วันที่ 12 ก.ย. 2566 มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกำนันนก นายหน่อง และตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ พบว่า 5 ใน 6 นายตำรวจ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ มีเส้นทางการเงินที่สัมพันธ์กัน คือ มีเส้นทางการเงินจากนายหน่อง ถูกโอนไปยังนายตำรวจ 5 นายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องครั้งละหลายพันบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสืบสวนที่ชุดสืบสวนกองปราบ พบว่า นายหน่องจะทำหน้าที่ถือเงินแทนกำนันนก เพื่อใช้จ่ายต่างๆ นานาแทนกำนันนก หรือจ่ายเงินตามที่กำนันนกสั่งการ ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า กำนันนกมีส่วนพัวพันกับแก๊งพนันออนไลน์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด แต่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ขณะที่ นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยหนึ่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เปิดเผยถึงกระแสข่าวความสัมพันธ์สนิทสนมกับกำนันนก และมีภาพไปปรากฏในงานวันเกิดกำนันคนดังที่มีการเผยแพร่ในโซเชียล บอกว่าที่ตนปรากฏบนเวทีงานวันเกิดกำนันนก เมื่อเดือน พ.ย.2565 นั้น เป็นการไปร่วมงานวันเกิดกำนัน ไม่ใช่เฉพาะงานกำนันนกเท่านั้นแต่ไปทึกกำนัน เพราะจังหวัดนครปฐม จัดตั้งเป็นชมรม เมื่อเราไปงานมงคลก็ต้องอวยพรแต่สิ่งดีๆ จะเห็นว่าในงานมีกำนันหลายตำบล เพราะเมืองนครปฐมมีชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และงานวันเกิดกำนันนก ตนไปในฐานะแขกที่ได้รับเชิญ จึงไม่ได้ชวนคนอื่นไปด้วย เรื่องจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

“แต่เมื่อย้อนไปปี 2563 ก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่งนายก อบจ. บริษัทกำนันนกได้งานมากถึง 31 โครงการ งบประมาณ 105 ล้านบาท ขณะที่บริษัทของพ่อกำนันนก (ป.พัฒนารุ่งโรจน์) เมื่อปี 2563 ได้ 8 โครงการงบ 105 ล้านบาท ผมเข้ารับตำแหน่งปี 2564 ได้ 9 โครงการ งบ 78 ล้านบาท ปี 2565 ได้ 4 โครงการ งบ 58 ล้านบาท และปี 2566 ได้ 1 โครงการ งบ 20 ล้านบาท” นายก อบจ.กล่าว สถิติหลอกกันไม่ได้ เป็นตัวเลขชัดเจน หากมองตามสัดส่วนแล้วบริษัทกำนันนก และบริษัทของพ่อกำนันนก มีสัดส่วนแค่ 5-7 % เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงตามนี้

ขณะที่วันนี้ ช่วง 07.30 น. พ่อแม่และครอบครัวของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ “สารวัตรแบงค์” สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เดินทางมาเก็บอัฐิของสารวัตรที่เมรุ 1 วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน กทม. โดยทางครอบครัว ได้เตรียมสำรับอาหารคาวหวานพร้อมจุดธูปหนึ่งดอก ก่อนที่จะเดินขึ้นเมรุเพื่อไปเก็บอัฐิ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำอัฐิสารวัตรเเบงค์มาเรียงเป็นรูปคน ก่อนที่คุณพ่อแม่และญาติพูดในช่วงเก็บกระดูกให้สารวัตรไปสบาย สู่สุคติ โดยเฉพาะแม่ของสารวัตรแบงค์ บอกว่า ไปสบายไม่เหนื่อย ไม่เครียดแล้วนะลูก

