิใจของครอบครัวเสมอมาและอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป”
นอกจากนี้ยังมีคำไว้อาลัยของพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดชผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางพูดถึงจุดเริ่มต้นตั้งแต่รู้จักกับสารวัตรแบงค์นิสัยเป็นคนสนุกสนานตามประสาวัยรุ่นความมีวินัยความแข็งแรงพูดถึงเป็นนายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะในงานด้านสืบสวนร่วมไขคดีสำคัญสำคัญของกองปราบตามด้วยกันหลายคดีนับไม่ถ้วน อุดรแทนตัว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาและพี่ชายคนหนึ่งภาคภูมิใจและเป็นเกลียดที่ได้ร่วมงานกับตำรวจน้ำดีอย่างสารวัตรแบงค์ขอให้ดวงวิญญาณของน้องไปสู่สุคติในภพภูมิที่ดี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยอยู่กับ "สารวัตรแบงค์" จนนาทีสุดท้ายพร้อมทวงคืนความยุติธรรม
เวลา 11.30 น. ที่วัดพระศรีมหาธาตุ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าวว่า เรื่องนี้ที่มันเกิดขึ้น เบื้องต้นตนสืบประเด็นเรื่องของ กำนันนกเรื่องของการนัดคุยนัดเจอ ขอเคลียร์ แต่สารวัตรสิวไม่ยอมและอีกเรื่องคือการขอตำแหน่ง เพิ่มเข้าไปอีกก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือยินยอมจะให้ตำแหน่ง พอตรงนั้นไม่พอใจไป2เรื่องแล้ว ก็มีการนัดกันกินเหล้าและดันกินสู้สารวัตรสิวไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องขึ้นมาอีกที จะเสียหน้าไม่ได้ ก็เลยมีการก่อเหตุขึ้น
ตนต้องบอกว่าสารวัตรสิว ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง จนนาทีสุดท้ายเพราะว่าการไปที่นั่นก็ยังเป็นหน้าที่ของราชการและยังอยู่ในพื้นที่ และตนมองว่าการคุยเรื่องตำแหน่งก็ยังอยู่ในเรื่องของราชการเหมือนกัน โดยในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าหน่วยและผู้บัญชาการสอบสวนกลางเป็นผู้บัญชาและส่งสารวัตรสิวมาอยู่ที่นี่ มีความเสียใจกับเรื่องนี้ ตนก็ได้อยู่กับสารวัตรสิวจนวาระสุดท้ายของชีวิต สิ่งหนึ่งที่จะทำได้คือการทำให้กฏหมาย มันศักดิ์สิทธิ์แล้วก็เรื่องของการคืนความยุติธรรม ให้กับข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ผมพูดกับสารวัตรสิวตอนที่ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว ผมบอกว่าพี่พี่น้องน้อง จะทวงความเป็นธรรมให้ พร้อมกับเอามือลูบหัวและวันนี้เราก็ได้ทวงคืนความยุติธรรมให้เขาแล้ว ในส่วนนึง ซึ่งหนังเรื่องนี้มันยังไม่จบก็ต้องว่ากันต่อ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
6 นายตำรวจ ผู้ต้องหาคดียิง สารวัตรแบงค์ ถูกนำตัว เข้าเรือนจำกลางสมุทรสงคราม
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 11 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุม 6 นายตำรวจ ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการยิงสารวัตรแบงค์ สารวัตรทางหลวง ออกจากศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ขึ้นรถผู้ต้องขังเรือนจำกลางสมุทรสงคราม ไปฝากขังผัดแรกที่เรือนจำกลางสมุทรสงคราม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เข้าไปในเรือนจำ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบริเวณรั้วเรือนจำกลางสมุทรสงครามแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ อายุ 58 ปี บก.ทล. ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร อายุ 59 ปี บก.ทล. ร.ต.ท.ประสาร รอดผล อายุ 58 ปี บก.ทล. และ ร.ต.ต.สรรเสริฐ ศรีสวัสดิ์ อายุ 55 ปี บก.ทล. ที่ถูกศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับ ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”