"เซีย จำปาทอง" ถามนายกรัฐมนตรี ขึ้นค่าแรงเมื่อไหร่ วันไหน? ย้อนไม่มี 600 บาท ในนโยบาย เพราะถอนเองหรือกลุ่มทุนผูกขาดขอมา หลังร่วมโต๊ะอาหาร
วันที่ 12 กันยายน 2566 การประชุมร่วมรัฐสภาวาระแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาวันสุดท้าย บรรยากาศเริ่มดุเดือดขึ้น ทันทีที่ นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยผิดหวังที่ไม่มีเรื่องแรงงาน เพราะตอนหาเสียงได้พูดถึงนโยบายด้านแรงงานชัดเจนที่สุดพรรคหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันแรงงานมีค่าจ้างไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ไม่ได้รับการคุ้มครอง ไม่มีอำนาจต่อรองและสวัสดิการสังคมไม่ตอบโจทย์ พร้อมยกตัวอย่าง คำแถลงการณ์เนื่องในวันแรงงานของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานว่าจะรดน้ำที่ราบ ซึ่งเป็นเพียงนโยบายที่สวยหรู ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้คำสัญญากับพี่น้องแรงงาน เมื่อวันแรงงาน ซึ่งทั้งสวยหรู ดูดี วันนี้นายกรัฐมนตรีลืมสัญญาแล้วหรือยัง แต่ในคำแถลงนโยบายกลับไม่มีนโยบายด้านแรงงาน หลายเรื่องที่เคยหาเสียงไว้ มีเพียง 2 เรื่อง คือ เงินดิจิทัล Wallet 10,000 บาทและ 30 บาทรักษาทุกโรค
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้เคยออกแถลงการณ์ด่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา ละเลยคุณภาพชีวิตแรงงาน แช่แข็งค่าจ้าง ไม่ให้สิทธิในการรวมตัว ท่านอุตส่าห์กระเสือกกระสนจนได้เป็นรัฐบาล ท่านก็ละเลยกับรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่สนใจแรงงานเช่นเดียวกับรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ เผด็จการเค้าทำกัน หรือท่านศีลเสมอกัน ถึงจับมือกอดคอหัวเราะตั้งรัฐบาลได้
นายเซีย กล่าวด้วยว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยอย่าไปลบนโยบายด้านแรงงานในเพจของพรรค อย่าทำเหมือนพรรคการเมืองบางพรรคที่หาเสียงไว้เมื่อปี 2562 เรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 425 บาท พอทำไม่ได้ มีคนถามมากๆ ก็แอบไปลบออกจากเพจ "มันจะว้าวุ่นเอานะครับท่าน เพราะท่านรอพรรคอื่นมาเยอะ วันนี้ตนไม่ขออะไรจากนายกฯ มาก พี่น้องรายงานขอให้รักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่ร้องแรงงาน โดยดำเงินงานตามที่หาเสียงไว้เท่านั้น"
นายเซีย ได้ตั้งคำถามไปถึงนายกรัฐมนตรีเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะถือเป็นผลงานของพรรคเพื่อไทย ก่อนเลือกตั้งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าจะทำได้จริงหรือไม่ นายกฯ และทุกคนในพรรคต่างยืนยันว่า ทำได้ เพราะเคยทำมาแล้ว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ตอนนี้เป็นยังไง ใครสั่งให้ท่านถอดเรื่องค่าแรงขั้นต่ำออกจากคำแถลงนโยบาย ท่านทำเองหรือกลุ่มทุนผูกขาดที่ร่วมโต๊ะอาหารกับท่านเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ขอร้องท่าน หรือพรรคการเมืองที่กำกับกระทรวงแรงงานสั่งท่าน ท่านอย่ายอมนะครับ เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรี อย่ายอมให้รัฐมนตรีขี่คอกดหัวเป็นอันขาด เสียชื่อท่านนายกหมด และเมื่อคืนนายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงว่า จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยเร็วที่สุด ขอถามกลับว่าเร็วที่สุดของท่านเมื่อไหร่ 1 ตุลาคม 2566 หรือ 1 มกราคม 2567 หรือ 1 มกราคม 2570 วันไหนเอาให้ชัดไปเลย ว่านโยบายที่หาเสียงเอาไว้ทำแน่นอน ในวันที่เท่าไหร่ แต่ถ้าหากยังกั๊กไม่ชัดเจน อาจจะมีพี่น้องแรงงานต่อว่า ว่าท่านกะล่อนหลอกลวง เหมือนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ก็อย่าถือโทษโกรธเคืองกัน เพราะคำพูดของคนเราสำคัญ เชื่อว่าคงเคยได้ฟังนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะมาแล้ว
นโยบายแรงงานไม่ได้ใช้งบประมาณมากมายใช้เพียงความกล้าหาญของท่านในการปฎิบัติหน้าที่ หากทำได้ก็จะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน หากท่านทำได้ ก็จะเป็นคนที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี แรงงานไทยก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปพร้อมพร้อมกัน