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำพานใส่อัฐิ แล้วว่าบนโต๊ะพิธี โดยมีรูปของสารวัตรแบงค์วางอยู่ด้านหน้าจากนั้นครอบครัวได้นำดอกไม้โปรยไปที่อัฐิที่วางหันหัวไว้ทางทิศตะวันตกโดยมีพระมาสวดบังสุกุลตายก่อน จากนั้นหันอัฐิเปลี่ยนทิศตะวันออก แล้วพระสวดบังสุกุลอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ครอบครัวจะนำรูปและอัฐิของสารวัตรแบงค์ไปประกอบพิธีที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมดช่วงเวลาก่อน 9โมงเช้า พ.อ.อ.ศิลนา สายบัว และนางทัศนัย สายบัว พ่อและแม่ของสารวัตรแบงค์ยกมือไหว้ขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงทุกช่องที่ตีแผ่ข่าวสารนี้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ที่ตอนแรกยังไม่ให้สัมภาษณ์เพราะอยากจัดงานของลูกชายให้สมเกียรติ เพราะครอบครัวทำกันเองทั้งหมด

แม่สารวัตรแบงค์ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความเมตตา สรรเสริญ ส่วนคดีนั้นขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของหน่วยงาน ขอขอบคุณสื่อที่ช่วยตีแผ่ ทำให้เรื่องคดีเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนในครอบครัวมั่นใจ คำมั่นที่ผู้บังคับบัญชาให้ไว้ว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่

ส่วนที่สังคมมองว่าสารวัตรแบงค์เป็นฮีโร่นั้น แม่ขอขอบคุณ คนในสังคมที่มอบคำว่าฮีโร่ให้พี่แบงค์ แต่สำหรับแม่ คำนี้มันเทียบกับชีวิตของลูกแม่ที่สูญเสียไม่ได้ เขาแลกชีวิตกับคำว่าฮีโร่ มันไม่ใช่เพราะแม่มีลูกชายคนเดียว

แม่สารวัตรแบงค์บอกว่า เมื่อลูกลาโลกไปแล้วถึงรู้ว่าลูกทำความดีขณะนี้มีคนรักมากขนาดนี้ ในระหว่างงานศพแม่พยายามไม่ร้องไห้ แม่ปลื้มใจมากที่เห็นคน พี่ทั้งรู้จักและไม่รู้จักมากันงานศพ ชายโดยไม่ได้นัดหมายกัน ทุกคนมาเพื่อที่จะไว้อาลัยและส่งสารวัตรแบงค์เป็นครั้งสุดท้าย แม่ขอขอบคุณทุกคนมากจริงๆ

ถามว่าลูกชายแม่ได้เราความเครียดในการทำงานเป็นตำรวจทางหลวงหรือไม่ คุณแม่ของสารวัตรแบงค์บอกว่า สารวัตรแบงค์จะบอกว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นคนแยกเรื่องงานกับเรื่องครอบครัวชัดเจน ครอบครัวจะอยู่ในเซฟโซน ส่วนแม่จะเห็นตอนสารวัตรแบงค์ร่าเริง สนุกสนาน และเป็นคนชอบดื่ม ชอบเข้าสังคม ส่วนใหญ่เเม่จะเป็นห่วงเวลาดื่มมากกว่า ส่วนปัญหาต่างๆ ในการทำงาน ส่วนใหญ่สารวัตรจะเล่าให้พี่สาวฟัง แม่จะรู้เรื่องเป็นคนสุดท้าย บางทีก็ต่อสู้ (หมายถึงแม่จะดุสารวัตร) กันบ้าง เพราะเป็นห่วง

ประเด็นความเชื่อที่สารวัตรแบงค์ได้มาบอกลาครอบครัวนั้น แม่บอกว่าหลังจากเสร็จสิ้นงานศพก็ยังไม่เห็นสารวัตรมาบอกลาครอบครัว ตัวแม่เองก็อยากจะให้ลูกมาหา เมื่อคืนแม่อธิษฐานให้เข้าฝัน เพราะลูกสนิทกับแม่ สารวัตรเป็นคนขี้อ้อน ชอบหอม ชอบกอด ชอบสัมผัส เจอครั้งสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สารวัตรมากอดเข่าแม่ แล้วบอกว่าแม่ ผมกลับก่อนนะ แม่ยังอวยพรให้โชคดีมีชัยและหอมแก้มซึ่งก็ทำแบบนี้เป็นประจำเวลาเจอกัน

ทีมข่าวได้สอบถามว่า พันตำรวจเอกวชิรา พี่เสียชีวิตเมื่อวานนี้ ได้มางานศพสารวัตรแบงค์หรือไม่ ครอบครัวสารวัตรแบงค์บอกว่าไม่ได้สังเกต เพราะว่าตอนนั้นกำลังวุ่นกับการจัดงานศพของสารวัตรแบงค์ ก่อนที่พ่อสารวัตรแบงค์จะตอบขึ้นมาว่าอาจจะมาเพื่อขออโหสิกรรม แต่ไม่ได้สังเกต ส่วนตำรวจอีก 20 กว่านาย ที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุพ่อกับแม่ของสารวัตรแบงค์ก็ไม่เห็นว่าทั้งหมดมาร่วมงานหรือไม่ได้เข้ามาคุยส่วนตัวด้วยเลย

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีในวันนี้แล้ว ครอบครัวนำอัฐิของสารวัตรแบงค์ไปไว้ที่บ้าน 7 วัน จากนั้นจะนำอัฐิไปเก็บไว้ที่วัดสุวรรณาราม จ.นครพนมเป็นเวลา 100 วัน เมื่อทำบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำอัฐิของสารวัตรแบงค์ลอยอังคารที่แม่น้ำโขง เป็นสายนทีที่สารวัตรแบงค์ชอบมาก

ก่อนที่ครอบครัวของสารวัตรแบงค์จะนำอัฐิกลับไปที่บ้านย่านสายไหม กรุงเทพมหานครนั้น ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยตอนที่คุณแม่หยิบรูปของสารวัตรแบงค์ออกจากศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน โดยเป็นจังหวะที่คุณแม่หยิบรูปที่วางหน้าศพของลูกชายคนเดียวเพื่อจะนำกลับบ้าน สีหน้าคุณแม่ดูผ่อนคลายมองรูปสารวัตรแบงค์ แล้วคุยกับทีมข่าวว่า รูปนี้ถ่ายไว้ในวันที่สถาปนาตำรวจทางหลวง ที่ใช้รูปนี้ตั้งหน้าศพ เพราะลูกชายชอบเครื่องแบบ และลูกชายถ่ายรูปยิ้มหล่อ แม่พูดลูกว่าเดี๋ยวกลับบ้านเรา

ถามว่ามีคำพูดสุดท้ายก่อนที่สารวัตรนั้นจะจากไปหรือไม่แม่บอกว่าก่อนที่ เกิดเหตุขึ้นกับสารวัตรแบงค์นั้น เจ้าตัวได้โทรมาร้องไห้กับพี่สาว พอแม่รู้แม่รีบโทรหา แต่สารวัตรแบงค์บอกไม่มีอะไร
แม่ก็ถามสารวัตรแบงค์ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”

สุดท้ายเจ้าตัวตอบแม่กลับมาว่า “แม่แบงค์เหนื่อย” แม่ให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า” เหนื่อยก็พัก” สารวัตร์แบงค์ตอบว่า “ แม่แบงค์จะเป็นตำรวจที่ดี ตำรวจน้ำดี อยากปฏิรูปตำรวจ อยากทำหลายอย่าง” แม่ตอบ “โอเคเป็นได้แต่มันต้องค่อยเป็นค่อยไป”

แม่เล่าถึงนาทีที่แม่รู้ข่าวตอน 4 ทุ่มว่า ลูกชายถูกยิงก็รีบไป จ.นครปฐม ระหว่างทางได้แต่ภาวนาไปพร้อมพ่อขอให้ลูกชายแค่บาดเจ็บ ถ้าออกจากห้องผ่าตัดแล้วก็จะย้ายมารักษาตัวที่กรุงเทพ หาโรงพยาบาลที่ดีที่สุดหาหมอให้ดีที่สุดลูกเราต้องไม่เป็นอะไร เพียงแค่ 5 นาทีหลังจากนั้นเพื่อนของสารวัตรแบงค์โทรกลับมาบอกแม่ว่าแม่แบงค์หัวใจหยุดเต้น 1 ครั้ง แม่ก็รู้แล้ว ไปถึงตอนลูกชายหมดลมไปแล้ว แม่ก็ได้ขออโหสิกรรม แล้วก็ขอให้ลูกชายเดินทางสู่สัมปรายภพที่ดี

เรื่องคดีแม่บอกแม่ไม่ติดใจ ไม่ขอยุ่ง ให้เป็นไปตามกระบวนการสวนตำรวจอยากได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมถ้าแม่พอทราบแม่ก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ส่วนคนก่อเหตุนั้นแม่ก็อโหสิกรรมให้ตั้งแต่วินาทีแรกที่แม่รู้ว่าลูกชายหมดลมหายใจ จะได้ไม่มีเวรไม่มีกรรมต่อกันแต่กรรมใดที่ใครทำ ก็รับกรรมของตัวเองไปแค่นั้น

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางสาวภัสชฎา อินธิโส ลูกพี่ลูกน้อง ถือเป็นพี่สาวคนที่สารวัตรแบงค์สนิทสนม มีอะไรจะปรึกษาตลอด พี่สาวคนนี้เราว่าสารวัตรแบงค์เป็นคนสนุกสนาน รักพี่น้อง เป็นคนใจใหญ่ กลัวคนอื่นลำบาก แต่เป็นคนมีจุด ยืนเป็นของตัวเอง ถ้าอันไหนไม่ถูกต้อง ทำไม่ได้เจ้าตัวจะบอกเลยว่าทำไม่ได้

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการทำงาน พี่สาวคนนี้บอกว่าสารวัตรแบงค์เคยมาบ่น คือก่อนหน้านี้ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา สารวัตรแบงค์โทรมาร้องไห้ ว่าเหนื่อยจังเลยพี่แพรว แบงค์ขอกำลังใจ สงสารลูกน้องที่มีเรื่อง แล้วรายได้ไม่พอ สารวัตรแบงค์ใช้เงินตัวเองหมุนช่วยลูกน้อง คือเจ้าตัวมีจุดยืนว่า ตัวเองอิ่ม ลูกน้องต้องอิ่ม

อย่างตอนที่สารวัตรแบงค์เสียชีวิตไปแล้ว เรื่องกระเป๋าที่ไปเจอเงินจำนวนหนึ่ง ญาติให้ข้อมูลว่าเงินก้อนนีเเป็นเงินกองกลาง ที่สารวัตรเเบงค์เก็บไว้ให้ลูกน้องเบิกกรณีไม่พอใช้ หรือ ต้องใช้เงินฉุกเฉิน อย่างตอนช่วงโควิด-19 สารวัตรก็ไปกู้เงินมาช่วยมาหมุนจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ลูกน้อง

ส่วนประเด็นว่ามีปัญหากับใครหรือไม่ พี่สาวคนนี้บอกว่าสารวัตรแบงค์ไม่มีปัญหากับใคร มีแต่บ่นเรื่องเหนื่อยกับงานเท่านั้น ทางบ้านยังเคยบอกเลยว่าถ้าเหนื่อยมากให้ลาออกมาทำงานที่บ้าน เพราะพี่สาวคนนี้ไม่ชอบเห็นน้องร้องไห้ เพราะที่บ้านช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่ด้วยความที่น้องชายรักในอาชีพก็ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ลาออก เพราะเจ้าตัวภาคภูมิใจในงานที่ทำ และบอกว่ามีคนรักแบงค์เยอะ แบงค์ต้องดูแลลูกน้อง

บีบใจ สารวัตรแบงค์ร่ำไห้ก่อนตายพูดถึงลูกน้อง สัญญากับแม่จะเป็นตำรวจน้ำดี